กรุงเทพฯ--1 ธ.ค.--ก.ล.ต. ก.ล.ต. ร่วมกับ สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (“สมาคม บลจ.”) ปรับปรุงตัวชี้วัดผลตอบแทน (benchmark) ของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ให้สอดคล้องกับนโยบายการลงทุนและสะท้อนความสามารถในการบริหารกองทุนที่แท้จริงของผู้จัดการกองทุน ซึ่งจะทำให้คณะกรรมการและสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพสามารถติดตามผลการดำเนินงานของกองทุนและเลือกใช้บริการจากผู้ให้บริการได้อย่างถูกต้อง โดยให้เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2550 เป็นต้นไป หลักเกณฑ์ตัวชี้วัดผลตอบแทนของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ปรับปรุงใหม่กำหนดแยกตามประเภททรัพย์สินที่ลงทุน ดังนี้ประเภททรัพย์สิน ตัวชี้วัด ตราสารทุน ดัชนีราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET Index Return) ตราสารหนี้ภาครัฐ ดัชนีอัตราผลตอบแทนของการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (Total Return of ThaiBMA Government Bond Index) ตราสารหนี้ทั่วไป ดัชนีอัตราผลตอบแทนของการลงทุนในตราสารหนี้ของสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (Total Return of ThaiBMA Composite Bond Index) เงินฝาก อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปี วงเงิน 1 ล้านบาท เฉลี่ยของ 4 ธนาคาร ได้แก่ ธ.กรุงเทพ ธ.กสิกรไทย ธ.ไทยพาณิชย์ และ ธ.กรุงไทย ลงทุนในทรัพย์สินหลายประเภทใน ตัวชี้วัดผสม (composite benchmark) ซึ่งถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก สัดส่วนที่แตกต่างกัน ด้วยทรัพย์สินแต่ละประเภท นอกจากนี้ ก.ล.ต. ร่วมกับ สมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สมาคมบริษัทจัดการลงทุน และสถาบันพัฒนาความรู้ตลาดทุน จัดอบรมหลักสูตรมาตรฐานสำหรับคณะกรรมการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เพื่อให้กรรมการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมีความรู้ในด้านต่าง ๆ ที่จำเป็นและเพียงพอต่อการบริหารกองทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับนโยบายและแนวทางที่ทางการกำหนด โดยอบรมจัดขึ้นเดือนละ 1 ครั้งและจะมีต่อเนื่องในปี 2550 ซึ่งที่ผ่านมามีกรรมการเข้าอบรมแล้วกว่า 1,000 ราย ก.ล.ต. จึงขอเชิญชวนกรรมการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ที่สนใจเข้าร่วมอบรมติดตามรายละเอียดได้ที่ www.thaipvd.com ในระหว่างนี้ ก.ล.ต. ได้จัดทำโปสเตอร์ให้ความรู้เกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ถ่ายทอด 6 ขั้นตอนการออมในวันนี้เพื่อรอยยิ้มในวัยเกษียณ โดยจะจัดส่งให้นายจ้างที่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพทุกราย คาดหวังให้สมาชิกกองทุนเข้าใจประโยชน์ของกองทุนเพื่ออนาคตของตนเอง สำหรับนายจ้างที่มีแผนจะจัดตั้งกองทุนติดต่อขอรับโปสเตอร์ได้ที่ ก.ล.ต. โทร 02-2636076 หรือ 02-2636072 ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2549 เป็นต้นไป