กรุงเทพฯ--2 ก.พ.--ธนาคารทหารไทย
ตั้งเป้ารายได้เติบโต 15% ในปี 2553กรุงเทพฯ 2 กุมภาพันธ์ 2553 : TMB ประกาศพร้อมเดินหน้าเพื่อเติบโตอย่างมีคุณภาพตามและยั่งยืนบนรากฐานการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง เผยเป้าหมายเติบรายได้เติบโต15% โดยรายได้จากค่าธรรมเนียมเติบโตขึ้น 20% เงินฝากเพิ่มขึ้น 17% และสินเชื่อเติบโตประมาณ 10% จากปีที่แล้ว แบ่งเป็น สินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ตั้งเป้าเติบโตที่ 20% ขณะที่ สินเชื่อรายใหญ่ ตั้งเป้าหมายว่าจะเติบโต 10% ส่วนทางด้านสินเชื่อรายย่อย จะมีการเติบโตประมาณ 7-8% พร้อมวางกรอบพัฒนาคุณภาพสินทรัพย์ ลดสัดส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพให้เหลือตัวเลขหลักเดียว โดยในระยะยาวหวังสร้างอัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ให้ขึ้นไปแตะ 14% ภายในปี 2557
นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย หรือ TMB เปิดเผยถึง ทิศทางการดำเนินธุรกิจปี 2553 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนระยะยาว 5 ปี ว่า TMB ได้วางกลยุทธ์ 4 ด้านหลัก คือ เติบโตอย่างมีคุณภาพ, ปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน, ลดโอกาสการเกิด NPL ใหม่ และลด NPL เดิมอย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ลูกค้า รวมทั้งดำเนินการให้ธนาคารเป็นองค์กรทางเลือกสำหรับคนที่มีความสามารถ (Employer of Choice)
นายบุญทักษ์ กล่าวว่า ปี 2553 TMB มุ่งตอกย้ำภาพความแข็งแกร่งและการเป็นธนาคารชั้นนำของไทย พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละกลุ่มต่อเนื่อง หลังจากที่กำไรสุทธิจากการดำเนินงานในปี 2552 เติบโต 400% เป็น 2,044 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการปรับองค์กร ตลอดจนการดำเนินการตามโครงการ TMB Transformation ที่ประกอบด้วยการปรับโครงสร้างองค์กร, การปรับปรุงสาขาเพื่อการบริการที่เป็นเลิศ, การปรับกระบวนการทำงานตั้งแต่เริ่มต้นจนจบกระบวนการ (end-to-end process), การเริ่มจัดทำ Human Resources Transformation (ปี 2551-2552) และการยกระดับการบริหารจัดการความเสี่ยง พร้อมทั้งมีภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ดีขึ้น จาก
ผลสำรวจที่แสดงให้เห็นว่ากลุ่มเป้าของธนาคารมีความสนใจที่จะใช้บริการ TMB พิ่มขึ้นต่ออย่างต่อเนื่องมาเป็น 80% จากเดิม 31%
ในปี 2553 ธนาคารมีเป้าหมายที่จะพัฒนาคุณภาพสินทรัพย์ ด้วยการลดโอกาสในการเกิดสินเชื่อด้อยคุณภาพเพิ่มขึ้น และลดสินเชื่อด้อยคุณภาพที่มีอยู่เดิม โดยมีเป้าหมายที่จะลดสัดส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL ratio) ซึ่งอยู่ที่ 12.7% ในปี 2552 ให้ลดลงมาอยู่ที่ 9% หรือต่ำกว่า โดยการปรับโครงสร้างหนี้ และการขายสินเชื่อด้อยคุณภาพออกไปเมื่อมีโอกาสที่เหมาะสม
นอกจากนี้ นายบุญทักษ์กล่าวว่า ธนาคารกำลังดำเนินการอยู่กับกระทรวงคลังในการล้างขาดทุนสะสมเพื่อให้งบการเงินของธนาคารสะท้อนความสามารถในการทำกำไรและความแข็งแกร่งของสถานะการเงินอย่างแท้จริง ทั้งนี้ เป็นการดำเนินการทางบัญชี ไม่มีผลกระทบต่อเงินกองทุนของธนาคาร ซึ่งในปัจจุบันธนาคารมีเงินกองทุน 63,904 ล้านบาท, ระดับความเพียงพอของเงินกองทุน (CAR) ที่ 17.1% และ ส่วนของผู้ถือหุ้น 46,490,738 ล้านบาท
นายบุญทักษ์กล่าวว่า “ปัจจุบัน TMB มีฐานเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง โดยอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน (CAR) อยู่ที่ 17.1% เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 13.9% ในปี 2551 และจากการดำเนินการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ ตลอดปีที่ผ่านมา ทำให้ธนาคารมีฐานการดำเนินงานที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น พร้อมที่จะรุกธุรกิจโดยการดำเนินการกลยุทธ์ที่กำหนดไว้ในแผนสำหรับปี 2553 ซึ่งมีการคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจไปในทางที่ดีกว่าปีที่แล้ว”
HR Transformation มุ่งสู่การเป็นองค์กรที่เน้นผลงานเป็นหลัก (Performance-based Organization)
นายบุญทักษ์แถลงอีกด้วยว่า ในปีนี้ ธนาคารจะเร่งดำเนินโครงการ HR Transformation ตามแนวทางของการเป็นองค์กรที่เน้นผลงานเป็นหลัก (Performance-based Organization)
“พนักงาน เป็นหัวใจของโครงการ HR Transformation ซึ่งธนาคารให้ความสำคัญที่สุด และได้ใช้เวลาอย่างมากในการวางแผน ปรึกษา และจัดทำขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่า TMB มีการดำเนินการอย่างเป็นระบบ เพื่อที่จะสร้างโอกาสความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน มีระบบการพัฒนาความสามารถของพนักงาน และทำให้พนักงานได้รับค่าตอบแทนตามความสามารถและผลการปฏิบัติงานอย่างเหมาะสมโดยอ้างอิงกับตลาด”
ขั้นตอนที่ธนาคารจะจัดทำตามโครงการ HR Transformation ได้แก่ การจัดโครงสร้างองค์กร, การกำหนดบทบาทตามลักษณะงาน (Functional Roles) ให้มีความชัดเจน, การเทียบอัตราค่าตอบแทนกับตลาด, การจัดชั้นงาน (Job Grading), การกำหนดตำแหน่งตามลักษณะงาน (Functional Roles) และการออกแบบค่าตอบแทน
นายบุญทักษ์กล่าวสรุปว่า “หลังจากการทำโครงการ HR Transformation แล้ว การจ่ายค่าตอบแทนพนักงานจะอิงกับอัตราตลาดและความรู้ความสามารถของพนักงาน (Competency) มีการจ่ายโบนัสตามผลการปฏิบัติงาน (Variable Performance Bonus) โดยจะพิจารณาจากผลการดำเนินงานของธนาคารและผลการปฏิบัติงานของพนักงานรายบุคคล ยิ่งไปกว่านั้น พนักงานจะมีโอกาสพัฒนาความก้าวหน้าในงาน (Career Development) รวมทั้งมีบทบาทตามลักษณะงาน (Functional Role) และความรับผิดชอบที่สูงขึ้น พนักงานมีโอกาสใช้ศักยภาพอย่างเต็มที่ในการ สะท้อนให้เห็นถึงการที่ TMB ให้ความสำคัญในการสร้างโอกาสความก้าวหน้า พัฒนาความสามารถ พร้อมทั้งตอบแทนความสามารถและผลการปฏิบัติงานของพนักงานอย่างเหมาะสมโดยมีการอ้างอิงกับตลาด
สายงานสื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร
รายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02 299 1950, 1953/ 02 242 3260