กรมศุลกากรจับกุมชาวอิหร่านลักลอบนำไอซ์เข้ามาในราชอาณาจักร มูลค่าประมาณ 4 ล้านบาท

ข่าวทั่วไป Friday August 28, 2009 14:34 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 ส.ค.--กรมศุลกากร วันนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม 2552) เวลา 16.00 น. นายสมชาย พูลสวัสดิ์ รองอธิบดีกรมศุลกากร แถลงข่าวกรมศุลกากรจับกุมชายชาวอิหร่านลักลอบนำไอซ์เข้ามาในราชอาณาจักร จำนวน 2 ราย น้ำหนักรวมประมาณ 2,000 กรัม มูลค่ากว่า 4 ล้านบาท ตามที่ นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ อธิบดีกรมศุลกากร มีนโยบายในเรื่องการควบคุมทางศุลกากร เกี่ยวกับการสกัดกั้นปราบปรามการลักลอบนำเข้า-ส่งออกสินค้า และยาเสพติดให้โทษอย่างเคร่งครัด และจากการสืบทราบว่าจะมีชายชาวต่างประเทศลักลอบนำยาเสพติดให้โทษเข้ามาในราชอาณาจักรทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จึงได้สั่งการให้ นายสมชาย พูลสวัสดิ์ รองอธิบดีกรมศุลกากรด้านปราบปราม นายเสรี ไทยจงรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปราม และนายวรพัฒน์ เชาว์วิศิษฐ ผู้อำนวยการส่วนสืบสวนปราบปราม 3 ดำเนินการวางแผนจับกุม จนกระทั่งเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2552 เวลาประมาณ 08.15 น. เจ้าหน้าที่ศุลกากรสำนักสืบสวนและปราบปราม ได้พบ MR. EFTEKHARI VAHID (นายเอ็ฟเต็ก ฮารี วาฮีด) และ MR. HASSANI SEYEDGHADER (นายฮาสซานี เซเย็ดกาเดอร์) ที่บริเวณช่องตรวจผู้โดยสารไม่มีของต้องสำแดง หมายเลขที่19 จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า MR. EFTEKHARI VAHID อายุ 25 ปี ถือหนังสือเดินทางประเทศอิหร่าน หมายเลข G2263061 และ MR. HASSANI SEYEDGHADER อายุ 26 ปี ถือหนังสือเดินทางประเทศอิหร่าน หมายเลข Z16167398 ซึ่งเป็นผู้โดยสารของสายการบิน MAHAN AIR (มาฮาน แอร์)เที่ยวบินที่ W5-5045 ของวันที่ 27 สิงหาคม 2552 มาจากเมืองเตหะราน ประเทศอิหร่าน ปลายทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตำบลหนองปรือ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เครื่องบินลงเวลาประมาณ 07.25 น. ของวันที่ 27 สิงหาคม 2552 ในระหว่างการตรวจค้น MR. EFTEKHARI VAHIDและ MR. HASSANI SEYEDGHADER ได้มีอาการพิรุธน่าสงสัย จึงนำกระเป๋าสัมภาระไปเอ็กซเรย์ พบสิ่งแปลกปลอมในบริเวณกระเป๋าและให้เปิดกระเป๋าเพื่อตรวจค้น เบื้องต้นพบวัตถุต้องสงสัยอาจเป็นยาเสพติด เจ้าหน้าที่จึงนำตัว MR. EFTEKHARI VAHID และ MR. HASSANI SEYEDGHADER พร้อมกระเป๋าสัมภาระของทั้ง 2 คน มาทำการตรวจค้น ณ ที่ทำการศุลกากรฝ่ายสืบสวนปราบปรามที่ 1 ประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จากการตรวจค้นกระเป๋าของ MR. EFTEKHARI VAHID พบวัตถุเป็นลักษณะเป็นเกร็ดใส อยู่ในถุงพลาสติก น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 1,040 กรัม ซุกซ่อนบริเวณขอบกระเป๋าเดินทางห่อหุ้มด้วยฟอล์ยซึ่งมีการจัดทำเป็นพิเศษ ส่วนกระเป๋าสัมภาระของ MR. HASSANI SEYEDGHADER พบวัตถุลักษณะเป็นเกร็ดใส อยู่ในถุงพลาสติก น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 960 กรัม ซุกซ่อนบริเวณขอบกระเป๋าเดินทางห่อหุ้มด้วยฟอล์ย ซึ่งมีการจัดทำเป็นพิเศษเช่นเดียวกัน รวม 2 ราย น้ำหนักรวม 2,000 กรัม จากการทดสอบวัตถุที่ค้นพบจากกระเป๋าทั้ง 2 ราย ด้วยน้ำยาทดสอบยาเสพติด ผลปรากฏว่าเป็นเมทแอม เฟตามีน (ไอซ์) ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ซึ่งราคาในท้องตลาดประมาณ 4 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ฯได้แจ้งข้อกล่าวหาให้บุคคลทั้ง 2 รับทราบว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และนำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายโดยมิได้รับอนุญาต เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร 2469 มาตรา 27 และพ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ฯจึงได้ยึดของดังกล่าว และนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2552 กรมศุลกากรสามารถจับกุมยาเสพติดให้โทษที่ลักลอบนำเข้าทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำนวน 13 ราย น้ำหนักรวมประมาณ 23 กิโลกรัม เป็นเฮโรอีน จำนวน 8 ราย ไอซ์ จำนวน 3 ราย โคเคน จำนวน 1 ราย และยาอี จำนวน 1 ราย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ