กรุงเทพฯ--19 ต.ค.--ปภ.
กรมป้องกันฯ ยืนยันจากการตรวจสอบระดับน้ำ ในช่วงน้ำทะเลหนุนสูง และปริมาณน้ำใน
แม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านกรุงเทพฯ และปริมณฑล พบว่า ไม่ส่งผลกระทบทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่ง หรือน้ำท่วมหนักอย่างแน่นอน แต่เพื่อความไม่ประมาท ได้กำหนดมาตรการป้องกัน และเตรียมพร้อมรับมือ 24 ชั่วโมงแล้ว
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ในขณะนี้ปริมาณน้ำจาก
ภาคเหนือ ได้เริ่มไหลหลากลงสู่ภาคกลางแล้ว ทำให้ปริมาณน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น โดยไหลผ่านนครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา กรุงเทพฯ และสมุทรปราการ ตามลำดับ ประกอบกับมีน้ำทะเลหนุน ทำให้ประชาชนที่อาศัยในกรุงเทพฯ และพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาต่างวิตกกังวลว่าจะเกิดน้ำท่วมหนัก ในการนี้ กรมป้องกันฯ จึงได้ดำเนินการตรวจสอบระดับน้ำ ในแต่ละวัน จากกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือแล้ว พบว่า แม้ว่าในวันที่น้ำทะเลหนุนสูง ระดับน้ำในแม่น้ำก็ยังคงอยู่ต่ำกว่าแนวเขื่อนป้องกัน ซึ่งมีความสูง 3 เมตร จึงไม่มีปัญหาน้ำเอ่อล้นตลิ่ง นอกจากนี้ ยังตรวจสอบพบว่า ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ มีเพียงจำนวน 1,554 ลบ.ม./วินาที และไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จำนวน 1,343 ลบ.ม./วินาที ประกอบกับมีการปิดการระบายน้ำจากเขื่อนพระรามหก ทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ประมาณ 1,343 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะได้มีการควบคุมปริมาณน้ำที่ไหลผ่านกรุงเทพฯ และปริมณฑล ให้อยู่ในเกณฑ์ที่ไม่เกิน 3,000 ลบ.ม./วินาที เพื่อมิให้น้ำล้นตลิ่งในแนวคันป้องกัน จึงกล่าวได้ว่า ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ไหลผ่านกรุงเทพฯ และพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาในขณะนี้ ไม่ส่งผลกระทบให้เกิดภาวะน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่อย่างแน่นอน
นายอนุชา กล่าวต่อไป แม้ว่าขณะนี้จะไม่เกิดภาวะน้ำล้นตลิ่ง หรือน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล แต่เนื่องจากในระยะนี้มีฝนตกอย่างต่อเนื่องเกือบทุกวัน จากอิทธิพลของร่องฝนซึ่งเคลื่อนตัวผ่าน กรมป้องกันฯ จึงได้ประสานไปยังกรุงเทพฯ และจังหวัดในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเกิดจากภาวะน้ำล้นตลิ่ง โดยให้ประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เตรียมขนย้ายสิ่งของที่จำเป็น ปลั๊กไฟ และ ที่นอนไปไว้บนที่สูง และสนับสนุนกระสอบทรายให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ริมน้ำ เพื่อจัดวางแนวป้องกันน้ำที่จะทะลักเข้าบ้านเรือนของประชาชนในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตลอดจนให้จัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานติดตามตรวจสอบปริมาณน้ำฝน ระดับน้ำทะเลหนุน และระดับน้ำในแม่น้ำ (ต่ำสุด /สูงสุด) และข้อมูลกลุ่มฝนจากเรดาห์ตรวจอากาศจากเว็บไซต์ของกรมอุตุนิยมวิทยา (www.tmd.go.th) ทุกชั่วโมง หรือติดตามรับฟังคำเตือนจาก กรมป้องกันฯ อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ หากพื้นที่ใดประสบความเดือดร้อนจากน้ำท่วม สามารถติดต่อ ขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วน ปภ. 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อจะได้ประสานให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนต่อไป
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--