บลจ. กรุงไทย เพิ่มทางเลือกใหม่ ขายกองทุนเปิดเคแทมออยล์ฟันด์

ข่าวเศรษฐกิจ Monday April 19, 2010 15:41 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 เม.ย.--บลจ. กรุงไทย นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้เสาะหาช่องทางการลงทุนใหม่ๆให้กับผู้ลงทุนตลอดเวลา เพื่อเพิ่มทางเลือกในการลงทุน ให้มีความหลากหลายมากขึ้น นอกเหนือจากการเปิดจำหน่ายกองทุนพันธบัตรทั้งในต่างประเทศ โดยในระหว่างวันที่ 19-27 เมษายน 2553 บริษัทจะเปิดจำหน่าย กองทุนเปิดเคแทม ออยล์ ฟันด์ ( KT-OIL) มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท โดยกองทุนเน้นลงทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิในหน่วยลงทุนของกองทุน PowerShares DB Oil Fund ซึ่งบริหารและจัดการโดย DB Commodity services LLC โดยกองทุนมีนโยบายลงทุนในสัญญาฟิวเจอร์ของน้ำมันดิบ ( light sweet crude oil —WTI ) จุดประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับดัชนี Deutsche Bank Liquid Commodity Index —Optimum Yield Crude Oil Excess Return โดยจุดเด่นของกองทุน KT- OIL มีสภาพคล่องสูง สามารถซื้อ-ขาย ได้ทุกวันทำการ มูลค่าขึ้นต่ำในการลงทุน 2,000 บาท ขึ้นไป ซึ่งกองทุนเป็นทางเลือกในการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนอีกหนึ่งทางในการบริหารพอร์ตการลงทุน เนื่องจากการปรับตัวของราคาน้ำมันมีความสัมพันธ์น้อยมากกับการปรับตัวของตราสารหนี้และหุ้น นอกจากนี้ น้ำมันเป็นเครื่องมือหนึ่งที่สามารถป้องกันการสูญเสียความสามารถในการซื้อ ( Inflation Hedged ) เนื่องจากน้ำมันเป็นสินทรัพย์ที่ไม่เสียมูลค่าที่แท้จริงไปตามภาวะเงินเฟ้อ นายสมชัย กล่าวต่อไปว่า กองทุน KT-OIL เปิดโอกาสให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนที่สะท้อนการเคลื่อนไหวของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในน้ำมันดิบ จากเดิมที่ในอดีตการลงทุนในน้ำมันดิบในรูปแบบต่างๆจะจำกัดอยู่เฉพาะบริษัทผู้ค้าน้ำมันและสถาบันการเงินรายใหญ่ๆเท่านั้น แต่พัฒนาการของกองทุนอีทีเอฟ ทำให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงการลงทุนในน้ำมันดิบได้ผ่านการลงทุนในกองทุนอีทีเอฟ ซึ่งมีต้นทุนต่ำ และสะดวก โดยน้ำมันนั้นถือได้ว่าเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีความสำคัญของโลก ซึ่งหากพิจารณาแนวโน้มในระยะสั้น จะพบว่าเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มที่จะขยายตัวในอัตรา 4.4% ในปี 2553 และ 4.5% ในปี 2554 ซึ่งน่าจะส่งผลให้ความต้องการน้ำมันกลับฟื้นตัวขึ้น ส่วนในระยะยาวนั้น ตราบเท่าที่เรายังคงต้องอาศัยพลังงานและเชื้อเพลิงอยู่ โลกก็ยังคงมีความต้องการน้ำมันอยู่เสมอไม่ว่าภาวะตลาดจะเป็นอย่างไร ด้านฝ่ายวิจัยของบลจ. กรุงไทย ได้มีการประเมินราคาน้ำมันดิบ WTI Light Sweet Crude Oil ในไตรมาสที่2ของปี 2553 เฉลี่ยอยู่ที่ 79.67 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.1% จากราคาเฉลี่ยไตรมาสที่แล้ว โดยแนวโน้มราคาน้ำมันดิบ WTI ในครึ่งปีหลังคาดว่า จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจาก Driving Season ในช่วงกลางปี และปริมาณความต้องการใช้น้ำมันที่ให้ความร้อน ( Heating Oil) ที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี นอกจากนี้ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวมของโลกยังเป็นบวก ต่อการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันอีกด้วย จึงคาดการณ์ ว่า ในระยะยาว ราคาน้ำมันน่าจะเป็นขาขึ้นต่อเนื่อง ตามความต้องการที่เพิ่มขึ้นของทั้งโลก รวมทั้ง Supply ที่มีค่อนข้างจำกัด และต้นทุนการผลิตและสำรวจที่เพิ่มขึ้น เพราะแหล่งสำรวจใหม่ๆ อยู่ในชั้นหินที่ลึกและยากต่อการขุดเจาะ ขณะที่การเติบโตของพลังงานทางเลือกอื่นๆยังไม่สามารถทดแทนได้ โดยผู้ลงทุนที่สนใจสามารถซื้อหน่วยลงทุนผ่าน สาขาธนาคารกรุงไทย และตัวแทนสนับสนุนการซื้อขายหน่วยลงทุนทั่วประเทศ รวมทั้งการซื้อหน่วยลงทุนผ่านระบบอออนไลน์ KTAM Smart Trade (www.ktamsmarttrade.com)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ