กรุงเทพฯ--20 ส.ค.--ออนไลน์ แอสเซ็ท
MFEC ยิ้มครึ่งแรกปีนี้กำไร 51.82 ลบ.พุ่ง 62% เหตุควบคุมต้นทุนได้ผลดีดันมาร์จิ้นแตะ 22%
-ย้ำเป้ารายได้ 2,500 - 2,800 ลบ./ปัจจุบันมี Backlog ในมือ 920 ลบ.
MFEC เผยครึ่งแรกปีนี้โชว์กำไร 51.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 61.91% จากงวดเดียวกันของปีก่อน "ศิริวัฒน์"แจงเป็นผลจากการควบคุมต้นทุนแต่ละโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดันอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 22% จาก 19% ส่วนครึ่งปีหลังเชื่อยังเติบโตต่อเนื่อง เน้นบุกงานภาคเอกชนมากขึ้นเพื่อกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจและมีมาร์จิ้นสูง หลังงานภาครัฐเริ่มหดตัวมาตั้งแต่ช่วงครึ่งปีแรก ย้ำเป้ารายได้ปีนี้ 2,500 - 2,800 ล้านบาทขยายตัว 15-20% จากปีก่อน
นายศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) (MFEC) เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 2/2550 ว่ามีกำไรสุทธิ 35.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.96 ล้านบาท หรือ 19.90% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 2/2549 ที่มีกำไรสุทธิ 29.98 ล้านบาท ส่วนงวด 6 เดือนมีกำไรสุทธิ 51.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.82 ล้านบาท หรือ 61.91% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันในปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 32.01 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในงวดหกเดือนแรกปี 2550 บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 1,078 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52 ล้านบาท หรือ 5% จากงวดหกเดือนแรกของปีก่อน แต่กำไรสุทธิกลับมีอัตราการขยายตัวแบบก้าวกระโดด ซึ่งเป็นผลมาจากการที่บริษัทมีนโยบายควบคุมต้นทุนของงานแต่ละโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ต้นทุนขายลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มสูงขึ้นโดยหกเดือนแรกปีนี้ MFEC มีกำไรขั้นต้นจำนวน 244 ล้านบาท
"จากนโยบายควบคุมต้นทุนและทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของ MFEC ขยับเพิ่มขึ้นจาก 19% เป็น 22% จึงส่งผลให้กำไรของบริษัทในงวด 6 เดือนแรกปีนี้พุ่งขึ้นถึง 62% ทั้งที่ยอดขายเพิ่มขึ้นเพียง 5% ส่วน Backlog ในมือปัจจุบันมีประมาณ 920 ล้านบาท และเป็นงานที่คาดว่าจะส่งมอบได้ทั้งหมดในปีนี้ ทำให้มั่นใจได้ว่าผลการดำเนินงานสิ้นปี 2550 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยปีนี้ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 2,500-2,800 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการขยายตัวประมาณ 15-20% จากปี 2549 และจะพยายามรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับประมาณ 20-25 % "
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังของ MFEC เป็นผลเกี่ยวเนื่องจากช่วงที่ผ่านมา งานของภาครัฐเริ่มหดตัวลง ทำให้บริษัทวางแผนที่จะเน้นไปรุกงานของภาคเอกชนมากขึ้นเพื่อกระจายความเสี่ยงของธุรกิจและมีมาร์จิ้นสูงกว่า สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ต้องการจะขยายฐานให้กว้างยิ่งขึ้นคือสถาบันการเงิน จากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กำหนดให้มีการใช้ Basel II ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในปี 2551 และปัจจุบันธนาคารพาณิชย์หลายแห่งได้เข้ามาเป็นลูกค้าของบริษัทแล้ว เนื่องจาก MFEC มีความโดดเด่น ในเรื่องของการให้บริการ จากผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีในทุกๆ ด้าน
เขากล่าวต่อในช่วงท้ายถึงแนวโน้มภาพรวมของธุรกิจในครึ่งปีหลัง เชื่อว่าหลังจากที่มีความชัดเจนในเรื่องของการเมืองและการเลือกตั้ง จะทำให้ภาพรวมของธุรกิจเทคโนโลยีสื่อสารในปีนี้จะกลับมาขยายตัวได้อีกครั้ง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ณัฐพงษ์ ใจแกล้ว 081-4010226 / 02-5549396