แพทย์อินเตอร์ชี้ ‘นกเขาไม่ขัน’ และ ‘อ้วนลงพุง’ เสี่ยงโรครุมเร้า ระบุชัด ‘โรคพร่องฮอร์โมนเพศชาย’ คือสาเหตุหลัก

ข่าวทั่วไป Monday July 20, 2009 15:46 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 ก.ค.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน กว่าร้อยละ 50 ของผู้ที่เป็นโรคภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย จะมีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศและเป็นโรคอ้วนลงพุงมีเอวหนาเกิน 90 ชม. แพทย์จากนานาประเทศเตือนถึงความเกี่ยวพันธ์อย่างใกล้ชิดระหว่างอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dyfunction - ED) ภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone Deficiency Syndrome — TDS) และ โรคอ้วนลงพุง (Underlying Metabolic Abnormalities) ซึ่งอาจก่อให้เกิดโรคแทรกซ้อนร้ายแรงอื่นๆ อาทิ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ภาวะดื้ออินซูลิน ฯลฯ โดยข้อมูลสำคัญดังกล่าวถูกเปิดเผยในงานสัมมนา The Third Japan-ASEAN Men’s Health & Aging ณ ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นการประชุมระหว่างแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพศชายชั้นนำของโลก ภายในการสัมมนา กลุ่มแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านสุขภาพเพศชายเผยถึงข้อมูลล่าสุดที่ได้จากการวิจัยด้านความสัมพันธ์ของสุขภาพเพศชายแบบองค์รวมที่มีต่อ ระดับของฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนว่า ระดับของฮอร์โมนเพศชายที่ลดลงจะส่งผลให้เกิดโรครุมเร้าต่างๆตามมา ซึ่งหนึ่งในนั้นคืออาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ และโรคอ้วนลงพุง (เอวหนาเกิน 90 ชม.) ถือเป็นอาการภายนอกที่สามารถเห็นได้ชัดในผู้ป่วยหลายราย นอกจากนั้น กลุ่มแพทย์ได้เสนอผลการศึกษาเกี่ยวกับโรคอ้วนลงพุงและอาการแทรกซ้อน ที่สามารถบรรเทาได้ เมื่อผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ศาสตราจารย์นายแพทย์ฟาริด ซาอาด หนึ่งในแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพศชาย บริษัท ไบเออร์ เชริง ฟาร์มา เอจี ที่เข้าร่วมการสัมมนาในครั้งนี้กล่าวว่า “กว่าร้อยละ 70 ของผู้ชายที่เป็นโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศจะเกิดอาการแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมา เช่น โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง และโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งอาการแทรกซ้อนเหล่านี้ส่วนใหญ่จะพบในผู้ป่วยโรคภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชายด้วย ยิ่งไปกว่านั้นอาการแทรกซ้อนต่างๆ ที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการลดระดับของฮอร์โมนเพศชายมากกว่าการที่ผู้ชายมีอายุเพิ่มขึ้นเสียอีก จากงานวิจัยพบว่าผู้ป่วยโรคภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชายมีรอบเอวหนาถึงร้อยละ 52.4 เป็นโรคเบาหวานจำนวนร้อยละ 50 และโรคไขมันในเลือดสูง ร้อยละ 42.4 ดังนั้น การรักษาโรค TDS และ ED จะไม่ได้มุ่งแก้ปัญหาด้านเพศเพียงอย่างเดียวแต่จะเน้นการป้องกันและบรรเทาโรคอ้วนลงพุงแทรกซ้อนด้วย” ศาสตราจารย์นายแพทย์อั้กแซม เอ ยัสซิน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพศชาย ประจำสถาบันระบบปัสสาวะและบุรุษเวชศาสตร์ ประเทศเยอรมัน กล่าวเสริมว่า “ในปัจจุบันโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศและโรคภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชายเป็นสองสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้ชายวัยกลางคนเริ่มเข้ารับการรักษาจากแพทย์ เมื่อโรคทั้งสองได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแล้ว อาการแทรกซ้อนอื่นๆ อาทิ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคระดับไขมันในเลือดผิดปกติ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ภาวะคลอเรสเตอรอลสูงและรอบเอวหนา ก็จะได้รับการดูแลด้วย ซึ่งโรคเหล่านั้นเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่มีผลต่อสุขภาพโดยรวมของผู้ชายที่มักจะถูกมองข้ามไปเพราะภารกิจที่รัดตัว” ศาสตราจารย์นายแพทย์ไมเคิล ซิตซ์แมน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญประจำศูนย์ด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์และบุรุษเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมูนสเตอร์ ประเทศเยอรมัน แนะนำว่า “การฉีดฮอร์โมนทดแทนในผู้ป่วย TDS จะสามารถช่วยลดอาการของโรคอ้วนลงพุงได้เป็นอย่างดี หลังจากที่ผู้ป่วยได้รับการฉีดฮอร์โมนทดแทน ระดับคลอเรสเตอรอล ความดันโลหิต และอัตราการเต้นของหัวใจจะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นมาก ส่วนค่าดัชนี้มวลกายและรอบเอวที่เคยหนาก็จะลดลงอย่างเห็นได้ชัด จากประสบการณ์การรักษาของผมราวสัปดาห์ที่ 40 ของการรักษาอาการต่างๆ จะแสดงพัฒนาการที่เห็นได้ชัดมาก และจะพัฒนาดียิ่งขึ้นไปอีกหากผู้ป่วยรับการรักษาในระยะยาว” นอกจากการฉีดฮอร์โมนทดแทนแล้ว ยา Vardenafil ที่จัดอยู่ในยาประเภท phosphodiesterase type 5 (PDE-5) ก็ส่งผลดีต่อการรักษาโรคอ้วนลงพุง “จากการวิจัยพบว่ายาประเภท PDE-5 เช่น Vardenafil จะช่วยรักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้เป็นอย่างดี ซึ่ง Vardenafil จะช่วยในการแข็งตัวของอวัยวะเพศชาย แม้ในผู้ป่วยโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศที่มีอาการของโรคเบาหวานปรากฎอยู่ ซึ่งโรคเบาหวานถือเป็นหนึ่งในอาการแทรกซ้อนที่เกิดจากการเป็นโรคอ้วนลงพุง” ศาสตราจารย์นายแพทย์ฟาริด ซาอาด กล่าวทิ้งท้าย หากโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศและโรคภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชายถูกละเลยและไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีจะส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพเพศชายโดยรวม เพราะการรักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศและโรคภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชายจะช่วยพัฒนาอาการของโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ด้วย ส่วนวิธีการรักษาที่ได้ผลนั้นผู้เชี่ยวชาญหลายท่านเห็นตรงกันว่าควรใช้ยาจำพวก PDE-5 ในผู้ป่วยโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ และการฉีดฮอร์โมนทดแทนในผู้ป่วยโรคภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย ท่านที่มีปัญหากังวลใจเกี่ยวกับโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศและโรคภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย สามารถติดต่อกับศูนย์ข้อมูลสมรรถภาพชายมีไฟ โทรศัพท์ 02-984-4222 เพื่อรับคำปรึกษาเบื้องต้นจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพศชาย ชายลงพุงที่มีรอบเอวหนาเกิน 90 เซ็นติเมตร เสี่ยงภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย และภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยทันที ศาสตราจารย์นายแพทย์ฟาริด ซาอาด หนึ่งในแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพศชาย บริษัท ไบเออร์ เชริง ฟาร์มา เอจี ที่เข้าร่วมการสัมนา The Third Japan-ASEAN Men’s Health & Aging ณ ประเทศสิงคโปร์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน ประเทศไทย ธรณ ชัชวาลวงศ์ และ กรบงกช คัชมาตย์ โทรศัพท์ : 0-2627-3501 ต่อ 118, 107 แฟกซ์: 0-2627-3510 อีเมล์ : tchatchavalvong@th.hillandknowlton.com, kkatchamas@th.hillandknowlton.com

แท็ก โรคอ้วน  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ