กรุงเทพฯ--3 มิ.ย.--ตลท.
สายงานพัฒนาและวางแผนกลยุทธ์องค์กร รายงานข้อมูลด้านประสิทธิภาพการดำเนินงาน การลงทุน และการระดมทุนของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่รวมกลุ่มธุรกิจการเงิน บริษัทที่เข้าข่ายเพิกถอนกิจการ (Non-Performing Group) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ในไตรมาส 1/2552 พบว่าบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีประสิทธิภาพการดำเนินงานโดยรวมดีขึ้น โดยมีกำไรสุทธิรวม 55,726 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/2551 ถึงร้อยละ 151 และมีการระดมทุนเพิ่มขึ้นถึง 49 เท่าเพื่อรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในอนาคตและพัฒนาระบบงานเพื่อลดต้นทุน
SET Note Corporate Update ฉบับไตรมาส 2/2552 รายงานประสิทธิภาพการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จำนวน 378 บริษัท เปรียบเทียบไตรมาส 1/2552 กับไตรมาส 4/2552 พบว่า บริษัทจดทะเบียนมีอัตราส่วนกำไรสุทธิ อัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น อัตราผลตอบแทนต่อทุนที่ใช้ไป ความสามารถในการจ่ายดอกเบี้ย และอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนมีอัตราที่เพิ่มขึ้น สะท้อนให้เห็นว่า บริษัทจดทะเบียนมีการปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น โดยปัจจัยสำคัญ ได้แก่ การปรับตัวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อีกทั้งบริษัทจดทะเบียนมีการบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น สังเกตได้จากอัตราส่วนต้นทุนต่อยอดขายที่ลดลง นอกจากนี้บริษัทจดทะเบียนยังมีความสามารถในการจัดหาเงินเพิ่มขึ้น ทั้งจากตลาดเงินโดยออกตราสารหนี้หรือกู้เงินระยะยาวที่เพิ่มขึ้น 47,398 ล้านบาท จากไตรมาส 4/2551 และมีการระดมทุนในตลาดทุนกว่า 10,957 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 49 เท่า
ด้านประสิทธิภาพการดำเนินงาน ในไตรมาส 1/2552 บริษัทจดทะเบียนมีอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Return on Equity: ROE) ที่ระดับร้อยละ 2.2 ปรับตัวขึ้นจากไตรมาส 4/2551 ที่อยู่ที่ระดับ —4.2 ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับอัตราผลตอบแทนต่อทุนที่ใช้ไป (Return on Capital Employed: ROCE) ที่อยู่ที่ระดับร้อยละ 2.7 ในไตรมาส 1/2552 ก็มีการปรับตัวขึ้นจากไตรมาส 4/2551 ที่อยู่ที่ระดับ —2.2 ซึ่งการปรับตัวนี้ อาจกล่าวได้ว่า ROE ของบริษัทจดทะเบียนปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นจากจุดที่ต่ำที่สุด ตั้งแต่ไตรมาส 2/2542 ซึ่ง ROE อยู่ที่ระดับร้อยละ —12.4 หรือในช่วง 11 ปี
เมื่อพิจารณาโครงสร้างเงินทุน พบว่า อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (Debt/ Equity Ratio) อยู่ที่ระดับ 1.15 เท่า ขยับเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/2551 ที่อยู่ที่ระดับ 1.12 เท่า แต่อย่างไรก็ตามยังไม่ถือว่ามีความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้นมากนัก เนื่องจากเมื่อพิจารณาในช่วงเวลา 3 ปี พบว่า บริษัทจดทะเบียนมี D/E สูงสุดที่ไตรมาส 1/2549 ที่ระดับ 1.19 เท่า และอาจพิจารณาได้ว่า บริษัทจดทะเบียนยังมีความน่าเชื่อถือจึงสามารถจัดหาเงินทุนโดยการกู้ยืมหรือออกตราสารหนี้ได้ และเมื่อพิจารณาความสามารถในการจ่ายดอกเบี้ย พบว่าความสามารถในการจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเป็น 4.68 เท่า จาก —3.12 เท่าในไตรมาส 4/2551
ภาพรวมด้านการลงทุน ในไตรมาส 1/2552 บริษัทจดทะเบียนมีการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรสุทธิ 102,433 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 22.6 จากไตรมาส 4/2551 ที่มีการลงทุน 125,568 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 1/2551 นับว่ามีการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเพิ่มขึ้นร้อยละ 26 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลงทุนของกลุ่มทรัพยากร และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง โดยเป็นการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และบางส่วนเป็นการลงทุนเพื่อปรับปรุงค่าใช้จ่ายในอนาคต
ภาพรวมด้านการระดมทุน มีการระดมทุนรวม 10,957 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49 เท่าจากไตรมาส 4/2551 ที่มีมูลค่าระดมทุน 220 ล้านบาท โดยการระดมทุนดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายกิจการรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในอนาคตและลงทุนเพื่อพัฒนาระบบการทำงานที่จะช่วยลดต้นทุน โดยในไตรมาส 1/2552 มีการระดมทุนในตลาดแรกของบริษัทจดทะเบียนที่เข้าซื้อขายใน mai 4 บริษัท มูลค่ารวม 545 ล้านบาท และการระดมทุนในตลาดรอง 10,412 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นการระดมทุนที่เกิดจากผู้ถือหุ้นเดิมใช้สิทธิ (Capital Raised from Existing Shareholders: XR) มีมูลค่าระดมทุน 9,874 ล้านบาท รองลงมาเป็นการระดมทุนที่เกิดจากการใช้สิทธิของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ (Capital Raised from Warrant Exercising: XE) มีมูลค่าระดมทุน 538 ล้านบาท
ผู้สนใจติดตามได้เพิ่มเติมที่ http://www.set.or.th/setresearch/setresearch.html หรือสอบถามข้อมูลที่ S-E-T Call Center โทร. 0 2229 2222
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. S-E-T Call Center 0 2229 2222
สื่อมวลชนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายสื่อสารองค์กร ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0 2229 2036 / กนกวรรณ เข็มมาลัย โทร. 0 2229 2048 วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0 2229 2797