กรุงเทพฯ--4 ส.ค.--ทีวีไทย
เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 53 กรรมการนโยบาย องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) ได้จัดให้มีการประชุมเพื่อจับสลากออกจำนวน 4 คน ซึ่งเป็นไปตามบทบัญญัติในมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติ องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) ที่ระบุว่ากรรมการนโยบายจำนวน 9 คน มีวาระดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปี (ครบสองปี ในวันที่ 1 ส.ค.53) และต้องออกจากตำแหน่งจำนวน 4 คน โดยวิธีจับสลาก เป็นการพ้นตำแหน่งตามวาระ
นายเทพชัย หย่อง ผู้อำนวยการ ส.ส.ท. ในฐานะเลขานุการ กรรมการนโยบาย ส.ส.ท. กล่าวว่า การจับสลากในครั้งนี้ จะจับสลากรวมโดยไม่แบ่งตามความเชี่ยวชาญตามที่ระบุไว้ในกฎหมาย ดังนั้น ในการสรรหากรรมการนโยบายทดแทน ก็จะเป็นไปตามสาขาที่ขาด โดยแบ่งกระบวนการเป็นสองรอบ คือ ในรอบแรก กรรมการทุกคนจะจับสลากหมายเลข 1-9 เพื่อเรียงลำดับก่อนหลัง สำหรับรอบที่สอง จะมีสลากระบุคำว่า “ออก” จำนวน 4 ใบ และ “อยู่” จำนวน 5 ใบ โดยให้แต่ละคนจับสลากตามลำดับที่ได้รับในรอบแรก
สำหรับผลการจับสลากปรากฎว่า ศ. เกริกเกียรติ พิพัฒน์เสรีธรรม นายจอน อึ๊งภากรณ์ นายสมชัย สุวรรณบรรณ และ ผศ. ดร. เอื้อจิต วิโรจน์ไตรรัตน์ จับสลาก “ออก” ส่วนกรรมการนโยบายที่ยังต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อได้แก่ นพ.พลเดช ปิ่นประทีป นายกมล กมลตระกูล นางจินตนา พันธุฟัก นางมัทนา หอมลออและรศ. ดร.อรศรี งามวิทยาพงศ์
ทั้งนี้ กรรมการนโยบายที่จับสลากออกแล้ว สามารถสมัครเพื่อเข้าสู่กระบวนการสรรหาใหม่อีกครั้งหนึ่ง แต่จะอยู่ในตำแหน่งได้ไม่เกินสองสมัย ด้านศ. ดร.เกริกเกียรติ พิพัฒน์เสรีธรรม ประธานกรรมการนโยบาย กล่าวว่า ในภาพรวม พบว่า ผลงานต่างๆ บรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เกินกว่าร้อยละ 60 ซึ่งก็น่าพอใจ แต่ยอมรับว่า มีส่วนที่ต้องพัฒนาต่อโดยเฉพาะการทำให้ผลงานหน้าจอทีวีไทย เป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม ในด้านความเป็นอิสระของการทำงานตามวิชาชีพสื่อมวลชน มั่นใจว่า สื่อสาธารณะแห่งนี้ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่
“ผมถือว่า เราประสบความสำเร็จที่ทำงานโดยยึดความเป็นอิสระและความตรงไปตรงมาในการทำงาน หลายเหตุการณ์ โดยเฉพาะ ช่วงวิกฤตทางการเมือง ในเดือน เม.ย.- พ.ค.ที่ผ่านมาก็พิสูจน์ได้ว่า ทีวีไทย ได้รับความเชื่อถือจากผู้ชมอย่างมาก ผลสำรวจความนิยมผู้ชมที่เพิ่มสูงขึ้น เป็นสิ่งยืนยันได้เป็นอย่างดี สื่อสาธารณะ มีหน้าที่ต้องตอบสนองต่อความต้องการและความคาดหวังของคนในสังคม”
ในการทำงานสองปีที่ผ่านมา สิ่งที่เป็นเรื่องยากที่สุดคือ การบริหารคน เนื่องจากพื้นฐานเดิมเป็นบุคลากรจากด้านธุรกิจ เมื่อเปลี่ยนมาเป็นสื่อสาธารณะ ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ในสังคมไทย และต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ จึงเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา และเป็นเรื่องยาก อย่างไรก็ตามเห็นว่า สิ่งที่กรรมการนโยบายจะต้องทำต่อไป คือ การสร้างวัฒนธรรมองค์กรสื่อสาธารณะให้เกิดขึ้นให้ได้
สำหรับ กรรมการนโยบาย ส.ส.ท. ประกอบด้วย ศ.ดร.เกริกเกียรติ พิพัฒน์เสรีธรรม นพ.พลเดช ปิ่นประทีป นางจินตนา พันธุฟัก ด้านการบริหารจัดการองค์กร ดร.เอื้อจิต วิโรจน์ไตรรัตน์ นายสมชัย สุวรรณบรรณ ด้านกิจการสื่อสารมวลชน ดร.อรศรี งามวิทยาพงศ์ นางมัทนา หอมละออ นายจอน อึ้งภากรณ์ และนายกมล กมลตระกูล ด้านการส่งเสริมประชาธิปไตย การพัฒนาชุมชน หรือท้องถิ่น การเรียนรู้และศึกษา การคุ้มครองและพัฒนาเด็ก เยาวชนหรือครอบครัว หรือการส่งเสริมสิทธิของผู้ด้อยโอกาสทางสังคม
ด้าน นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ ประธานกรรมการสรรหาฯ กล่าวภายหลังการประชุมกรรมการสรรหาฯ ในช่วงบ่ายวันเดียวกันว่า ที่ประชุมได้พิจารณารายละเอียดหลักเกณฑ์ ใบสมัครและเอกสารที่เกี่ยวข้อง โดยไม่มีการแก้ไขในสาระสำคัญ คาดว่า จะเริ่มประกาศรับสมัครได้ภายในวันที่ 5 ส.ค. 2533 ใช้เวลารับสมัครประมาณหนึ่งเดือน แล้วจะมีระยะเวลาตรวจสอบคุณสมบัติ พร้อมนำรายชื่อผู้สมัครที่ผ่านการพิจารณาเผยแพร่ต่อสาธารณะเพื่อให้สาธารณะตรวจสอบ ทั้งนี้คาดว่าจะให้กระบวนการสรรหาแล้วเสร็จภายใน 90 วัน
ที่ประชุมกรรมการสรรหา ได้มีมติ เลือก นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ เป็นประธานกรรมการ นายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ รองปลัดประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นรองประธานกรรมการสรรหาและ ดร.วิลาสินี อดุลยานนท์ เป็นเลขานุการ กรรมการสรรหาฯ
ติดต่อข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายอำนวยการ 0-2791-1142
และดาวน์โหลดใบสมัครได้ทาง www.thaipbs.or.th