กรุงเทพฯ--21 พ.ค.--ปตท.
นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ตลาดขายปลีกหน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องจากข่าวโรงกลั่นบริษัท Flint Hills Resources ที่เมือง Corpus Christi มลรัฐเท็กซัส ของสหรัฐฯ ซึ่งมีกำลังการผลิต 288,000 บาร์เรล/วัน เกิดเหตุเพลิงไหม้และต้องปิดฉุกเฉินวานนี้ ประกอบกับหน่วยผลิตน้ำมันและโรงกลั่นของบริษัท Sunoco ที่เมือง Marcus Hook มลรัฐเพนซิลวาเนีย กำลังผลิต 178,000 บาร์เรล/วัน ยังไม่สามารถกลับมาเดินเครื่องได้จากเหตุเพลิงไหม้เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้สร้างความกังวลว่าปริมาณน้ำมันอาจตึงตัวเมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูท่องเที่ยว นอกจากนี้ การปิดซ่อมบำรุงแหล่งผลิตน้ำมันดิบทะเลเหนือในเดือน มิ.ย. 52 จะทำให้ปริมาณการผลิตลดลงประมาณ 300,000 บาร์เรล/วัน และมีข่าวกองกำลังรักษาความปลอดภัยของรัฐบาลไนจีเรียปะทะกับกลุ่มก่อการร้ายที่บริเวณ Niger Delta และอาจจำเป็นต้องอพยพพนักงานบริษัทน้ำมันและประชาชนออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยอีกด้วย
จากปัจจัยดังกล่าวทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น โดยล่าสุด (วันที่ 20 พ.ค.52) ราคาน้ำมันดิบดูไบขึ้นมาอยู่ที่ 58.68 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล น้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์เบนซิน 95 อยู่ที่ 70.98 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (เพิ่มขึ้นถึง 4.47 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล) และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 63.89 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ปตท. จึงจำเป็นต้องปรับราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินขึ้น 80 สตางค์/ลิตร และกลุ่มดีเซลขึ้น 60 สตางค์/ลิตร ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในกรุงเทพฯ และปริมณฑลตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค.52 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป เป็นดังนี้
หน่วย : บาท/ ลิตร
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 (พีทีที E 85 พลัส) 18.82
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 (พีทีที E 20 พลัส) 25.44
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 95) 27.74
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 (พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 91) 26.94
น้ำมันเบนซิน 91 (พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91) 31.54
น้ำมันไบโอดีเซล (พีทีที B5 พลัส) 21.59
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (พีทีที เดลต้า เอ็กซ์) 24.59
นายวิทยา กล่าวต่อไปว่า ราคาน้ำมันยังคงเคลื่อนไหวตามกระแสข่าวรายวัน ซึ่งในช่วงครึ่งหลังของปี 2552 โรงกลั่นหลายแห่งจะกลับมาเดินเครื่องผลิตหลังปิดซ่อมบำรุง รวมถึงมีโรงกลั่นแห่งใหม่ในเอเชียแปซิฟิกที่จะเริ่มผลิต อาจทำให้ความต้องการน้ำมันเพิ่มขึ้น และในวันที่ 28 พ.ค. 52 ให้จับตามองผลการประชุมโอเปคที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ว่าจะดำเนินนโยบายการผลิตอย่างไร ทั้งนี้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่ากลุ่มโอเปคอาจไม่ลดปริมาณการผลิตเพราะจะกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก แต่จะเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกเคร่งครัดต่อโควตาการผลิตมากยิ่งขึ้น
ฝ่ายสื่อสารองค์กร ปตท.
โทรศัพท์ 0 2537 2538 โทรสาร 0 2537 2538