กรุงเทพฯ--6 ก.ค.--กองประชาสัมพันธ์ กทม.
แก้ปัญหาสนามหลวงหลังลง MOU ปรับภูมิทัศน์กับทหาร พบกลุ่มมาเฟียอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐเรียกเก็บเงินจากผู้ค้าที่ย้ายไปขายถนนอัษฎางต์ และถนนราชินี กทม. ประสานตำรวจและทหารดำเนินคดีเร่งด่วน พร้อมตั้งเต็นท์รับเรื่อง ที่ลานพระแม่ธรณีบีบมวยผม ส่วนคนเร่ร่อนเข้าบ้านพักที่จัดไว้แล้ว 56 ราย ตั้งเต็นท์ฝั่ง ม.ธรรมศาสตร์รับสมัครเข้าบ้านพักแล้ว
ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับคณะทำงานปรับปรุงภูมิทัศน์สนามหลวง ว่า ได้หารือกับเจ้าหน้าที่เขตพระนคร สำนักเทศกิจ ตำรวจนครบาลชนะสงคราม สำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย ผู้แทนกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อติดตามการดำเนินการในส่วนการทำงานของคณะทำงานด้านการจัดระเบียบผู้ค้าและการจัดหาที่อยู่อาศัยให้กลุ่มคนเร่ร่อน
จากการที่มีผู้ร้องเรียนถึงการเรียกเก็บเงินค่าแผงและค่าคุ้มครองจากผู้ค้าหลังจากที่กรุงเทพมหานครย้ายผู้ค้าสนามหลวงมาทำการค้าที่ถนนอัษฎางค์และถนนราชินี ซึ่งมีผู้แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่เทศกิจหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกเก็บค่าแผง หากไม่จ่ายจะไม่ให้ทำการค้าขายต่อไป ซึ่งผู้ค้าต่างได้รับความเดือดร้อนจากการข่มขู่และกลัวโดนทำร้าย กทม. จึงได้ประสานกับตำรวจในการจัดการกับบุคคลกลุ่มดังกล่าวอย่างเด็ดขาด ซึ่งจากการตรวจสอบเป็นผู้มีอิทธิพลเดิมที่เคยรีดไถจากผู้ค้าสนามหลวง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เข้าดำเนินคดีกลับบุคคลนี้ต่อไป ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ของกทม. หรือเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐรีดไถผู้ค้าแต่อย่างใด หากพบเห็นสามารถแจ้งได้ที่เต็นท์อำนวยการบริเวณลานพระแม่ธรณีบีบมวยผมที่มีเจ้าหน้าที่เทศกิจและเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำการและตรวจตราอยู่ตลอดเวลา
จากกรณีดังกล่าว กรุงเทพมหานครจะเร่งติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและไฟฟ้าส่องสว่างให้ครอบคลุมโดยรอบสนามหลวงป้องกันการเกิดการรีดไถอีกทางหนึ่ง นอกจากนั้นกทม. ยังประสานกับทหารและตำรวจสันติบาลจัดการกับผู้มีอิทธิพลสนามหลวงด้วย เนื่องจากพบว่ามีการเรียกเก็บเงินและมีพฤติกรรมข่มขู่ผู้ค้ามาเป็นเวลานาน
ส่วนกลุ่มคนไร้บ้านที่เคยอาศัยสนามหลวงหลับนอนได้เข้าไปพักกับมูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัยแล้วจำนวน 56 ราย ซึ่งกทม. สำนักพัฒนาสังคม และกระทรวงพัฒนาสังคมฯ จะได้ประสานหาสถานที่พักพิงแบบเปิดเช้าไปเย็นกลับเพื่อประกอบอาชีพเดิมได้ ซึ่งจากการสำรวจส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเข็นผักที่ปากคลองตลาด แต่มีบางกลุ่มที่ไม่มีอาชีพ เร่ร่อนไปตามสถานที่ต่างๆ เมื่อปิดสนามหลวงพบว่ากระจายไปยังสะพานกรุงธนบุรี วงเวียน 22 พื้นที่หัวลำโพง ซึ่งมาตรการต่อไปจะตั้งศูนย์อำนวยการรับผู้ประสงค์เข้าพักในสถานที่จัดให้บริเวณสนามหลวงด้านมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
สำหรับความคืบหน้าการปรับภูมิทัศน์สนามหลวงหลังลงนามบันทึกความเข้าใจกับกองทัพภาคที่ 1 แล้ว ขณะนี้สำนักการโยธากำลังเข้าพื้นที่กับทหารและวางแผนภารกิจปรับปรุงพื้นที่ ซึ่งในระยะเวลา 300 วัน จะมีการประชุมติดตามงานของคณะทำงานชุดต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การแก้ปัญหาสนามหลวงเดินหน้าตามกรอบเวลาต่อไป