กรุงเทพฯ--9 พ.ย.--สามารถคอร์ปอเรชั่น กลุ่มบริษัทสามารถแจ้งผลประกอบการไตรมาส 3 เพิ่มสูงขึ้น 29 เปอร์เซนต์ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้รวม 6,853 ล้านบาท และมีกำไรจากการดำเนินงาน 163 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.8 เปอร์เซนต์ และเพียง 9 เดือน ทำรายได้ไปแล้ว 24,433 ล้านบาท มั่นใจรายได้สิ้นปีทะลุเป้าแน่นอน พร้อมเตรียมเปิดตัวธุรกิจใหม่อีกเพียบในปี 2550 นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 2549 ที่ผ่านมาว่า แม้ต้องเผชิญกับปัจจัยลบต่างๆกลุ่มบริษัทสามารถยังคงมีรายได้รวมและกำไรสุทธิที่เพิ่มสูงขึ้นในทุกสายธุรกิจ โดยล่าสุดสายธุรกิจ ICT Solutions ภายใต้การนำของบริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) ได้ประสบความสำเร็จในการเซ็นสัญญาโครงการอินเตอร์เน็ตตำบล ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 2,000 ล้านบาท ทั้งยังได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากนักลงทุนในการนำเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ โดยสรุปแล้วสายธุรกิจนี้ สร้างรายได้รวมในไตรมาส 3 ทั้งสิ้น 889 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเกือบ 100 เปอร์เซนต์ คิดเป็นกำไรสุทธิ 86 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 54 เปอร์เซนต์ ทั้งนี้เป็นผลมาจากการรับรู้รายได้จากโครงการ School Net ระบบบริหารข้อมูลในสนามบินสุวรรณภูมิ และการวางระบบไอทีให้แก่ธนาคารออมสิน ที่สำคัญบริษัทฯ ยังมีหลักประกันรายได้ระยะยาวจากโครงการอื่นๆ ที่เริ่มดำเนินการไปแล้วกว่า 7,000 ล้านบาท ทั้งยังมีโครงการที่เตรียมเข้าประมูลอีกหลายโครงการ ซึ่งบริษัทฯ มั่นใจว่าจากสถานการณ์การเมืองที่เข้าสู่ภาวะปกติจะส่งผลบวกต่ออุตสาหกรรมไอทีและโทรคมนาคมอย่างแน่นอน ส่วนสายธุรกิจ Mobile-Media Solutions ซึ่งนำโดยบริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) ก็สามารถเพิ่มรายได้จากการจำหน่ายโทรศัพท์มือถือทั้งจำนวนและมูลค่า โดยจำหน่ายเครื่องในไตรมาส 3 ได้ถึง 930,000 เครื่อง เพิ่มขึ้น 116 เปอร์เซนต์เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน อีกทั้งยังสามารถเพิ่มสัดส่วนยอดขายมือถือเฮาส์แบรนด์ไอ-โมบายได้ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการเพิ่มผลกำไร โดยปัจจุบันมือถือไอ-โมบาย ครองส่วนแบ่งในประเทศถึง 22 เปอร์เซนต์ และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 24 เปอร์เซนต์ได้ในสิ้นปี 49 สรุปแล้วกลุ่มไอ-โมบาย มีรายได้รวมในไตรมาส 3 ทั้งสิ้น 5,438 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39 เปอร์เซนต์ คิดเป็นกำไรสุทธิ 132 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 25.7 เปอร์เซนต์ ถือเป็นความสำเร็จในระดับที่น่าพอใจ เพราะยังคงรักษาระดับการเติบโตที่ต่อเนื่อง แม้ต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมและปัจจัยลบอื่นๆ ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทฯ ยังมีแผนในการสร้างแบรนด์ไอ-โมบายให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในระดับภูมิภาค โดยได้ “ทาทา ยัง” นักร้องยอดนิยมมาเป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์ ทั้งนี้ ในไตรมาส 4 ซึ่งถือเป็นช่วงไฮซีซั่น บริษัทฯ จะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ๆ ที่ครอบคลุมทุกตลาด และจะมีการเปิดตัววิธีการดาวน์โหลด Content ผ่านมือถือไอ-โมบายที่ง่ายที่สุด คือระบบ i-link อีกด้วย โดยในส่วนของการบริหารงาน บริษัทฯ ได้แต่งตั้งนายธนานันท์ วิไลลักษณ์ ซึ่งแต่เดิมดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการและรองกรรมการผู้อำนวยการ สายธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ขึ้นดำรงตำแหน่ง กรรมการผุ้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) มีผลตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2549 เป็นต้นไป นอกจากนี้ ในสายธุรกิจอื่นๆ ก็มีผลประกอบการที่ดีขึ้นทั้งกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจคอลล์เซนเตอร์ ธุรกิจจำหน่ายเสาอากาศและจานดาวเทียม ตลอดจนบริษัท แคมโบเดีย แอร์ทราฟฟิค เซอร์วิสเซส จำกัด ซึ่งมีจำนวนเที่ยวบินที่มาใช้บริการศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศที่ประเทศกัมพูชาเพิ่มขึ้นถึงเกือบ 10 เปอร์เซนต์ สำหรับกลยุทธ์เพื่อรักษาอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องนั้น นายวัฒน์ชัยกล่าวว่าจากรากฐานทางธุรกิจที่แข็งแรงขึ้นของกลุ่มบริษัทสามารถทั้งในและต่างประเทศ เราจะมุ่งเน้นที่การสร้างผลกำไรให้เพิ่มสูงขึ้นจากธุรกิจในปัจจุบันและขยายการลงทุนสู่ธุรกิจใหม่ๆ ซึ่งกำลังเป็นที่จับตามอง ทั้งด้านบริการสื่อสารโทรคมนาคมและพลังงาน คาดว่าจะสรุปผลได้ภายในสิ้นปี พร้อมเตรียมประกาศทิศทางธุรกิจและโครงการเด่นในปี 2550 ราวกลางเดือนมกราคม ปีหน้า ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ จุฑารัตน์ ชัยวิชาชาญ / วรรษกร ปลื้มจิตต์ / วทิรา ลุยากร บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โทร. 0-2502-8183 / 0-2502-8687 / 0-2502-8236