ภาวะตลาดทองคำ ประจำวันที่ 5 ม.ค. 53

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday January 5, 2010 11:18 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 ม.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ข้อมูลทองคำวันนี้ ราคาสมาคม เปิดที่ 17,600— 17,700 ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,021 อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 33.16 — 33.22 GFG10 Hi- Low 17,760 - 17,490 ปิดที่ 17,760 Gold Insight สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดที่ 1,118.30 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 22.10 ดอลลาร์ เคลื่อนตัวในช่วง 1,093.80-1,124.60 ดอลลาร์ หลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ซึ่งทำให้สัญญาทองคำน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนต่างชาติที่ถือครองสกุลเงินอื่น ขณะที่สัญญาทองแดงพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์หลังจากมีรายงานว่าคนงานที่เหมืองทองแดงในประเทศชิลีก่อเหตุประท้วงหยุดงาน ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ พุ่งขึ้น 155.91 จุด หรือ 1.50% ปิดที่ 10,583.96 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 17.89 จุด หรือ 1.60% ปิดที่ 1,132.99 จุด ซึ่งเป็นการซื้อขายวันแรกของปีพ.ศ.2553 หลังจากสหรัฐ จีน ยุโรป และอังกฤษเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังทะยานสู่ช่วงขาขึ้น นอกจากนี้ การที่ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นเช่นกัน น้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 2.15 ดอลลาร์ 2.71% ปิดที่ 81.51 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 79.63 - 81.68 ดอลลาร์ เพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งสภาพอากาศที่หนาวเย็นในสหรัฐและจีน นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยบวกจากข้อมูลภาคการผลิตที่ขยายตัวแข็งแกร่งในสหรัฐ จีน อังกฤษ และยุโรป กองทุน SPDR Gold Trust SPDR กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือ ทองคำถึง ณ. 5 ม.ค.ขายออก 3.96 ตัน เปลี่ยนแปลงการถือครองจากระดับ 1,132.71 ตัน เข้าสู่ระดับ 1,128.75 ตัน USD/EU ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ หลังจากสหรัฐ จีน อังกฤษ และยุโรป เปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่ง ซึ่งกระตุ้นนักลงทุนให้เข้าซื้อทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงสูงกว่า รวมถึงตลาดหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ เพราะเชื่อว่าจะได้ผลตอบแทนที่มากกว่าการถือครองดอลลาร์ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.60% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.4409 ยูโรต่อดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.4323 ยูโรต่อดอลลาร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดตลาดยู่ที่ระดับ 1.4425 ดอลลาร์ต่อยูโร USD/JPY ดอลลาร์สหรัฐดิ่งลง 0.49% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 92.540 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 93.000 เยนต่อดอลลาร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 92.31 เยนต่อดอลลาร์ USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 33.17/33.26 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งมีการแข็งค่ามากขึ้นจากการเปิดตลาดในตอนเช้า โดยค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 33.13/33.21 บาทต่อดอลลาร์ ข่าวเศรษฐกิจโลก สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงานว่าดัชนีกิจกรรมของโรงงานทั่วประเทศในสหรัฐ ขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 55.9 จุดในเดือนธ.ค. จากเดือนพ.ย.ที่ระดับ 53.6 จุด มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 54.3 จุด โดยดัชนีที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัวในภาคการผลิต รายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบอาจทรงตัว สต็อกน้ำมันกลั่นอาจลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินอาจเพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 0.4% แปซิฟิก อินเวสเมนท์ แมเนจเมนท์ (พิมโค) ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนพันธบัตรรายใหญ่สุดของโลก ลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐและอังกฤษ หลังจากทั้งสองประเทศมีอัตราการกู้ยืมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ พอล แมคคัลลีย์ คณะกรรมการบอร์ดและผู้จัดการพอร์ทของพิมโค กล่าวว่า พิมโคเพิ่มความระมัดระวังในการถือครองพันธบัตร โดยได้ตัดสินใจลดการถือพันธบัตรและตราสารที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยรองรับ (MBS) นอกจากนี้ พิมโคยังลดการถือครองหลักทรัพย์ที่เป็นเครื่องมือการลงทุนหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ เมอร์ริล ลินช์ คาดการณ์ว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรในสหรัฐและอังกฤษจะสูงขึ้นในปีนี้ หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐร่วงลง 3.7% ในปี 2552 ซึ่งเป็นสถิติที่ร่วงลงหนักสุดในรอบกว่า 30 ปี ขณะที่ยอดขายพันบัตรของสรหัฐร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1930 เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำของเฟดไม่ได้ก่อให้เกิดภาวะเงินเฟ้อในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมา พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่ากฎข้อบังคับที่เข้มงวดขึ้นจะช่วยสกัดกั้นภาวะฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้ ในการปาฐกถาครั้งนี้ เบอร์นันเก้ส่งสัญญาณว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะใช้วิธีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในระบบการเงิน หากการเปลี่ยนแปลงกฎข้อบังคับใช้ไม่ได้ผล หรือให้ผลในทางตรงกันข้าม นอกจากนี้ เบอร์นันเก้ยังตอบโต้กระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่านโยบายอัตราดอกเบี้ยของเฟดได้ก่อให้เกิดภาวะฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยเขากล่าวว่า นโยบายการเงินของเฟดหลังจากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยในปี 2544 นั้น ถือเป็นนโยบายที่มีความเหมาะสมมากที่สุด และจากข้อมูลวิจัยของเฟดพบว่า ราคาบ้านที่พุ่งสูงขึ้นแทบจะไม่ส่งผลกระทบต่อนโยบายการเงินหรือระบบเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐ ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าจับตา อาทิตย์ที่ 4-8 ธันวาคม 2553 ข้อมูลที่น่าจับตา ตัวเลขเดิม ตัวเลข คาดการณ์ ตัวเลขจริง วันจันทร์ ? ดัชนีกิจกรรมภาคโรงงานอุตสาหกรรม โดยสถาบันจัดการอุปทาน (ISM) หรือ Instituteof Supply ManagementManufacturing PMI 53.6 54.1 55.9 ? ดัชนีราคาของภาคโรงงานอุตสาหกรรม โดยสถาบันจัดการอุปทาน (ISM) หรือ Instituteof Supply ManagementManufacturing Price 55.0 57.7 61.5 ? ตัวเลขการใช้จ่ายเฉลี่ยส่วนบุคคล หรือPersonal Spending 0.0% -0.4% -0.6% วันอังคาร ? ยอดการขายรถยนต์ของสหรัฐ หรือMotor Vehicle Sales 10.9M 11.0M ? ดัชนีการทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) 3.7% -2.5% ? ยอดสั่งซื้อสินค้าโรงงานภายในประเทศ หรือFactory Orders 0.6% 0.5% คำแนะนำการลงทุน Gold Futures DAY TRADER GFG10 ซื้อในช่วงราคา 17400 - 17520 ขายในช่วงราคา 17850 - 17940 GFJ10 ซื้อในช่วงราคา 17510 - 17620 ขายในช่วงราคา 17970 — 18060 SWING TRADER ทิศทางในระยะสั้นเริ่มกลับมาเป็นขาขึ้น ยังต้องจับตาดูแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,127 เหรียญ ยังเน้นให้เข้าออกเร็ว GFG09 รอเข้าซื้อที่ระดับ 17740 รอขายที่ระดับ 17880 GFJ10 รอเข้าซื้อที่ระดับ 17790 รอขายที่ระดับ 17930 ปัจจัยสำคัญ High Light เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำของเฟดไม่ได้ก่อให้เกิดภาวะเงินเฟ้อในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมา พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่ากฎข้อบังคับที่เข้มงวดขึ้นจะช่วยสกัดกั้นภาวะฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงานว่าดัชนีกิจกรรมของโรงงานทั่วประเทศในสหรัฐ ขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 55.9 จุดในเดือนธ.ค. จากเดือนพ.ย.ที่ระดับ 53.6 จุด มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 54.3 จุด รายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบอาจทรงตัว สต็อกน้ำมันกลั่นอาจลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล MORNING RECAP : ราคาทองคำต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,094 $ ส่วน Gold Future G10 เปิดที่ 17,580 สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 17,400 ปรับขึ้น 50 บาทจากวันทำการก่อน ตลาดทองคำมียังมีทิศทางไม่แน่นอน ราคาทองคำต่างประเทศระหว่างวันเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,094 — 1,115 $ โดยในช่วงบ่ายราคาทองคำต่างประเทศมีทิศทางปรับขึ้นประมาณ 15 $ ราคายังทรงตัวอยู่เหนือระดับ 1,100 $ ได้ โดยปิดตลาด Gold Future G10 ปิดตลาดที่ 17,760 ในขณะที่ราคาทองคำแท่งของสมาคมค้าทองคำปรับขึ้น 200 บาท อยู่ที่ 17,600 บาท นักลงทุนซื้อขายอย่างคึกคัก รับปีใหม่ NIGHT RECAP: ราคาทองคำเปิดตลาดในประเทศไทยที่ระดับ 1098 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1096 - 1113 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1112 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย ต่อมาในตลาดลอนดอนและนิวยอร์ก ราคาทองคำมีการเคลื่อนตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1123 เหรียญ และมาปิดตลาดที่ 1120 เหรียญ สนใจลงทุนใน Gold Futures กับ MTS Gold Futures สามารถติดต่อที่เบอร์ 02-222-5959

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ