กลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ สนับสนุนการเพิ่มทุน CPNRF คาดเปิดจอง 16-27 ต.ค. นี้ ลงทุนเซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า ส่งผลเป็นกองทุนอสังหาฯ ขนาดใหญ่สุดในประเทศ

ข่าวเศรษฐกิจ Friday September 25, 2009 15:36 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ก.ย.--ธนาคารไทยพาณิชย์ กลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ พร้อมสนับสนุนการจำหน่ายหน่วยลงทุนเพื่อเพิ่มทุน อีกทั้งให้สินเชื่อ 1,000 ล้านบาท แก่กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNRF) เพื่อลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โครงการเซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า นับเป็นการกู้ยืมครั้งแรกของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และตอกย้ำนโยบายของธนาคารไทยพาณิชย์ในการดูแลลูกค้าและให้บริการแบบ Premier Universal Bank ส่งผลให้กองทุน CPNRF มีขนาดใหญ่สุดในประเทศด้วยมูลค่าไม่เกิน 17,000 ล้านบาท คาดพร้อมเปิดจองหน่วยลงทุน 16 — 27 ต.ค.นี้ ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขาทั่วประเทศ วันนี้ (25 ก.ย.2552) กลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ โดยนางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมด้วยนายสุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหารด้านการปฏิบัติการกลุ่มค้าปลีก และอสังหาริมทรัพย์ บริษัทกลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ร่วมลงนามในสัญญาการแต่งตั้งผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหน่วยลงทุนส่วนเพิ่มทุน กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNRF) เพื่อลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติมในโครงการเซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า ของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า “นับเป็นความภาคภูมิใจของธนาคารที่ได้มีโอกาสให้บริการทางการเงินแก่ CPNRF ด้วยการเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายให้แก่กองทุน CPNRF โดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไทยพาณิชย์ (SCBAM) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของธนาคารและเป็นบริษัทจัดการกองทุนอันดับหนึ่งของประเทศ ได้รับความไว้วางใจให้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการระดมทุนครั้งนี้ นอกจากนี้ธนาคารยังได้สนับสนุนสินเชื่อแก่กองทุนมูลค่า 1,000 ล้านบาทอีกด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายและครบวงจรในการตอบสนองความต้องการทุก ๆ ด้าน ของลูกค้า ภายใต้นโยบายของธนาคารที่ต้องการเป็นธนาคารชั้นนำที่ให้บริการครบวงจร หรือ “Premier Universal Bank” นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทุน CPNRF เปิดเผยว่า การลงนามครั้งนี้ ถือเป็นการผนึกกำลังเพื่อให้แผนการเพิ่มทุนหน่วยลงทุนกองทุน CPNRF ประสบความสำเร็จด้วยดี ซึ่งเป็นไปตามมติคณะกรรมการกองทุนเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2552 มีมติเพิ่มเงินลงทุนทั้งสิ้นไม่เกิน 5,680 ล้านบาท เพื่อลงทุนในโครงการเซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้าโดยการเช่าอาคารศูนย์การค้า (บางส่วน) จำนวน 1 อาคาร และอาคารสำนักงาน จำนวน 2 อาคาร (ทั้งอาคาร) รวมทั้งที่จอดรถยนต์ภายในอาคาร รวมพื้นที่การเช่า 58,303 ตารางเมตร เป็นระยะเวลา 15 ปี ซึ่งภายหลังจากการเพิ่มทุนประสบผลสำเร็จจะส่งผลให้กองทุน CPNRF มีมูลค่าโครงการเพิ่มเป็นไม่เกิน 17,000 ล้านบาท จากเดิมที่มีมูลค่าโครงการ 10,915 ล้านบาท ถือเป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ สำหรับโครงสร้างการเพิ่มทุน แบ่งเป็นการออกและเสนอขายหน่วยลงทุนเพิ่มเติมเป็นจำนวนไม่เกิน 546,600,000 หน่วย โดยจะจำหน่ายให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนเดิมที่มีรายชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 6 ตุลาคม 2552 ในอัตราส่วน 1 หน่วยเดิมต่อ 0.25 หน่วยใหม่ ตามที่บริษัทจัดการกำหนด (Rights Offering) จำนวนไม่ต่ำกว่า 273,300,000 หน่วย และเสนอขายหน่วยลงทุนให้ประชาชนและผู้ลงทุนทั่วไป (Public Offering) และ/หรือ บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวนไม่เกิน 273,300,000 หน่วย คิดเป็นมูลค่ารวมไม่เกิน 4,849 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากสำนักงาน ก.ล.ต. โดยจะกำหนดราคาเสนอขายสุดท้ายในวันที่ 30 กันยายน 2552 และคาดว่าจะเปิดจองได้ระหว่างวันที่ 16-27 ตุลาคมศกนี้ ผ่านสาขาของธนาคารไทยพาณิชย์กว่า 900 แห่งทั่วประเทศ และเงินลงทุนอีกส่วนจะมาจากการกู้ยืมเงินโดยกองทุน CPNRF จากธนาคารไทยพาณิชย์อีกจำนวน 1,000 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นจำนวนไม่เกินร้อยละ 10 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม “การลงทุนเพิ่มเติมในโครงการเซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า และนอกจากจะช่วยกระจายแหล่งที่มาของรายได้กองทุนรวมแล้วยังสอดคล้องกับวัตถุประสงค์หลักในการสร้างการเติบโตของกองทุนรวมในระยะยาว ซึ่งเมื่อกองทุนมีขนาดใหญ่ขึ้นก็จะทำให้เกิดสภาพคล่องและดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น” นางโชติกากล่าว พร้อมให้รายละเอียดว่า ในสถานการณ์ที่ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจ การกระจายความเสี่ยงโดยลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์จะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมาก เพราะหากมองผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนรวม CPNRF ย้อนหลังแล้วถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา โดยมีการปันผลไปแล้ว 15 ครั้ง รวมเป็นเงินปันผลประมาณ 3.22 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 8%ต่อปี โดยเฉพาะอัตราผลตอบแทนในปี 2551 ประมาณ 8.7% (โดยคิดจากราคาพาร์ 10 บาท) ด้านนายนริศ เชยกลิ่น รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บัญชี และสายงานบริหารทรัพย์สิน บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN กล่าวถึงศักยภาพของโครงการเซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า ที่จะนำเข้ามารวมในกองทุน CPNRF ครั้งนี้ว่า ถือเป็นศูนย์การค้าที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยมีผลการดำเนินงานอยู่ในระดับต้นๆ ของพอร์ต CPN ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ในฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ ซึ่งมีการเจริญเติบโตสูงมาก ทำให้จำนวนผู้เข้ามาใช้บริการหนาแน่นทุกวัน ทั้งยังมีอัตราการเช่าพื้นที่สูงกว่า 98% และการเติบโตของค่าเช่าอย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่าเซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า เป็นโครงการที่สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยในปีหน้า CPN มีแผนที่จะทำการปรับปรุงโครงการ (renovation) ให้ทันสมัย เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น สำหรับผลดำเนินงานที่ผ่านมาของกองทุน CPNRF ซึ่งปัจจุบันประกอบด้วยโครงการเซ็นทรัลพลาซา พระราม 2 และโครงการเซ็นทรัลพลาซา พระราม 3 ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีการขยายตัวของชุมชนอย่างรวดเร็วจึงมีจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการต่อวันสูงและมีอัตราการเติบโตของผู้เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นปีละไม่ต่ำกว่า 10% ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้เช่าให้ความสนใจเช่าพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ CPNRF มีอัตราการเช่าพื้นที่ (Occupancy Rate) ในระดับสูงมากกว่า 98% และยังสามารถเพิ่มอัตราค่าเช่าได้ในอัตราที่น่าพอใจ ซึ่งถือว่าดีมากท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว “CPN มีเป้าหมายที่จะลงทุนเพิ่มเติมในสัดส่วนตามสิทธิของหน่วยลงทุนที่จะเสนอขายในครั้งนี้ด้วย และยังคงเป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ของโครงการทั้งหมด โดย CPN มีเป้าหมายที่จะทำให้กองทุน CPNRF เป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ในระดับภูมิภาคและเป็นที่น่าสนใจของนักลงทุนในประเทศและต่างประเทศ โดยคาดการณ์ที่จะนำศูนย์การค้าที่มีคุณภาพเข้ามาในกองทุน CPNRF ปีละ 1 สินทรัพย์ ซึ่งปัจจุบัน CPN เป็นผู้บริหารโครงการศูนย์การค้า 14 โครงการ และยังมีโครงการที่รอการพัฒนาอีกจำนวนมาก โดยมุ่งมั่นที่จะก้าวสู่การเป็นผู้พัฒนาและบริหารโครงการศูนย์การค้าด้วยมาตรฐานระดับโลกและมีการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง” นายนริศกล่าวในที่สุด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ