จับตายางไทย ขานรับอุตสาหกรรมรถยนต์ของจีนเริ่มขยายตัว ส่งสัญญาณคึกคัก

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday April 21, 2009 15:34 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 เม.ย.--AFET นายนิทัศน์ ภัทรโยธิน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย หรือ AFET เปิดเผยว่า "แนวโน้มการส่งออกยางของไทยเริ่มคึกคักขึ้นในไตรมาสที่ 2 หลังจากประเทศจีนประกาศการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนที่มีตัวเลข GDP ไม่ต่ำกว่า 6% โดยอุตสาหกรรมยางล้อรถยนต์ได้มีสัญญาณการขยายตัวตามอุตสาหกรรมรถยนต์ ประกอบกับสต็อกยางเริ่มหดตัวลง โดยเฉพาะในตลาดเซี่ยงไฮ้ ทำให้มีการสั่งซื้อยางพาราเพิ่มขึ้น และยังนับเป็นการส่งสัญญาณในเชิงบวกให้กับเศรษฐกิจโลกอีกด้วย พร้อมทั้งการไม่ต่ออายุมาตรการระยะสั้นในการแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำตามมติที่ประชุมสภาความร่วมมือด้านยางระหว่างประเทศ (IRTC) ที่ไทยจะต้องลดการส่งออกในช่วงไตรมาสแรก(ม.ค.-มี.ค) อันทำให้การส่งออกมีความล่าช้า เนื่องจากต้องมีการตรวจสอบสต๊อกยางของผู้ส่งออก และควบคุมการออกใบผ่านด่านไม่ให้ส่งออกยางในปริมาณเกินที่กำหนดแต่ละเดือน ส่งผลให้ไตรมาสแรกมีปริมาณการซื้อขายยางลดลงอย่างมาก นอกจากนี้ในด้านปริมาณการผลิตยาง ตั้งแต่กลางเดือนเมษายนนี้ จะเป็นช่วงเปิดหน้ายางและเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลกรีดยาง เป็นผลให้ปริมาณยางเริ่มทยอยออกสู่ตลาดมากขึ้น ทำให้ผู้ซื้อผู้ขายในตลาดจริง เริ่มรับซื้อยางและวางแผนการผลิตรอบใหม่ ปัจจัยดังกล่าวน่าจะผลักดันให้ราคายางในตลาดจริงเริ่มมีแนวโน้มปรับตัวและมีทิศทางที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น นายนิทัศน์ กล่าวเสริมว่า "สำหรับการซื้อขายใน AFET ก็เป็นไปตามภาวะของตลาดยางทั้งในและต่างประเทศ โดยความผันผวนของราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 (RSS3) ในเดือนมกราคม เท่ากับ 61.43% เดือนกุมภาพันธ์ เทากับ 15.90% และล่าสุดเดือนมีนาคม ความผันผวนเริ่มสูงขึ้น เท่ากับ 22.92% สำหรับในเดือนเมษายน ความผันผวนของราคาได้กลับมาเพิ่มสูงขึ้นเป็น 46.30% ตามปัจจัยด้านอุปสงค์และอุปทานประกอบกับราคาน้ำมันและอัตราแลกเปลี่ยนของเงินดอลล่าร์สหรัฐและเงินเยนมีความผันผวนมากขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจโลก ดังนั้นจากปัจจัยสนับสนุนดังกล่าวทั้งในเรื่องของอุปสงค์และอุปทาน ประกอบกับข้อมูลเกี่ยวกับการคาดการณ์เศรษฐกิจโลกเป็นสัญญาณที่คาดว่าจะทำให้การซื้อขายยางล่วงหน้ากลับมาคึกคักอีกครั้ง สำหรับผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับสินค้ายาง ถือเป็นช่วงที่เริ่มกลับเข้าสู่ฤดูกาลและสามารถใช้ราคายางล่วงหน้า เพื่อวางแผนและจัดการความเสี่ยงในธุรกิจได้ ส่วนนักลงทุนที่กำลังมองหาเครื่องมือการลงทุนที่จะสร้างผลตอบแทน ก็จะเริ่มกลับเข้ามาซื้อขายในตลาดอีกครั้ง” นายนิทัศน์ กล่าวในที่สุด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณอิสราพร กิจไพฑูรย์ ฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) โทร 0-2263-9888, 0-2251-9535 หรือ www.afet.or.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ