ปตท. นำลดขายปลีกน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ลง 50 สตางค์ มีผลพรุ่งนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday April 28, 2009 15:15 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 เม.ย.--ปตท. นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ตลาดขายปลีกหน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันตลาดโลกมีแนวโน้มอ่อนตัวลง จากความวิตกถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจหลังจากองค์การอนามัยโลกได้ประกาศเตือนว่าไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ที่ระบาดในเม็กซิโก (Maxican Flu) เป็นปัญหาฉุกเฉินด้านสาธารณสุขในระดับนานาชาติ ประกอบกับข่าวเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น 1.7% เทียบกับค่าเงินยูโร จากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป (European Central Bank: ECB) จะลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมวันที่ 7 พ.ค.ศกนี้ นอกจากนี้ ในส่วนของน้ำมันสำเร็จรูปเบนซินในภูมิภาคเอเชีย ยังได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำมันในภูมิภาคที่เริ่มเพิ่มสูงขึ้น จากการกลับมาดำเนินการของโรงกลั่นภายหลังจากการปิดซ่อมบำรุง ในวันนี้ (28 เม.ย.52) ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 48.80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล น้ำมันสำเร็จรูปเบนซินสิงคโปร์ อยู่ที่ 56.31 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 55.59 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากแนวโน้มราคาที่อ่อนตัวลงดังกล่าว ปตท.จึงสามารถประกาศข่าวดี ลดราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ลง ให้ผู้บริโภค 50 สตางค์/ลิตร (ยกเว้นน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85) ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (29 เม.ย.52) เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป เป็นดังนี้ หน่วย : บาท/ ลิตร น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 (พีทีที E 85 พลัส) 21.29 น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 (พีทีที E 20 พลัส) 23.44 น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 95) 25.74 น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 (พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 91) 24.94 น้ำมันเบนซิน 91 (พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91) 29.54 น้ำมันไบโอดีเซล (พีทีที B5 พลัส) 19.79 น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (พีทีที เดลต้า เอ็กซ์) 22.79 นายวิทยา กล่าวต่อไปว่า ปตท. ขอยืนยันว่าได้ดูแลการปรับราคาอย่างดีที่สุด โดยค่าการตลาดไม่สามารถพิจารณาเพียงวันใดวันหนึ่ง ต้องพิจารณาในภาพรวม ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงหยุดเทศกาลสงกรานต์จะเห็นว่าราคาน้ำมันโลกปรับตัวสูงขึ้น แต่ ปตท. ก็มิได้ขึ้นราคาขายปลีกในประเทศตาม ส่วนค่าการตลาดเฉลี่ยสะสมในปี 2552 นั้น ปัจจุบันอยู่ที่ 1.42 บาท/ลิตร ซึ่งก็ยังคงต่ำกว่า 1.50 บาท/ลิตร ช่วงนี้ราคาน้ำมันยังคงอ่อนไหวตามข่าวรายวัน โดยองค์การอนามัยโลกประกาศเพิ่มระดับความรุนแรงของไข้หวัดหมูจากระดับ 3 เป็นระดับ 4 โดย World Bank ประเมินว่าอาจต้องใช้ค่าใช้จ่ายถึง 3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อรับมือไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดไปทั่วโลก ซึ่งจะทำให้ GDP ลดลงประมาณ 5% แต่อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาผลการประชุมของกลุ่มโอเปกในวันที่ 28 พ.ค.นี้ ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงการผลิตหรือไม่ โดย นาย Mohammad Ali Khatibi OPEC Governor ของอิหร่านเห็นว่า กลุ่มโอเปกควรลดการผลิตลงอีกหากต้องการให้ราคาน้ำมันดิบอยู่ในระดับ 70-80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับราคาที่สูงเพียงพอในการกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในแหล่งผลิตใหม่ โทรศัพท์ 0 2537 2538 ฝ่ายสื่อสารองค์กร ปตท.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ