กรุงเทพฯ--1 มี.ค.--กบข.
กบข. เตรียมขยับพอร์ตการลงทุนสอดรับสภาวะเศรษฐกิจ มุ่งเน้นนโยบายการสร้างผลตอบแทนสูงสุดเพื่อสมาชิก
นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการ กบข. เปิดเผยถึงแนวโน้มการลงทุนในปี 2549 ของ กบข. ซึ่งได้เตรียมแผนการปรับสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุนและตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับเปลี่ยนของสภาวะเศรษฐกิจ และการปรับตัวของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่มีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีผลกระทบต่อการลงทุนของตลาดในประเทศ กบข. จึงได้เตรียมเพิ่มสัดส่วนการลงทุนสำหรับตราสารทุนในประเทศจาก 14% เป็น 20% และอยู่ระหว่างการรอการแก้ไขกฎกระทรวงการคลังเพื่อเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นจาก 20% เป็น 30% เพื่อเพิ่มสัดส่วนตราสารที่สามารถต่อสู้กับสภาวะอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นในระยะยาวได้ โดยเชื่อว่าสภาวะการณ์ลงทุนในตลาดหุ้นปีนี้ยังมีภาวะที่ดี สำหรับตราสารหนี้จะได้เพิ่มสัดส่วนการถือครองพันธบัตรระยะยาวมากขึ้น สอดคล้องกับการประมาณการณ์อัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นได้อีก 1-1.5% ในปีนี้ ซึ่ง กบข. จะเพิ่มอายุเฉลี่ยการลงทุนของตราสารหนี้ให้ยาวขึ้นจากเดิมที่ช่วงอายุจะอยู่ที่ 1.7-1.8 ปี เป็น 2.5-2.6 ปี
นอกจากนี้ สำหรับการลงทุนในตราสารทุนต่างประเทศนั้น นายวิสิฐได้กล่าวถึงแนวโน้มที่จะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนขึ้นจาก 1% ในปีก่อน เป็น 5-6% ในปีนี้ เพราะที่ผ่านมาการลงทุนในตราสารทุนในต่างประเทศให้ผลตอบแทนในระดับที่น่าพอใจ ในขณะเดียวกันคาดว่าจะทำการลดสัดส่วนตราสารหนี้ต่างประเทศลงจากเดิม 8% ในปีก่อน เหลือ 3% ในปีนี้ เนื่องจากผลตอบแทนที่ผ่านมาอยู่ระดับต่ำกว่าเกณฑ์ที่ตั้งเป้าหมายไว้ รวมทั้งจะมีการขยายเพดานการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โดยคาดว่าจะเพิ่มจาก 5% เป็น 8%
อย่างไรก็ตาม การขยายการลงทุนต่างๆ นั้น จะเป็นการช่วยกระจายความเสี่ยงในด้านผลตอบแทนการลงทุนไปยังตราสารประเภทต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับสมาชิก ซึ่ง กบข. จะมีการจัดการการบริหารควบคู่ไปกับการกำกับดูแลที่ดี โดยนำเอากรอบบริหารจัดการความเสี่ยงเข้ามาใช้ควบคู่เสมอ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ศูนย์บริการข้อมูลสมาชิก กบข. โทร. 1179 กด 6 member@gpf.or.th / www.gpf.or.th--จบ--