กรุงเทพฯ--5 ก.ย.--ปชส.จร.
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่ากลุ่มประเทศ G-20 ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา (ไทย อาร์เจนติน่า โบลิเวีย บราซิล ชิลี จีน คิวบา อียิปต์ อินเดีย อินโดนีเซีย เม็กซิโก ไนจีเรีย ปากีสถาน ปารากวัย ฟิลิปปินส์ แอฟริกาใต้ เวเนซเวล่า และซิมบับเว่ย์) จะประชุมกันที่เมืองริโอ ดิ จาเนโร่ ประเทศบราซิลในระหว่างวันที่ 9-10 กันยายนนี้ โดยฝ่ายไทยมีดร.วีรชัย วีระเมธีกุล กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าคณะเข้าร่วมเจรจา
การประชุมครั้งนี้ได้เชิญเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศสำคัญเข้าร่วมด้วยไม่ว่าจะเป็นสหภาพ ยุโรป สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย และเป็นไปได้ว่าผู้นำคนสำคัญจากประเทศเหล่านี้จะเข้าร่วมการประชุมด้วยไม่ว่าจะเป็นนางซูซาน ชวาร์ป ผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ นายไมค์ โจนานส์ ปลัดกระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ นายปีเตอร์ เมนเดลซั่น กรรมาธิการทางการค้าสหภาพยุโรป นายโตชิฮิโร่ นิคาอิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของญี่ปุ่น นายโชอิชิ นาคากาวะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรของญี่ปุ่น และนายมาร์ค เวล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของออสเตรเลีย นอกจากนี้ ยังได้มีการเชิญประเทศกลุ่มแอฟริกัน คาริเบียนและแปซิฟิกกรุ๊ป ประเทศกลุ่มแอฟริกันตะวันตกผู้ผลิตฝ้าย และประเทศพัฒนาน้อยที่สุดไปเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ด้วย
นางอภิรดีฯ กล่าวต่อว่า การประชุมครั้งนี้เสมือนหนึ่งเป็น Mini — Ministerial ที่ทุกฝ่ายต้องจับตามองและให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะตั้งแต่การเจรจา WTO หยุดชะงักเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาเนื่องจากตกลงกันไม่ได้ในเรื่องเกษตร การประชุมครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีรัฐมนตรีของ 6 ประเทศสำคัญใน WTO เข้าร่วมประชุมด้วย คือ สหรัฐฯ สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น บราซิล อินเดีย และออสเตรเลีย
นางอภิรดีฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า บราซิลได้ประกาศในนามกลุ่ม G-20 ว่าจะผลักดันการเจรจา WTO ให้กลับมาสู่สภาวะการเจรจาปกติให้ได้จากการที่หยุดชะงักมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม แต่ยังไม่สามารถกำหนดเวลาที่แน่นอนได้ว่าจะเริ่มเจรจาต่อได้อีกเมื่อใด ในขณะที่สหภาพยุโรปกล่าวว่าการจะนำการเจรจากลับมาสู่สภาวะปกติในช่วงเวลาอันใกล้นี้ยังไม่น่าจริงจังเท่าใดนัก เนื่องจากเดือนพฤศจิกายนเป็นช่วงที่สหรัฐฯ เลือกตั้ง การเริ่มต้นเจรจา WTO ในปีนี้จึงเป็นไปได้ยาก แต่อาจเป็นไปได้ในต้นปีหน้า ซึ่งสอดคล้องกับเจ้าหน้าที่ด้านการค้าหลายท่านที่เชื่อว่ารัฐบาลสหรัฐฯ นำโดยนายบุชคงจะไม่ยอมถอยหลังแม้แต่ก้าวเดียวในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องสินค้าเกษตร เพราะกลุ่มผู้สนับสนุนคะแนนเสียงในสหรัฐฯ สนับสนุนการให้การอุดหนุนภายในสินค้าเกษตร ทั้งนี้ เกษตรเป็นเรื่องทางการเมืองที่มีความอ่อนไหวสูงมากเรื่องหนึ่ง ขณะเดียวกันก็เป็นเรื่องที่ทำให้สหรัฐฯ ตกเป็นผู้ต้องหาที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าเป็นสาเหตุทำให้การเจรจาล้มเหลว เนื่องจากไม่ยอมผ่อนปรนเรื่อง
ลดการอุดหนุนสินค้าเกษตรของตนลง
“ ประเทศกลุ่มอาเซียนใน G-20 ได้กล่าวว่าผลที่น่าจะคาดหวังจากการประชุมนี้ก็คือการที่ประเทศเหล่านี้อย่างน้อยสามารถตกลงกันได้เรื่องแผนการทำงานของปีนี้ที่เหลือจนถึงสิ้นปี มากกว่าที่จะหวังว่าการเจรจาสามารถเริ่มต่อไปได้ทันที และประเด็นที่จะมีการหารือกันในที่ประชุมนี้เรื่องหนึ่งก็คือเรื่องตัวเลขที่เหมาะสมในการลดภาษีสินค้าเกษตร สินค้าอุตสาหกรรม และการลดการอุดหนุนภายในสินค้าเกษตร เพื่อให้ปีหน้าสามารถตัดสินใจตัวเลขต่างๆ เหล่านี้ได้ หากการเจรจาสามารถดำเนินต่อไปได้ตามที่ทุกคนหวังไว้.“ นางอภิรดีฯ กล่าว