แรงขับเคลื่อนที่มีแนวโน้มลดลงในครึ่งปีหลังของ 2553 ทำให้การคัดเลือกหุ้นเป็นสิ่งสำคัญมากขึ้น

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday February 2, 2010 16:05 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 ก.พ.--บลจ.อเบอร์ดีน ตลาดเอเชียปรับตัวขึ้นอย่างมากในปีที่ผ่านมาด้วยแรงหนุนจากมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจและการเสริมสภาพคล่องจากรัฐบาล ในขณะที่แนวโน้มในการปรับตัวสูงขึ้นของตลาดมีท่าทีว่าจะยังคงอยู่ในช่วงครึ่งแรกของปี 2553 แต่ทั้งนี้ทางอเบอร์ดีนมองว่าครึ่งหลังของปีจะเป็นช่วงเวลาท้าทายที่น่าจับตามอง มร.อดัม แมคเคบ ผู้จัดการกองทุนตราสารหนี้อาวุโส ของทีมตราสารหนี้เอเชียแปซิฟิค ให้ความเห็นว่า ความเสี่ยงหลักขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่รัฐบาลจะยกเลิกมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจและสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อนโยบายการเงินเริ่มที่จะเข้มงวดขึ้นทั่วทั้งภูมิภาคเพื่อเป็นการรับมือกับอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้น แมคเคบเชื่อว่าความผิดพลาดของช่วงเวลาในการดำเนินการเพียงเล็กน้อยจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและคาดการณ์ว่าผู้กำหนดนโยบายจะรอเวลาการฟื้นตัวนานกว่าที่สมควรจะเป็นดีกว่าที่จะทำการเปลี่ยนแปลงใดๆ เร็วจนเกินไปจนต้องเผชิญกับความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจถดถอยอีกครั้ง ทั้งนี้นโยบายทางการเงินที่ไม่เข้มงวดจะส่งผลให้เกิดความเสี่ยงต่อสภาวะฟองสบู่ เหมือนกับที่เกิดขึ้นในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียและหลายๆ ประเทศในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ที่ยังคงไว้ซึ่งการผ่อนคลายนโยบายทางการเงิน ถึงแม้ว่าอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นจะส่งผลในเชิงลบต่อราคาของตราสารหนี้ ทางอเบอร์ดีนยังคงมองเห็นโอกาสในการลงทุนเนื่องจากราคาไม่อาจเป็นสิ่งสะท้อนต่อทุกความเปลี่ยนแปลง “เราเชื่อมั่นในสกุลเงินของประเทศในทวีปเอเชีย ขณะที่การแข็งค่าขึ้นในช่วงระยะสั้นของดอลล่ารสหรัฐฯ สร้างโอกาสในการซื้อขายเงินวอนของเกาหลีใต้ รูเปียห์ของอินโดนิเซีย และรูปีของอินเดีย ที่มากกว่านั้นเรายังเล็งเห็นถึงมูลค่าของพันธบัตรระดับ Investment grade ในเอเชียเมื่อเปรียบเทียบกับพันธบัตรในระดับเดียวกันในยุโรปและสหรัฐอเมริกา และยังมองว่ามูลค่าของธนาคารในฝั่งเอเชียยังคงอยู่ในระดับตํ่าเมื่อเทียบกับยุโรปและสหรัฐอเมริกาทำให้การลงทุนของเราจะยังเน้นหนักไปในสถาบันการเงิน” แมคเคบกล่าว แนวคิดในการเน้นการเลือกลงทุนดังกล่าวได้รับการเสริมรับโดย มร.คว๊อก เชิน เย่ ผู้จัดการตราสารทุนของทีมตราสารทุนเอเชียแปซิฟิค (ยกเว้นญี่ปุ่น) ซึ่งเห็นว่าการเลือกหุ้นที่จะลงทุนจะมีความสำคัญมากยิ่งขึ้นเมื่อเห็นว่าเม็ดเงินที่เข้ามาลงทุนในหุ้นเริ่มลดลง “เราจะเห็นได้ว่านักลงทุนเริ่มมองที่ปัจจัยพื้นฐานของตัวบริษัทมากขึ้น แต่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าการเพิ่มขึ้นของรายได้ของบริษัทต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมาเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของสินค้าคงคลังและการลดค่าใช้จ่ายมากขนาดไหน การประเมินมูลค่าบ่งบอกว่าตลาดเริ่มที่จะอิ่มตัวและอาจมีการปรับตัวลดลง แต่ทั้งนี้สภาพคล่องที่ยังมีอยู่อาจจะเป็นแรงผลักดันให้ตลาดปรับตัวขึ้นสู่จุดสูงสุดอีกครั้งได้ในช่วงเวลาอันสั้น” มร.คว๊อก เชิน เย่ กล่าวเสริมว่าวิธีการลงทุนของอเบอร์ดีนยังคงมุ่งเน้นที่จะลงทุนในเชิงอนุรักษ์นิยมในบริษัทที่มีชื่อเสียงดี มีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งและสภาพคล่องสูงอย่างเช่น BHP Billiton และ Hindustan Lever ที่เข้ามาในพอร์ตการลงทุนในช่วงปี 2552 ทางด้านชัยเกษม วัฒนศิริพงษ์ หัวหน้าฝ่ายจัดจำหน่ายกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนอเบอร์ดีน จำกัด กล่าวว่า “โดยรวมแล้วอเบอร์ดีนมองว่าผลตอบแทนของตลาดในปี 2553 จะอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าอันเป็นผลมาจากการฟื้นตัวอย่างจำกัดของกลุ่มประเทศ G3 ซึ่งเป็นหนึ่งในสัญญาณบ่งชี้ว่าปริมาณการส่งออกน่าจะไม่กลับมาเท่ากับช่วงก่อนวิกฤติในระยะเวลาอันใกล้ จึงพอจะคาดการณ์ได้ว่าใน 3 -5 ปีข้างหน้า เศรษฐกิจที่เติบโตในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่จะเป็นตัวหลักสำคัญในการนำพาเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยมีเอเชียเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ” อเบอร์ดีนยังคงมุ่งมั่นที่จะนำเสนอการบริหารจัดการการลงทุนอย่างเป็นเลิศที่เน้นการกระจายความเสี่ยงไปทั่วทุกภูมิภาค ช่องทาง และสินค้า เรามีความชำนาญในการบริหารพอร์ตการลงทุนในตลาดทุนและตลาดตราสารหนี้ให้กับลูกค้าโดยการมองจากปัจจัยพื้นฐานซึ่งเป็นจุดแข็งของวิธีการลงทุนของเรา ทิศทางด้านธุรกิจของเรายังเน้นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีทั้งกับลูกค้าและพันธมิตรในระยะยาวด้วยผลประกอบการของกองทุนที่แข็งแกร่งและการบริการที่ดีเยี่ยม สำหรับประเทศไทย อเบอร์ดีนจะเน้นจุดแข็งในฐานะเป็นผู้นำในกองทุนตราสารทุนโดยเฉพาะกองทุนรวมตราสารทุนที่ลงทุนในต่างประเทศด้วยสินค้าและบริการที่เป็นเลิศ พร้อมกับการเข้าถึงโดยตรงกับผู้จัดการกองทุนของเราที่อยู่ทั่วทุกมุมโลก นอกเหนือจากนั้นเรายังได้นำเสนอบริการต่างๆเช่น บริการแผนการลงทุนแบบรายเดือน การเลือกบัญชีรับเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุน และการปรับปรุงรูปโฉมใหม่ของช่องทางซื้อขายหน่วยลงทุนทางอินเตอร์เน็ตออนไลน์เพื่อที่จะเพิ่มความสะดวกสบาย และง่ายต่อการเข้าถึงข่าวสารต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการลงทุนของผู้ลงทุน ชัยเกษม กล่าวเสริมว่า “เพื่อโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆเราตั้งใจที่จะพัฒนาความสามารถและขอบเขตในการลงทุนไปพร้อมกันกับช่องทางที่จะทำให้เราจะสามารถเข้าถึงตลาดและกลุ่มลูกค้าใหม่อย่างมั่นคงและยั่งยืน ท้ายสุดนี้เรายังคงเน้นการให้ความรู้ความเข้าใจกับนักลงทุนเกี่ยวกับการลงทุนที่มุ่งเน้นการพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานเพื่อผลผลตอบแทนในระยะยาวผ่านบทความ การให้สัมภาษณ์ สื่อสาธารณะ และงานสัมมนาต่างๆ โน้ตถึงบรรณาธิการ เกี่ยวกับกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนอเบอร์ดีน (Aberdeen Group) กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนอเบอร์ดีน (Aberdeen Group) มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร 232.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยให้บริการกับลูกค้าสถาบันและลูกค้าบุคคลจากสำนักงานจากทุกมุมโลก ที่อเบอร์ดีนการบริหารกองทุนคือธุรกิจหลักของเรา เรามีการบริหารงานที่เป็นอิสระและบริหารสินทรัพย์ให้กับบุคคลที่สามเท่านั้น ซึ่งทำให้เราสามารถที่จะมุ่งมั่นตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าโดยปราศจากผลประโยชน์ทับซ้อน ลูกค้าของเราสามารถเข้าถึงการบริหารการลงทุนของเราผ่านความชำนาญในการบริหารสินทรัพย์ทั้ง 3 ประเภท กล่าวคือ ตราสารทุน ตราสารหนี้ และอสังหาริมทรัพย์ เรารวบรวมความสามารถของเราผ่านผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลายและลงทุนในทั่วโลกตามแบบแผนการลงทุนระยะยาวที่มีพื้นฐานมาจากปัจจัยพื้นฐานที่ดีและไม่ลงทุนตามกระแสของตลาด (ข้อมูล ณ สิ้นเดือน ธ.ค. 52) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ: จิรชยา ลาภถาวรเกียรติ โทร. 0-2352-3387 Assistant Manager คำเตือน : ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต การลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในต?างประเทศมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรก การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
แท็ก เอเชีย  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ