กรุงเทพฯ--27 ก.ค.--ธ.อาคารสงเคราะห์
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดตัวการจัดงาน "มหกรรมบ้านมือสองแห่งชาติ ครั้งที่ 2" ระหว่างวันที่ 13-15 ตุลาคม 2549 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ได้แรงหนุนจากบริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ 18 แห่ง ธนาคารและบริษัทบริหารสินทรัพย์ 13 แห่ง ร่วมออกบูธเต็มพื้นที่จัดงาน ศูนย์ข้อมูลฯ ระบุชัดผลสำรวจความต้องการซื้อบ้านมือสองยังมีอยู่และเลือกหาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อจากงานมหกรรมบ้านเป็นอันดับ 1 ส่วนราคาที่ต้องการซื้อยังอยู่ในระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท เหตุผลที่ยังไม่ตัดสินใจซื้อเพราะยังไม่มั่นใจเรื่องสภาพและยังไม่มั่นใจเรื่องราคา
นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และประธานกรรมการดำเนินการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่ากระทรวงการคลังมีนโยบายส่งเสริมธุรกิจตลาดบ้านมือสอง และเริ่มดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมตั้งแต่ พ.ศ.2548 โดยมอบหมายธนาคารอาคารสงเคราะห์ และศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เป็นแกนนำในการดำเนินนโยบายดังกล่าว การจัดงาน "มหกรรมบ้านมือสองแห่งชาติ ครั้งที่ 1" ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-11 กันยายน 2548 ถือว่ากิจกรรมส่งเสริมธุรกิจตลาดบ้านมือสอง กิจกรรมแรกที่มีการดำเนินการซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ประสบความสำเร็จเกินเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยมีผู้เข้าชมงานกว่า 80,000 ราย มียอดการจองซื้อบ้านในงานสูงกว่า 1,413 ล้านบาท และยอดสินเชื่อในงานสูงกว่า 5,502 ล้านบาท ต่อมามีการจัดงาน "มหกรรมบ้านมือสอง 4 มุมเมือง" เป็นกิจกรรมต่อเนื่อง ซึ่งก็ประสบผลสำเร็จเช่นเดียวกัน กล่าวคือมีจำนวยผู้ชมเข้าชมงานจำนวนมากกว่า 40,000 คน และมีมูลค่าการซื้อขายและจองสินเชื่อเกิดขึ้นภายในงานกว่า 1,223 ล้านบาท
กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ กล่าวว่าเพื่อให้การดำเนินงานตามนโยบายของกระทรวงการคลังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โครงการจัดงาน "มหกรรมบ้านมือสองแห่งชาติ" จึงถูกจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในระหว่างวันที่ 13-15 ตุลาคม 2549 ณ ห้องบอลรูม และฮอลล์ A ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้เกิดความคล่องตัวในการหมุนเวียนเปลี่ยนมือของอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัย ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันในสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวตลาดบ้านมือสองที่มีสภาพคล่องยังจะช่วยยับยั้งการเกิด NPL และ NPA ได้อีกด้วย สำหรับในภาคประชาชนการจัดงานดังกล่าวจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่ต้องการซื้อบ้านมือสอง หรือต้องการขายบ้านมือสองหรือขายบ้านเก่าเพื่อซื้อบ้านใหม่ ทั้งนี้เป็นการปรับเปลี่ยนที่อยู่อาศัยในทำเลที่ต้องการ และมีภาระการผ่อนชำระที่เหมาะสมกับรายได้
การจัดงาน "มหกรรมบ้านมือสองแห่งชาติ ครั้งที่ 2" ยังคแนวคิดในการจัดงานแบบครบวงจรเช่นเดิม ภายในงานจึงมีบริการแบบครบวงจร ประกอบด้วยบริการรับฝากขายที่อยู่อาศัย และการประกาศความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย บริการสืบค้นหาบ้านตามราคาและทำเลที่ต้องการ บริการสืบค้นข้อมูลโครงข่ายคมนาคม การเวนคืน และกฎหมายการใช้ประโยชน์ที่ดิน บริการตัวแทนนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ บริการสินเชื่อเพื่อการซื้อบ้านมือสองและการตกแต่ง บริการให้คำปรึกษา ปรับปรุงตกแต่ง และรับสร้างบ้านบนที่ดินจัดสรร บริการออกแบบตกแต่งภายใน เฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์ตกแต่ง บริการให้คำปรึกษาด้านภาษีอากร และมีบริการพิเศษคือการให้บริการตรวจสอบเครดิตก่อนขอวงเงินสินเชื่อจากเครดิตบูโร และมีจุดบริการให้คำปรึกษาด้านการก่อสร้าง โดยสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน
นอกจากนี้ยังมีจุดบริการปรึกษาปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวกับการซื้อบ้านมือสอง จากหน่วยงานและสมาคมต่างๆ อาทิ สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ มาให้บริการแนะนำการซื้อบ้านมือสอง ด้านกายภาพ เช่นการตรวจสอบความมั่นคง แข็งแรง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ให้คำแนะนำการซื้อบ้านมือสอง ด้านกฎหมาย สิ่งที่ควรพิจารณาในการซื้อบ้าน กรมที่ดิน มาให้คำปรึกษาด้านการทำนิติกรรม และการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ สมาคมตัวแทนและนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ให้คำแนะนำในการซื้อบ้านมือสองผ่านระบบนายหน้า และศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ให้บริการ ฝากขายบ้านมือสอง ค้นหาบ้านมือสองผ่าน www.resalehomethai.com ตรวจสอบแนวโครงข่ายคมนาคม และการเวนคืนที่ดิน
สำหรับสินค้าที่อยู่อาศัยประเภทบ้านมือสองที่เข้าร่วมงานในครั้งนี้ประกอบด้วย บ้านมือสองในสภาพเดิม บ้านมือสองพร้อมแพ็คเกจซ่อมแซมตกแต่ง และบ้านมือสองที่ได้รับการปรับปรุงตกแต่ง โดยมีบริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เข้าร่วมงานจำนวน 14 บริษัท และธนาคาร สถาบันการเงิน และบริษัทบริหารสินทรัพย์ จำนวน 13 แห่ง ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้จะมีผู้เข้าร่วมงานไม่น้อยกว่า 100,000 คน อย่างแน่นอน
นายสัมมา คีตสิน ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า การจัดงาน "มหกรรมบ้านมือสองแห่งชาติ ครั้งที่ 2" ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 ตุลาคม 2549 จะยังคงได้รับความสนใจจากผู้สนใจซื้อบ้านมือสองเป็นจำนวนมากเช่นเดิม เนื่องจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ดำเนินการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคและอุปทานบ้านมือสอง ในงานมหกรรมบ้านมือสองในปี พ.ศ.2548 และ ปีพ.ศ.2549 โดยใช้วิธีการสำรวจสอบถามผู้เข้าชมงานโดยอนุมานว่าผู้เข้าชมงานมหกรรมจัดอยู่ในกลุ่มผู้ซื้อที่ผ่านขั้นตอนตระหนักรู้ว่าจะซื้อที่อยู่อาศัย และกำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลที่จะใช้ประกอบการตัดสินใจซื้อต่อไป ดังนั้นผลการสำรวจจึงถือเป็นดัชนีชี้วัดพฤติกรรมผู้บริโภคและอุปทานบ้านมือสองได้เป็นอย่างดี
โดยผลการสำรวจระบุว่ากลุ่มผู้ที่ต้องการซื้อบ้านมือสองส่วนใหญ่ค้นหาข้อมูลบ้านมือสองจากงานมหกรรมเป็นอันดับ 1 รองลงมาคือค้นจากอินเทอร์เนต จากนิตยสารที่อยู่อาศัย จากหนังสือพิมพ์ และจากหนังสือพิมพ์ธุรกิจ ด้วยเหตุผลนี้เองที่ส่งผลให้การจัดงานมหกรรมบ้านมือสองทุกครั้งที่ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ดำเนินการจัดงานจึงมีผู้สนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ผลการสำรวจยังสามารถสะท้อนพฤติกรรมการซื้อบ้านมือสองในปี 2549 ได้หลายประการ กล่าวคือ ผลการสำรวจหลายหัวข้อชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคมีผู้ต้องการบ้านมือสอง และผู้ที่เข้าชมงานกว่า 65% ระบุว่าต้องการซื้อบ้านมือสอง และเป็นผู้ที่ต้องการย้ายที่อยู่อาศัย โดยมีสัดส่วนสูงถึง 74% ซึ่งกลุ่มผู้ที่ต้องการซื้อบ้านมือสองกำลังมีปัญหาที่อยู่อาศัยในเรื่องพื้นที่ใช้สอยไม่พอเพียง มีปัญหาสภาพแวดล้อม เสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงาน มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สิน ฯลฯ
แต่อย่างไรก็ตามผู้เข้าชมงานที่ต้องการซื้อบ้านมือสองยังใช้เวลาในการตัดสินใจนานพอสมควร โดยเฉพาะเมื่อมีการสอบถามผู้สนใจซื้อบ้านมือสองปี 2549 พบว่าใช้ผู้เข้าชมงานกว่าร้อยละหกสิบจะซื้อภายในหนึ่งปี และในจำนวนนี้หนึ่งในสามจะซื้อภายในสามเดือน เป็นที่น่าสังเกตุว่ากลุ่มผู้ที่ต้องการซื้อบ้านมือสองประมาณ 30% มีความพร้อมในการซื้อที่อยู่อาศัย เนื่องจากปัจจุบันเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยเองและไม่มีภาระในการผ่อน ทั้งนี้กว่า 41% มีรายได้ 20,001-50,000 บาทต่อเดือน และกว่า 52.8% สนใจซื้อบ้านมือสองในระดับราคาวงเงิน 1,000,000-3,000,000 บาท
"ผลสำรวจยังระบุด้วยว่าเหตุผลที่ทำให้ผู้เข้าชมงานมหกรรมบ้านมือสอง ยังไม่ตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ เพราะ 1.ยังไม่มั่นใจเรื่องสภาพบ้าน 2.ยังไม่มีข้อมูลเรื่องราคา 3.ยังไม่มั่นใจเรื่องราคา 4.ยังไม่มีข้อมูลเรื่องบ้าน และ 5.ยังไม่ได้เปรียบเทียบกับบ้านหลังอื่น"
นายสัมมา กล่าวในตอนท้ายว่า ผลการสำรวจของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ สามารถสะท้อนให้เห็นภาพตลาดบ้านมือสองในปี 2549 ได้ กล่าวคือ ความต้องการบ้านมือสองยังมีอยู่ เพียงแต่ผู้ซื้อต้องการระยะเวลาในการตัดสินใจ ทั้งนี้อาจมาจากความไม่พร้อมในด้านการเงิน หากผู้ที่อยู่ในธุรกิจบ้านมือสองหรือรัฐออกมาตรการช่วยเหลือ ก็จะช่วยเร่งขบวนการตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น ประเด็นที่น่าสนใจอยู่ที่ผู้สนใจซื้อบ้านมือสองส่วนใหญ่ต้องการซื้อจากเจ้าของบ้านเดิมโดยตรง รองลงมาคือ สถาบันการเงิน ส่วนน้อยที่คิดจะใช้บริการบริษัทนายหน้า ดังนั้นผู้ที่อยู่ในธุรกิจนายหน้า จำเป็นต้องหาทางยกระดับการบริการให้ดีขึ้น โดยเฉพาะเรื่องข้อมูลและราคา ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ผู้สนใจซื้อบ้านมือสองไม่กล้าตัดสินใจ ด้วยส่วนใหญ่มาจากยังไม่มั่นใจ หรือไม่มีข้อมูลเรื่องบ้านและราคา
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และบริการข้อมูล
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์
โทร. 0-2645-9675-6