ภาวะตลาดและแนวโน้มราคาทองคำแท่ง ประจำวันที่ 6 ต.ค.52 โดยวายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday October 6, 2009 11:52 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 ต.ค.--วีม คอมมูนิเคชั่น ประเด็นสำคัญในการลงทุนทองคำแท่ง (Gold SPOT) - ปัจจัยสำคัญด้านพื้นฐาน — วันนี้ราคาทองคำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ตามการแข็งค่าขึ้นของยูโร หลังที่ประชุมรมว.คลังกลุ่ม G-7 รู้สึกพอใจกับดอลลาร์ที่ค่อยๆอ่อนค่าลง + ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากภาคบริการของสหรัฐที่ขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี ขณะที่กองทุนทองคำ SPDR ก็เข้าทยอยสะสมเพิ่มขึ้นอีกราว 1.525 ตัน - กรอบการเคลื่อนไหวเชิงเทคนิคราคาทองคำแท่ง (Gold SPOT) Source : Bisnews (Daily) Source : Bisnews (30 Min) - ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะสั้น — Directional Indices บ่งบอกว่าตลาดยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, MACD 30 นาทีเคลื่อนอยู่ในแดนบวกทว่าได้ตัดเส้น Signal จากด้านบนทำให้ดูทิศทางเป็นลบ, MACDF 30 เคลื่อนตัวอยู่ในแดนลบ ทำให้ดูราคาเป็นลบ, Fast Stochastic เคลื่อนตัวขึ้นจากด้านล่างเส้น Trigger ทำให้ราคามีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้น, RSI 30 นาทีอยู่ที่ระดับ 59.283 ถือเป็นระดับ Neutral และทำให้ดูว่าตลาดระยะสั้นยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, ทิศทางตลาดระยะสั้นดูเป็น Sideways, แนวรับแนวต้านของวันอยู่ที่ $1,006 - $1,023 ค่าเงินบาทในวันนี้อยู่ที่ระดับ ฿33.37 - ฿33.48 - ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะกลาง — Directional Indices บ่งบอกว่าตลาดระยะกลางเป็นขาขึ้น, RSI อยู่ที่ระดับ 65.689 ถือเป็นระดับ Neutral และทำให้ดูว่าตลาดยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, MACD เคลื่อนตัวอยู่ในแดนบวกและกำลังจะตัดเส้น Signal จากด้านล่างทำให้ดูราคาเป็นบวก, MACDFเคลื่อนอยู่ในแดนลบ ทำให้ดูทิศทางเป็นลบ, Fast-Stochastic กำลังเคลื่อนขึ้นทำให้ราคามีโอกาสปรับตัวขึ้น ทิศทางตลาดระยะกลางเป็นตลาด Bull โดยจะใช้แนวต้านที่ $1,035 เป็นแนวต้านระยะกลางที่สำคัญ ส่วนแนวรับระดับกลางอยู่ที่ $985 และ $965 ตามลำดับ ตาราง 3 : แนวรับ-แนวต้านที่สำคัญ Source: YLG’s estimations - พิจารณาตารางที่ 3 และกราฟด้านซ้ายมือ พบว่าราคาทองคำแท่งที่ร้านค้าปลีกปิดล่าสุด (เส้นสีแดง = 15,950 บาท) ซึ่งต่ำกว่าราคาทองคำแท่ง (SPOT) ในตลาดโลกเช้านี้ (เส้นสีน้ำเงิน = 16,150 หรือที่ $1,016.05) แสดงถึงราคาทองคำแท่ง ณ. หน้าร้านขายปลีก มีส่วนลดจากราคาในตลาดโลก อยู่ 200 บาท ขณะที่ราคาของ GFV09 เมื่อวานนี้ปิดตลาดอยู่ที่ 15,930 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคาในตลาดโลกเท่ากับ 220 บาท ซึ่งเท่ากับว่า GFV09 มีส่วนลดมากกว่าที่ร้านค้าปลีก ดังนั้น การขาย (Short) ทองแท่งที่ร้านทองแล้วมาเปิดสถานะซื้อ (Long) GFV09 จะทำให้มีส่วนต่างของกำไรที่คาดหวัง อยู่ที่ 220-200 = 20 บาทต่อทองคำแท่ง 1 บาท ซึ่งยังคงไม่คุ้มค่ากับค่าคอมมิชชั่น (ประมาณ 120 บาทต่อ 1 บาททอง) และดอกเบี้ยอีกราว 20 บาท ในการหากำไรจากส่วนต่างราคาได้ในวันนี้ กลยุทธ์การลงทุน หากนักลงทุนต้องการเล่นระยะสั้นและรับความเสี่ยงได้สูงให้เล่น Long โดยคาดว่าทองคำจะบวกต่อหลังราคาได้ราคาสูงสุดของวันก่อนหน้าและจะสนับสนุนให้มีการเข้าซื้อในเชิงเทคนิค หากต้องการเล่นระยะสั้นและรับความเสี่ยงได้ต่ำให้เล่น Range trading ระหว่างแนวรับแนวต้านที่ $1,006 -$1,023 เนื่องจากทองคำยังอยู่ในขาขึ้นแต่ยังอยู่ระหว่างการปรับฐาน หากต้องการเล่นระยะกลางและรับความเสี่ยงได้สูงให้ท่านหาจังหวะเล่น Long หลังราคาได้ปรับฐานแล้ว โดยคาดว่าทองคำจะปรับตัวขึ้นไปเหนือ $1,035 หากต้องการเล่นระยะกลางและรับความเสี่ยงได้ต่ำให้ท่านหาจังหวะเล่น Long เช่นกัน ข่าวสารสำคัญเพื่อประกอบการลงทุน ปัจจัยบวก - ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ — เมื่อคืนนี้ - สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยดัชนีภาคบริการขยายตัวมาที่ระดับ 50.9 ในเดือน ก.ย.จากระดับ 48.4 ในเดือนส.ค. และสูงกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้าว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 50.0 ในเดือนก.ย. ทั้งนี้ ดัชนีภาคบริการคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 80% ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐซึ่งได้แก่ธุรกิจธนาคาร, สายการบิน, โรงแรม และร้านอาหาร - Conference Board ซึ่งเป็นกลุ่มวิจัยเอกชนเปิดเผยว่า ดัชนีตลาดแรงงานสหรัฐเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 88.5 ในเดือนก.ย.จาก 88.2 ในเดือนส.ค. แต่ลดลง -15.6% จากปีที่แล้ว แสดงถึงตลาดแรงงานเริ่มแข็งแกร่งขึ้นในเดือนก.ย.เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของการจ้างงาน - การประชุม G-7 - รมว.คลังกลุ่ม G-7 ได้ตอกย้ำความเห็นของตลาดที่ว่า ผู้วางนโยบายรู้สึกพอใจกับดอลลาร์ที่ค่อยๆอ่อนค่าลง - ค่าเงินดอลลาร์ — ดอลลาร์ปิดอ่อนค่าลง +$0.0082 เมื่อเทียบเงินยูโร มาที่ $1.4651 จากที่ปิด $1.4569 เมื่อวันก่อนหน้า หลังการประชุม รมว.คลังกลุ่ม G-7 ได้ยอมรับการอ่อนค่าของดอลลาร์อย่างค่อยเป็นค่อยไป + ภาคบริการของสหรัฐขยายตัวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2008 นั้น ได้หนุนความต้องการเสี่ยง และลดความต้องการดอลลาร์ในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย ส่วนเช้านี้ดอลลาร์อ่อนค่าลงอีก +$0.0012 มาอยู่ที่ $1.4663 - ราคาน้ำมันดิบ — ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน พ.ย. ขยับขึ้น +$0.46 มาที่ $70.41 ต่อบาร์เรล จากที่ปิด $69.95 ต่อบาร์เรลเมื่อวันก่อนหน้า หลังจากสหรัฐรายงาน ภาคบริการขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี + ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ขณะที่เช้านี้ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน พ.ย. ขยับขึ้นอีก +$0.06 มาอยู่ที่ $70.47 ต่อบาร์เรล - กองทุนทองคำ — กองทุนทองคำ SPDR ได้รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. 5 ต.ค.52 เพิ่มขึ้น 1.525 ตันจากวันก่อนหน้า รวมถือทองคำไว้ทั้งสิ้น 1,098.07 ตัน เทียบเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3.55 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 35.30 ล้านออนซ์ ปัจจัยลบ - ค่าเงินบาท — ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น -2 สต. มาปิดที่ 33.42 บาท จากที่ปิด 33.44 บาทเมื่อวันก่อนหน้า ตามสกุลเงินในเอเชีย หลังนักลงทุนมองว่า ภูมิภาคเอเชียยังเป็นภูมิภาคที่น่าสนใจลงทุน ส่งผลให้กระแสเงินทุนไหลเข้าต่อเนื่อง ขณะที่เช้านี้เงินบาทอ่อนค่าลง +2 สต. มาที่ 33.44 บาทต่อดอลลาร์ โดยมีแนวรับสำคัญที่ 33.37 บาทและ 33.32 บาทตามลำดับ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 33.48 บาทและ 33.54 บาท ปัจจัยที่ต้องเฝ้าติดตาม - ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ — คืนนี้ 1. API เตรียมประกาศตัวเลขปริมาณสำรองน้ำมันดิบในคืนนี้ หลังตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการ ขณะที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยตัวเลขปริมาณสำรองน้ำมันประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 2 ต.ค.ในวันพุธนี้ โดยผลสำรวจคาดว่าปริมาณสำรองน้ำมันดิบอาจเพิ่มขึ้น +2.1 ล้านบาร์เรล ส่วนปริมาณสำรองน้ำมันกลั่นอาจเพิ่มขึ้น +0.3 แสนบาร์เรล ขณะที่ปริมาณสำรองน้ำมันเบนซินอาจเพิ่มขึ้น +1.1 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจลดลง -0.7% - การประชุม IMF - รมว.คลังและผู้ว่าการธนาคารกลางจากทั่วโลกจะเข้าร่วมการประชุมของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลก ในวันที่ 4-7 ต.ค. กรุงอิสตันบูล ของตุรกี - ECB และ BOE - ธนาคารกลางยุโรปและอังกฤษต่างก็จะมีการประชุมในวันพฤหัสบดีเกี่ยวกับนโยบายอัตราดอกเบี้ย ซึ่งคาดว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมต่อไป ปฏิทินการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ Source : Bloomberg ข้อมูลจาก YLG ศูนย์รับซื้อ-ขายทองคำแท่ง มาตรฐาน LBMA 653/14 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ (ปากซอย 9) แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 Tel: 0-2287-1155, 0-2677-5520 Fax: 0-2677-5512 www.ylgbullion.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ