ตลาดรถยนต์เดือนสิงหาคม ยอดขายรวม 43,251 คัน ลดลง 8.2% 8 เดือนขาย 317,835 คัน ลดลง 23.1%

ข่าวยานยนต์ Wednesday September 16, 2009 07:41 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 ก.ย.--โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนสิงหาคม 2552 ปริมาณการขาย 43,251 คัน ลดลง 8.2% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 17,790 คัน ลดลง 1.1% รถเพื่อการพาณิชย์ 25,461 คัน ลดลง 12.6% รวมทั้ง รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ จำนวน 21,778 คัน ลดลง 12.0% สถิติการขายสะสม 8 เดือนของปี 2552 มีปริมาณทั้งสิ้น 317,835 คัน ลดลง 23.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยแบ่งออกเป็น รถยนต์นั่ง 131,379 คัน ลดลง 11.0% รถเพื่อการพาณิชย์ 186,456 คัน ลดลง 29.8% รวมทั้ง รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซ็กเมนท์นี้จำนวน 161,729 คัน ลดลง 29.0% ประเด็นสำคัญ 1. ตลาดรถยนต์เดือนสิงหาคม มีปริมาณการขาย 43,251 คัน ลดลง 8.2% ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 นับจากต้นปีเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา เป็นผลจากการหดตัวในตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ที่มีอัตราการเติบโตลดลง 12.6% ในขณะที่ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน มีอัตราการเติบโตลดลง 12.0% จากปีที่แล้ว และเมื่อเทียบกับปี 2550 ตลาดลดลงมากถึง 37% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ยังคงได้รับผลกระทบจากการหดตัวของภาคการลงทุน ในขณะที่ตลาดรถยนต์นั่งเริ่มมีทิศทางดีขึ้น จากอัตราการเติบโตที่ลดลงเล็กน้อย 1.1% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และเติบโตประมาณ 19% เมื่อเทียบกับปี 2550 2. ตลาดรถยนต์สะสม 8 เดือนมีปริมาณการขาย 317,835 คัน ลดลง 23.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 11.0% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง 29.8% ทั้งนี้จากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นมาต่อเนื่องตลอด 3 เดือนล่าสุด มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐเพื่อเพิ่มสภาพคล่องเริ่มส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม และการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง จะส่งผลดีต่อตลาดรถยนต์โดยรวม แต่ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ยังคงได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบ อาทิ มาตรการอนุมัติสินเชื่อที่เข้มงวดที่เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของภาคการลงทุน หรือทิศทางราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยอดขายสะสม 8 เดือน เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2550 เติบโตลดลงกว่า 35% 3. สำหรับตลาดรถยนต์เดือนกันยายน คาดว่าจะมีปริมาณการขายทรงตัว จากสถิติการขาย เดือนกันยายนจะมียอดขายน้อยเป็นอันดับ 5 ของปี ทั้งนี้ในเดือนกันยายนจะมีการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ ที่อาจเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดรถยนต์ พร้อมมีการปรับเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อให้ทันการส่งมอบ อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น อาจส่งผลต่อตลาดรถยนต์โดยรวม ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เดือนสิงหาคม 2552 1.) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 43,251 คัน ลดลง 8.2% อันดับที่ 1 โตโยต้า 18,708 คัน ลดลง 8.3% ส่วนแบ่งตลาด 43.3% อันดับที่ 2 อีซูซุ 8,884 คัน ลดลง 16.8% ส่วนแบ่งตลาด 20.5% อันดับที่ 3 ฮอนด้า 6,829 คัน เพิ่มขึ้น 13.1% ส่วนแบ่งตลาด 15.8% 2.) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 17,790 คัน ลดลง 1.1% อันดับที่ 1 โตโยต้า 8,502 คัน ลดลง 3.9% ส่วนแบ่งตลาด 47.8% อันดับที่ 2 ฮอนด้า 6,366 คัน เพิ่มขึ้น 15.8% ส่วนแบ่งตลาด 35.8% อันดับที่ 3 นิสสัน 838 คัน เพิ่มขึ้น 21.1% ส่วนแบ่งตลาด 4.7% 3.) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 21,778 คัน ลดลง 12.0% อันดับที่ 1 โตโยต้า 9,246 คัน ลดลง 11.3% ส่วนแบ่งตลาด 42.5% อันดับที่ 2 อีซูซุ 8,206 คัน ลดลง 18.7% ส่วนแบ่งตลาด 37.7% อันดับที่ 3 นิสสัน 1,508 คัน เพิ่มขึ้น 1.8% ส่วนแบ่งตลาด 6.9% *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 2,027 คัน โตโยต้า 1,124 คัน - อีซูซุ 436 คัน - มิตซูบิชิ 392 คัน - ฟอร์ด 75 คัน 4.) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 19,751 คัน ลดลง 15.5% อันดับที่ 1 โตโยต้า 8,122 คัน ลดลง 13.1% ส่วนแบ่งตลาด 41.1% อันดับที่ 2 อีซูซุ 7,770 คัน ลดลง 21.0% ส่วนแบ่งตลาด 39.3% อันดับที่ 3 นิสสัน 1,508 คัน เพิ่มขึ้น 1.8% ส่วนแบ่งตลาด 7.6% 5.) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 25,461 คัน ลดลง 12.6% อันดับที่ 1 โตโยต้า 10,206 คัน ลดลง 11.7% ส่วนแบ่งตลาด 40.1% อันดับที่ 2 อีซูซุ 8,884 คัน ลดลง 16.8% ส่วนแบ่งตลาด 34.9% อันดับที่ 3 นิสสัน 1,536 คัน เพิ่มขึ้น 2.2% ส่วนแบ่งตลาด 6.0% สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม — สิงหาคม 2552 1) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 317,835 คัน ลดลง 23.1% อันดับที่ 1 โตโยต้า 132,435 คัน ลดลง 25.1% ส่วนแบ่งตลาด 41.7% อันดับที่ 2 อีซูซุ 66,637 คัน ลดลง 26.5% ส่วนแบ่งตลาด 21.0% อันดับที่ 3 ฮอนด้า 53,995 คัน ลดลง 3.4% ส่วนแบ่งตลาด 17.0% 2) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 131,379 คัน ลดลง 11.0% อันดับที่ 1 โตโยต้า 57,587 คัน ลดลง 20.5% ส่วนแบ่งตลาด 43.8% อันดับที่ 2 ฮอนด้า 50,961 คัน เพิ่มขึ้น 3.6% ส่วนแบ่งตลาด 38.8% อันดับที่ 3 นิสสัน 5,274 คัน เพิ่มขึ้น 7.3% ส่วนแบ่งตลาด 4.0% 3) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 161,729 คัน ลดลง 29.0% อันดับที่ 1 โตโยต้า 67,712 คัน ลดลง 28.6% ส่วนแบ่งตลาด 41.9% อันดับที่ 2 อีซูซุ 62,390 คัน ลดลง 27.2% ส่วนแบ่งตลาด 38.6% อันดับที่ 3 นิสสัน 11,743 คัน ลดลง 29.8% ส่วนแบ่งตลาด 7.3% *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 15,948คัน โตโยต้า 9,221 คัน - อีซูซุ 3,243 คัน - มิตซูบิชิ 3,144 คัน - ฟอร์ด 340 คัน 4) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 145,781 คัน ลดลง 32.0% อันดับที่ 1 อีซูซุ 59,147 คัน ลดลง 27.4% ส่วนแบ่งตลาด 40.6% อันดับที่ 2 โตโยต้า 58,491 คัน ลดลง 31.9% ส่วนแบ่งตลาด 40.1% อันดับที่ 3 นิสสัน 11,743 คัน ลดลง 29.8% ส่วนแบ่งตลาด 8.1% 5) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 186,456 คัน ลดลง 29.8% อันดับที่ 1 โตโยต้า 74,848 คัน ลดลง 28.3% ส่วนแบ่งตลาด 40.1% อันดับที่ 2 อีซูซุ 66,637 คัน ลดลง 26.5% ส่วนแบ่งตลาด 35.7% อันดับที่ 3 นิสสัน 11,966 คัน ลดลง 30.5% ส่วนแบ่งตลาด 6.4%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ