“อินเด็กซ์” ปฏิวัติตลาดเฟอร์นิเจอร์ ชูยุทธศาสตร์ Enjoy Customer Strategy ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ประกาศใช้ ราคาเดียว “ราคาจริงใจ ไม่ต้องรอลด”

ข่าวทั่วไป Thursday July 27, 2006 14:38 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 ก.ค.--อินเด็กซ์
“ อินเด็กซ์ ” ปฏิวัติตลาดเฟอร์นิเจอร์ ชูยุทธศาสตร์ Enjoy Customer Strategy ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ประกาศใช้ ราคาเดียว “ราคาจริงใจ ไม่ต้องรอลด” การันตีมาตรฐานสินค้าคุณภาพ เพื่อสร้างความคุ้มค่า คุ้มราคา และรักษาภาพลักษณ์แบรนด์คุณภาพ ผ่านสัญลักษณ์ Joy Price เริ่มสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้
นายกิจจา ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัดในเครืออินเด็กซ์อินเตอร์เฟิร์น ผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ “อินเด็กซ์” ในฐานะผู้นำตลาดเฟอร์นิเจอร์ของไทย กล่าวถึงนโยบายทางการตลาดในช่วงครึ่งปีหลังนี้ว่า ในสภาวะตลาดที่มีการแข่งขันสูงเช่นปัจจุบัน และสภาพเศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะชะลอตัวลง บริษัท ฯ ต้องปรับกลยุทธ์เพื่อสร้างจุดเด่นในการแข่งขันทางการตลาด ด้วยการศึกษาผลวิจัยพฤติกรรมการซื้อสินค้าเฟอร์นิเจอร์ในตลาดอยู่ตลอดเวลา ล่าสุดเราได้สรุปข้อมูลที่น่าสนใจ หลายประเด็นและได้นำมาวางแนวนโยบายทางการตลาด เพื่อปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับความต้องการ และพฤติกรรมการซื้อสินค้าของลูกค้าเพื่อให้เกิดการนำเสนอสินค้าและบริการที่ตรงใจลูกค้ามากที่สุด
เพื่อให้แผนการตลาดบรรลุวัตถุประสงค์ ภายใต้ปรัชญาในการดำเนินงานที่ มุ่งนำเสนอสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ เพื่อเพิ่มความสุขและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคให้ดีขึ้น Index Living Mall For Better Living จึงมีการนำกลยุทธ์ทางการตลาดที่เรียกว่า “ Enjoy Customer Strategy “ เกิดขึ้นจากการนำผลวิจัยพฤติกรรมและการตัดสินใจซื้อเฟอร์นิเจอร์ของลูกค้ามาใช้เป็นแกนหลักในการดำเนินงาน ประกอบด้วย 4 Joy ด้วยกันคือ 1. Joy Price มาตรฐานใหม่ของการตั้งราคาเฟอร์นิเจอร์ ภายใต้คุณภาพเดิมที่ลูกค้าไว้วางใจได้ 2. Joy Quality การผลิตสินค้าที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล เพื่อมอบสินค้าและบริการที่ได้มาตรฐานให้ลูกค้าอย่างคุ้มค่า คุ้มราคา 3.Joy Design การออกแบบสร้างสรรค์สินค้าให้ได้มาตรฐานสากล เพื่อเพิ่มสุนทรียภาพในการใช้งาน คู่กับประโยชน์ใช้สอย 4. Joy Service การพัฒนาคุณภาพด้านการบริการให้ได้มาตรฐานสากล เพื่อมอบบริการระดับคุณภาพ ที่เหนือความคาดหมายของลูกค้า
นายกิจจา กล่าวว่า กลยุทธ์ดังกล่าวนั้นบริษัท ฯ ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาตลอดตั้งแต่การพัฒนารูปแบบสเปเชียลมอลล์ อินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์ และล่าสุด Joy Price ซึ่งเป็นเรื่องราคานั้นเกิดขึ้น จากการวิจัยพฤติกรรมการตัดสินใจซื้อเฟอร์นิเจอร์ เราพบว่า มีคำถามที่น่าสนใจดังนี้ คือ 1. สินค้าเฟอร์นิเจอร์เป็นสินค้าที่ลูกค้าต้องการซื้อความคงทน ถาวรนอกเหนือจากประโยชน์ใช้สอยโดยตรง 2.ลูกค้ารู้สึกว่า เฟอร์นิเจอร์ยังมีราคาสูงอยู่โดยภาพรวมของตลาด ทำให้ลูกค้าบางกลุ่มที่มีกำลังซื้อไม่พอ ต้องหันไปซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่มีราคาถูกมาก ทำให้คุณภาพสินค้าไม่ได้มาตรฐาน 3. ต้องรอลดราคาจึงจะดึงดูดให้ซื้อ 4. ลูกค้าไม่มั่นใจว่า ราคาที่ตัวเองได้ซื้อไปแล้ว
นั้น แพงหรือถูก คือไม่มั่นใจว่า เป็นราคาที่ดีที่สุด 5.ลูกค้าบางกลุ่มเกิดคำถามว่า สินค้าที่นำมาลดราคา และตนเองได้ซื้อไปนั้น เป็นสินค้าค้างสต๊อกหรือเป็นสินค้าตกรุ่นหรือไม่
จากความไม่มั่นใจเรื่องราคาของผู้บริโภคที่มาจากผลวิจัย และในภาวะที่ค่าครองชีพสูงขึ้น จากราคาน้ำมันเช่นนี้ ทำให้เราในฐานะเป็นทั้งผู้ผลิตและผู้จำหน่ายแบบครบวงจร หันกลับมาศึกษาปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อโครงสร้างต้นทุนราคา ทั้งด้านการผลิต การจัดจำหน่าย การจัดส่ง และได้ปรับปรุงพัฒนา แก้ไข เพื่อให้ปัจจัยเหล่านี้มีต้นทุนต่ำลง และส่งผลให้ราคาจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์มีความเหมาะสม และเป็นราคาที่สมเหตุสมผล และมีระดับราคาที่สามารถตอบสนองต่อกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้น นั่นคือทำการทำให้ลูกค้าสามารถจ่ายเงินที่เขามีอยู่ ซื้อเฟอร์นิเจอร์ได้มากขึ้น และเป็นราคาที่คุ้มค่า (Value For Money)
นายกิจจา กล่าวอีกว่า การต้องปรับตัวเพื่อให้สามารถ แข่งขันในตลาดต่างประเทศเพื่อผลักดันการส่งออกในช่วงที่ผ่านมา เป็นผลดีที่ช่วยทำให้เราได้เร่งปรับตัวเพื่อจัดการปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อโครงสร้างราคา เช่นด้านการผลิตนั้น ในส่วนของโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ในเครืออินเด็กซ์ได้ดำเนินการศึกษาและได้ปรับปรุง การทำงานของเครื่องจักร , การใช้วัตถุดิบอย่างคุ้มค่า และลดการสูญเสียต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น มีการพัฒนาการบริหารจัดการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่ทันสมัยเข้ามาใช้ เพื่อมุ่งไปสู่ความเป็นเลิศด้านการผลิตซึ่งได้ดำเนินการต่อเนื่องมากว่า 5 ปีแล้ว
กอรปกับการที่บริษัท ฯ มีฐานลูกค้าทั้งตลาดภายใน และตลาดส่งออกต่างประเทศมากว่า 25 ปีทำให้มีจุดแข็งในเรื่องของการได้เปรียบในเชิงปริมาณการผลิตจำนวนมาก จึงทำให้ได้เปรียบด้านราคาต้นทุนวัตถุดิบตามมา ผนวกกับการบริหารจัดการในฐานะที่เป็นทั้ง ผู้ผลิต มีโรงงานเอง เป็นผู้จำหน่าย มีช่องทางในการจำหน่ายและทำตลาดเอง รวมทั้งเป็นเจ้าของแบรนด์สินค้าเองด้วย กระบวนการตลาดทั้งหมดจึงเป็นการติดต่อโดยตรงกับลูกค้า
ดังนั้น ในเชิงหลักเศรษฐศาสตร์ จึงมีความคุ้มค่าในด้านการผลิต เพราะมีปริมาณการผลิตสูง (Economy of Scale ) จึงทำให้ต้นทุนต่อหน่วยผลิตต่ำ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ลงทุนประมาณ 50 ล้านบาท นำซอฟต์แวร์ ของ SAP และโนฮาวในการบริหารสินค้าคงคลัง ( Ware House Management ) ที่สามารถรู้สต๊อกจริงจากหน้าร้านได้ทันที ว่ามีปริมาณเท่าไร เป็นการรู้แบบReal Time ช่วยทำให้หน้าร้านสามารถบริหารงานขาย และให้บริการรวมทั้งประสานกับคลังสินค้าได้แม่นยำ และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เรามีการจัดการ ด้านระบบจัดส่งและกระจายสินค้าระหว่างคลังสินค้า และหน้าร้าน (Logistics) ทั้งรถขนส่ง กว่า 150 คันและระบบการบรรจุหีบห่อ หรือบรรจุภัณฑ์ แบบ Flat Pack ทำให้สามารถใช้พื้นที่วางสินค้าในรถขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ จัดส่งสินค้าในจำนวนมากขึ้นด้วย ควบคู่ไปการออกแบบสินค้าที่คำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยและการจัดเก็บรวมไปถึง การออกแบบบรรจุภัณฑ์ตัวสินค้า ตลอดจนพนักงานช่างเทคนิคติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ ให้สามารถให้บริการ และจัดส่งให้รวดเร็วขึ้น เพื่อลดต้นทุนการขนส่งและต้นทุนเวลาลง ปัจจัยทั้งหมดข้างต้นจึงส่งผลให้ บริษัท ฯ สามารถปรับราคาลงมา โดยที่ยังคงคุณภาพของสินค้าไว้สูงสุดเช่นเดิม
บริษัทฯ จะประกาศใช้นโยบาย มาตรฐานราคาใหม่ ราคาเดียว ภายใต้แนวคิด Joy Price มอบราคาจริงใจให้กับลูกค้า ที่เข้ามาช้อปปิ้งในอินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์ ด้วยมาตรฐานราคาเดียว ราคาจริงใจ ซึ่งเป็นราคา ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ แบรนด์อินเด็กซ์ โดยจะเริ่มใช้ราคาใหม่ ช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้
โดยจะมีการสื่อสารกับลูกค้าว่า มาตรฐานราคาใหม่ “ Joy Price “ ราคาจริงใจ ไม่ต้องรอลด เป็นราคาที่เหมาะสม ลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้อสินค้าได้เลย โดยไม่ต้องกลัวว่า ในอนาคตจะมีการปรับราคาอีกต่อไป
นายกิจจา กล่าวอีกว่า ในสภาพภาวะเศรษฐกิจขาลง ส่งผลให้ลูกค้ามีพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยและการตัดสินใจซื้อเปลี่ยนไปด้วย ดังนั้นการทำตลาดจึงต้องมีการปรับตัวให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลงของลูกค้าเช่นกัน และในฐานะผู้จำหน่ายแม้ว่าจะมีต้นทุนสูงขึ้น ก็ไม่สามารถที่จะผลักภาระให้กับผู้บริโภคได้ การปรับเปลี่ยนรายการส่งเสริมการขายประเภทลดราคาให้น้อยลง และหันมาเพิ่มมูลค่าแบรนด์ ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องบริการ การตกแต่งและนำเสนอไอเดีย ผ่าน Room Setting จึงเป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่เรามอบกลับไปให้กับผู้บริโภค
นายกิจจา กล่าวว่า คาดว่าการปรับมาตรฐานราคาใหม่ครั้งนี้ จะช่วยกระตุ้นให้ยอดขายเฟอร์นิเจอร์แบรด์อินเด็กซ์ เพิ่มขึ้นอีก 20-30% ซึ่งทางบริษัท ฯ ได้มีการวางแผนการใช้สื่อเพื่อสื่อสารกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายแบบครบวงจร ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ Joy Price ราคาจริงใจ ไม่ต้องรอลด “
แบ่งเป็นสื่อต่างๆ ภายในสาขา รวมทั้งสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์อื่นๆ อาทิ สิ่งพิมพ์ บิลบอร์ด และ สปอตโฆษณาทางโทรทัศน์ ซึ่งจะออกอากาศในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้เช่นกัน คิดเป็นงบโฆษณาประชาสัมพันธ์รวม 30 ล้านบาท
นอกจากเรื่องของการปรับโครงสร้างราคาแล้วเฟอร์นิเจอร์ “ อินเด็กซ์ “ ยังคงเน้นจุดเด่นด้านการออกแบบ และการผลิตภายในประเทศไทย โดยใช้ทีมดีไซเนอร์ ที่มีความหลากหลาย เพื่อให้เฟอร์นิเจอร์มีความโดดเด่นในเรื่องสไตล์ และคอนเซ็ปต์ เช่นการใช้ทีมดีไซเนอร์จากต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับ อาทิ สวีเดน , อิตาลี ,เยอรมัน ,อังกฤษ ,สเปน,เดนมาร์ค โดยร่วมทำงานกับดีไซเนอร์ชาวไทยในโครงการ World Class Designer ซึ่งช่วยทำให้ผู้บริโภค ที่อยู่ในตลาดภายในประเทศ ได้บริโภคสินค้าเฟอร์นิเจอร์ ที่มีคุณภาพมาตรฐานเดียวกับตลาดต่างประเทศ แต่จ่ายในราคาที่เหมาะสม รวมทั้งมีสินค้าใหม่ๆ ออกมาจำหน่ายทุก 3 เดือน เพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าในการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์มากขึ้น ซึ่งเป็นแนวทางตามกลยุทธ์ “ Joy Design “
ทั้งนี้ในส่วน อินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์ ยังคงมีการจัดรายการ ทุกเดือน ตามธีมสินค้าแต่ละเดือน ซึ่งจะนำสินค้าคอลเลคชั่นพิเศษมาจำหน่าย โดยสินค้ามีจำนวนจำกัด หมดแล้วหมดเลย (Limited Edition & Exclusive Design) ซึ่งถือว่าเป็นการนำเสนอรายการส่งเสริมการขายในอีกรูปแบบหนึ่ง เพื่อเอาใจกลุ่มลูกค้าที่มีพฤติกรรมชอบช้อปปิ้งเป็นพิเศษ
ปัจจุบัน เฟอร์นิเจอร์แบรนด์ “อินเด็กซ์ “ มีช่องทางจำหน่ายหลักใน อินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์ ทั้ง 12 สาขา , ห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์ 3 สาขา ,ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล 3 สาขา และห้างอื่นๆ อีก 2 สาขา , ดีลเลอร์ ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด อีก 40 แห่ง
กลุ่มบริษัท อินเด็กซ์อินเตอร์เฟิร์น ตั้งเป้าปีนี้จะมีสัดส่วนยอดขาย 50 % จากตลาดภายในประเทศ และอีก 50 % จากตลาดต่างประเทศ และคาดว่าสิ้นปี 2549 จะมียอดขายรวมประมาณ 6,000 ล้านบาท หรือมีอัตราเติบโตจากปี 2548 ประมาณ 5-10 % ล่าสุดบริษัทฯ ยังคงเดินตามแผนการเปิดสาขาที่ได้วางไว้ โดยในเดือนสิงหาคมนี้ จะเปิดตัวสาขาเชียงใหม่ ซึ่งจะเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ บนพื้นที่ประมาณ 20,000 ตารางเมตร งบลงทุน 800 ล้านบาท
คุณกฤษราพร / ประชาสัมพันธ์ในนามอินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์
โทร. 02-898-5544 ต่อ 1578 /09-128-6654
เหตุผลที่ Joy Price ขายราคาถูกกว่า
ได้เปรียบจากการผลิตจำนวนมาก ( Economy of Scale )
ในฐานะผู้นำตลาดเฟอร์นิเจอร์ทั้งในประเทศ และส่งออกต่างประเทศ กว่า 100 ประเทศทั่วโลก ทำให้มีปริมาณการผลิตสูง ส่งผลให้ต้นทุนต่อหน่วยต่ำ
มุ่งมั่นสู่ ผลผลิตสูงสุด ( High Productivity )
ด้วยการผลิต และการจัดการที่ดี ตามมาตรฐานการผลิตที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก จึงสามารถลดความสูญเสีย วัตถุดิบและ สินค้าระหว่างการผลิต ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงส่งผลให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยต่ำ ใช้เทคโนโลยีทันสมัย (Advanced Technology )
ในปัจจุบัน เราใช้เครื่องจักรและเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เพื่อมาผลิตเฟอร์นิเจอร์ ที่มีคุณภาพสูง นำมาจำหน่ายในราคาที่คุ้มค่า คุ้มราคา (Value For Money )
ผลิตและจัดจำหน่ายโดยตรง ( Direct to Customer )
ในฐานะที่เราเป็นทั้งผู้ผลิต และผู้จัดจำหน่ายเอง ทำให้ราคาที่จำหน่ายถึงลูกค้า เป็นราคาที่เสมือนลูกค้าซื้อโดยตรงจากผู้ผลิต
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ