กทม. จับมือกรมสุขภาพจิตรณรงค์คัดกรองผู้ป่วยโรคซึมเศร้า สร้างรอยยิ้มให้คนกรุงเทพฯ

ข่าวทั่วไป Tuesday September 8, 2009 10:56 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 ก.ย.--กทม. กทม. จับมือกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข จัดงานคัดกรองภาวะซึมเศร้า 2552 รณรงค์คลายทุกข์ สร้างสุข คืนรอยยิ้มให้คนกรุงเทพ เพื่อให้ประชาชนใส่ใจการดูแลสุขภาพจิต และลดความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นกับสภาพจิตใจ หลังพบว่าคนกรุงเทพฯ อยู่ในภาวะซึมเศร้าสูงกว่าทุกภาคของประเทศ กว่า 3 แสนคน พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดงานรณรงค์คัดกรองภาวะซึมเศร้ากรุงเทพมหานคร ปี 2552 ภายใต้แนวคิด “คลายทุกข์ สร้างสุข คืนรอยยิ้มให้คนกรุงเทพฯ ซึ่งกรุงเทพมหานครร่วมกับกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุขจัดขึ้น ณ สโมสรพลเมืองอาวุโส สวนลุมพินี เขตปทุมวัน โดยกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การคัดกรองภาวะซึมเศร้า การประเมินความสุข ความเครียด บริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิตพร้อมทั้งให้ความรู้ในเรื่องของการป้องกันตนเองให้ห่างไกลจากโรคดังกล่าว นิทรรศการให้ความรู้ในเรื่องของภาวะซึมเศร้า และกิจกรรมเพื่อการผ่อนคลายอีกมากมาย รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้เป็นการรณรงค์ให้ชาวกรุงเทพฯ เห็นความสำคัญในการดูแลสุขภาพจิตตนเอง ครอบครัวและชุมชน เพื่อป้องกันการเกิดโรคซึมเศร้า โดยจากการสำรวจของกรมสุขภาพจิตพบว่าคนกรุงเทพฯ เป็นโรคซึมเศร้ามากกว่าประชาชนในภาคอื่นๆ ซึ่งการรณรงค์ในครั้งนี้ คาดว่าประชาชนจะตระหนักและให้ความสำคัญกับการสูญเสียอันเนื่องมาจากโรคซึมเศร้า ทั้งนี้กทม. ได้สนับสนุนให้อาสาสมัครสาธารณสุขเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลจิตใจและเฝ้าระวังปัญหาซึมเศร้าให้กับประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยส่งเสริมและเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีโอกาสดูแลจิตใจตนเองและบุคคลใกล้ชิดอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งหากประชาชนสามารถดูแลจิตใจตนเองและสามารถเข้าถึงบริการของศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้าน ซึ่งมีการส่งต่อผู้เชี่ยวชาญอย่างเป็นระบบก็จะสามารถลดปัญหาโรคซึมเศร้าในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้ ซึ่งการสนับสนุนและส่งเสริมให้ประชาชนประเมินตนเองเบื้องต้นด้วยแบบคัดกรองจะเป็นการดูแลสุขภาพจิตตั้งแต่เบื้องต้น จะช่วยป้องกันและบรรเทาความรุนแรงของโรค ลดความสูญเสียจากการเจ็บป่วยคืนรอยยิ้มให้กับชาวกรุงเทพฯ ได้อย่างแน่นอน ด้าน นายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ภาวะซึมเศร้าและการฆ่าตัวตาย นับเป็นปัญหาที่กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญในปัจจุบัน จากการสำรวจระบาดวิทยาสุขภาพจิตของคนไทยในปี 2551 ช่วงอายุ 15-59 ปี และกลุ่มผู้สูงอายุพบว่าในเขตกรุงเทพฯ มีอัตราการซึมเศร้าสูงกว่าทุกภาคของประเทศ ประมาณ 3 แสนคน กรมสุขภาพจิต จึงร่วมกับกทม. ในการดำเนินการดูแลเฝ้าระวัง เพื่อค้นหาผู้ป่วยที่มีแนวโน้มจะป่วยเป็นโรคซึมเศร้าที่อาจนำไปสู่การฆ่าตัวตาย ซึ่งผู้ป่วยโรคนี้จะนำไปสู่การฆ่าตัวตายได้สำเร็จมากกว่าผู้ป่วยโรคทั่ว ๆ ไปถึง 20 เท่า และจากการคาดการณ์ขององค์การอนามัยโลก พบว่าภายในปี 2563 โรคซึมเศร้าจะก่อให้เกิดความสูญเสียด้านสุขภาพของประชากรโลกเป็นเท่าตัว และเป็นอันดับ 2 รองจากโรคหัวใจและหลอดเลือด กรมสุขภาพจิตจึงได้กำหนดนโยบายให้ปี 2552-2563 เป็นทศวรรษ แห่งการป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคซึมเศร้า โดยเพิ่มการเข้าถึงบริการ คุณภาพการดูแลรักษา รวมไปถึงการค้นหาผู้ป่วยเพื่อนำมาช่วยเหลือบำบัดอาการป้องกันการกลับเป็นซ้ำ และการประสานการดูแลในชุมชนกับสถานบริการทุกระดับ ทั้งนี้การป้องกันโรคซึมเศร้าที่ได้ผล คือ การให้ความช่วยเหลือทันทีตั้งแต่เริ่มมีภาวะซึมเศร้า โดยกรมสุขภาพจิตได้ทำแบบคัดกรองโรคซึมเศร้าที่ง่ายและมีความไวสำหรับใช้ในชุมชน เรียกว่า แบบคัดกรองโรคซึมเศร้า 2 คำถาม (2Q) ซึ่งถ้าใครได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นบวก ก็มีแนวโน้มว่าจะเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ควรได้รับการประเมินภาวะซึมเศร้าด้วยแบบประเมิน 9 คำถาม (9Q) ตามด้วยแบบประเมินแนวโน้มการฆ่าตัวตายอีก 8 คำถาม (8Q) และให้การช่วยเหลือต่อไป โดยประชาชนสามารถ Download แบบคัดกรองโรคซึมเศร้าด้วยตนเอง ได้ที่ www.dmh.go.th หรือขอคำปรึกษาได้ที่สายด่วนกรมสุขภาพจิต 1323, 1667 และสายด่วนสุขภาพจิต กทม. โทร. 0 2246 3201 ตลอด 24 ชม.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ