เรื่องย่อTokyo Juliet ดีไซน์รักฉบับจูเลียต

ข่าวบันเทิง Thursday August 5, 2010 11:55 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 ส.ค.--ไทยทีวีสีช่อง 3 ออกอากาศ ทุกวันเสาร์- เวลา 01.00 — 02.00 น. ทุกวันอาทิตย์ ที่ 1 และ 3 ของเดือนเวลา 01.00-02.00 น. และทุกวันอาทิตย์ที่ 2 และ 4 ของเดือน เวลา 01.30-02.00 น. เริ่ม 31 ก.ค. 53 ทางไทยทีวีสีช่อง 3 นำแสดงโดย อู๋จุน รับบท จี้ฟงเลี่ยง หลินอีเฉิน ” หลินไล่ซุ่ย เยิ่นต๋าหัว ” ฉู่สิง หวงหงเซิง ” ลู่อี้เอ่อ เจียเฮ่อเหม่ยจื้อจิ่ว ” เค่อสิง ลู่เจียซิน ” กันหลี่ซา ไช่ซูเจิน ” เกากังฉวน ไช่อี้เจิน ” เผยเหมยจื่อ อู๋จินเฉียง ” กวางซี จางยุ่ยเจีย ” เจิ้งเน่ยซือ ซางฮ่าวเสียง ” เหว่ยเจ๋อกง เฉินยั่วอี๋ ” มาเรีย โจวตานเวย ” แม่ของหลินไล่ซุ่ย หลินไล่ซุ่ยหญิงสาวที่สอบเข้าสถาบันการออกแบบชื่อดังด้วยคะแนนอันดับหนึ่ง ในวันแรกที่เธอก้าวเข้าสู่สถาบันการออกแบบ เธอก็ยื่นหนังสือท้ารบต่อฉู่สิงอาจารย์สอนการออกแบบที่มีชื่อเสียงของสถาบัน โดยประกาศว่าจะต้องสยบฉู่สิงให้ได้ ดูเหมือนว่าหลินไล่ซุ่ยและฉู่สิงจะมีความแค้นต่อกันที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ หลินไล่ซุ่ยตั้งสัตย์ปฏิญาณว่าตราบใดที่ยังไม่สามารถสยบฉู่สิงลงได้ เธอจะไม่มีวันยุ่งเกี่ยวกับความรักเป็นอันขาด แต่ไม่นานนักคำปฏิญาณนี้กลับถูกจี้ฟงเลี่ยงนักออกแบบหนุ่มผมสีทอง ทำลายลง ในช่วงเวลาที่ความรักของหลินไล่ซุ่ยและจี้ฟงเลี่ยงกำลังสุกงอม หลินไล่ซุ่ยกลับต้องเผชิญกับความสะเทือนใจครั้งยิ่งใหญ่ นั่นก็คือจี้ฟงเลี่ยงเป็นลูกชายของฉู่สิงศัตรูของเธอ!!! แต่เพื่อหลินไล่ซุ่ยแล้ว จี้ฟงเลี่ยงถึงกับยอมเปลี่ยนสกุล จากนั้นก็ร่วมมือกับหลินไล่ซุ่ยต่อกรกับฉู่สิง เนื่องจากฉู่สิงมีอิทธิพลในวงการออกแบบ ทำให้หลายต่อหลายครั้งทำให้หลินไล่ซุ่ยและจี้ฟงเลี่ยง ต้องจนตรอก แต่ถึงกระนั้นก็ตามหลินไล่ซุ่ยก็ไม่ยอมพ่ายแพ้ หลินไล่ซุ่ยทุ่มเทความรู้ความสามารถที่มีรังสรรค์ผลงานที่โดดเด่น และยอดเยี่ยมออกมาโดยมีจี้ฟงเลี่ยงคอยสนับสนุนอยู่เคียงข้างให้กำลังใจเธอ ทำให้ทั้งสองได้รับชัยชนะในที่สุด .... ตอนที่ 1 หลินไล่ซุ่ยหญิงสาวที่สอบเข้าสถาบันการออกแบบชื่อดังด้วยคะแนนอันดับหนึ่ง วันแรกที่เธอก้าวเข้าสู่สถาบันการออกแบบ เธอก็ยื่นหนังสือท้ารบต่อฉู่สิงอาจารย์สอนการออกแบบที่มีชื่อเสียงของสถาบัน โดยประกาศว่าจะต้องสยบฉู่สิงให้ได้ ดูเหมือนว่าหลินไล่ซุ่ยและฉู่สิงจะมีความแค้นต่อกันที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ หลินไล่ซุ่ยตั้งสัตย์ปฏิญาณว่าตราบใดที่ยังไม่สามารถสยบฉู่สิงลงได้ เธอจะไม่มีวันยุ่งเกี่ยวกับความรักเป็นอันขาด จี้ฟงเลี่ยง นักศึกษาสถาบันการออกแบบชั้นปีสอง จี้ฟงเลี่ยงเป็นผู้หนึ่งที่มีพรสวรรค์ในการออกแบบ แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่ที่ไม่เคยออกแบบเสื้อผ้าผู้หญิงมาก่อน จี้ฟงเลี่ยงนับได้ว่าเป็นผู้ชายเนื้อหอม ครั้งแรกที่จี้ฟงเลี่ยงได้รู้จักกับหลินไล่ซุ่ยนั้น จี้ฟงเลี่ยงกลับถูกหลินไล่ซุ่ยเข้าใจผิดคิดว่าเป็นนักศึกษาหญิง ต่อมา ความจริงถึงกระจ่าง คำพูดของจี้ฟงเลี่ยงตรงกับคำพูดของหลินไล่ซุ่ยที่พูดถึงเด็กผู้ชายในความทรงจำเมื่อครั้งที่ยังเยาว์วัยว่า “ผมดำเงาเป็นมันราวกับตุ๊กตา” ทั้งสองหารู้ไม่ว่าโชคชะตาได้ชักพาให้คนทั้งสองรักกัน ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองสนิทสนมกันเร็วมาก หลังจากที่หลินไล่ซุ่ยบอกรักจี้ฟงเลี่ยงแล้วก็รู้สึกอึดอัดใจมากด้วยเธอเคยปฏิญาณว่าถ้าหากยังไม่สามารถเอาชนะฉู่สิงได้จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับความรักเป็นอันขาด ครั้งหนึ่งหลินไล่ซุ่ยได้รับบาดเจ็บจนต้องพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องพยาบาล จี้ฟงเลี่ยงเปิดเผยความลับให้หลินไล่ซุ่ยรู้ว่าตนได้เปิดร้านเสื้อผ้าด้วยกันกับอากงและอาซือ หวังว่าสักวันหนึ่งตนจะเหนือกว่าฉู่สิง เป็นนักออกแบบมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ความลับนี้มีเพียงหลินไล่ซุ่ยคนเดียวเท่านั้นที่รู้ หรือว่าบางทีเรื่องนี้คือเป้าหมายเดียวกันของ หลินไล่ซุ่ยและจี้ฟงเลี่ยง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ความสัมพันธ์ของคนทั้งสองสนิทสนมแนบแน่นขึ้นอย่างรวดเร็ว ตอนที่ 2 ฉู่สิงสอนบทเรียนนอกห้องเรียน ทำให้บรรดารุ่นพี่ซึ่งไม่ชอบขี้หน้าหลินไล่ซุ่ยและจี้ฟงเลี่ยงต่างพากันจงใจเล่นงานคนทั้งสอง เพื่อปกป้องคุ้มครองหลินไล่ซุ่ย จี้ฟงเลี่ยงจึงโกหกทุกคนว่าตนเห็นหลินไล่ซุ่ยเป็นเหมือนเพื่อนนักเรียนชายคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้มีพิเศษหรือมีความสำคัญกว่าคนอื่น แต่คำพูดของจี้ฟงเลี่ยงช่างเชือดเฉือนจิตใจของหลินไล่ซุ่ยเสียเหลือเกิน หลังจากที่เหตุการณ์ผ่านพ้นไปแล้ว จี้ฟงเลี่ยงก็ใช้วาจาหวานหูต่อหลินไล่ซุ่ย สร้างความฉงนท์ให้เธอยิ่งนัก หมดเวลาพักกลางวัน หลินไล่ซุ่ยซึ่งมีอารมณ์ขุ่นมัวอยู่นั้นได้เข้าไปในห้องเสื้อผ้าโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว หลินไล่ซุ่ยตื่นตาตื่นใจเมื่อเห็นเสื้อผ้าสวยงามอยู่เต็มห้อง แต่เมื่อจี้ฟงเลี่ยงปรากฏตัวออกมา หลินไล่ซุ่ยก็หลุดปากพูดออกมาว่าเมื่อเธออายุห้าขวบได้ออกแบบดอกเบญจมาศเอาไว้ซึ่งดอกเบญจมาศนี้ทำให้พ่อของเธอชนะเลิศการออกแบบชุดสากล ที่สำคัญดอกเบญจมาศเป็นดอกไม้ที่แม่ชื่นชอบอีกด้วย แววตาซึ่งเต็มไปด้วยพลังลึกลับของหลินไล่ซุ่ยซึ่งต้องการจะโค่นฉู่สิงลงให้ได้นั้นดูเหมือนว่าเป็นคำตอบอย่างดี หลินไล่ซุ่ยเกรงว่าถ้าหากเธอยังคงอยู่ภายใต้การจับตามองของจี้ฟงเลี่ยง เธอเชื่อว่าสักวันหนึ่งเธอจะต้องทำลายคำสาบานของเธออย่างแน่นอน ในที่สุดหลินไล่ซุ่ยก็ตัดสินใจไปจากสถาบันออกแบบเสื้อผ้า แต่แล้วจู่ๆฉู่สิงก็ปรากฏตัวออกมาอย่างพิศวงโดยเตือนจี้ฟงเลี่ยงอย่าได้ข้องแวะเกี่ยวพันกับหลินไล่ซุ่ยอีกต่อไป เพราะเธอจะเป็นคนทำลายความฝันของจี้ฟงเลี่ยงที่ต้องการเป็นนักออกแบบลง เมื่อจี้ฟงเลี่ยง ได้ยินเช่นนั้นก็ท้าทายโดยเห็นฉู่สิงเป็นศัตรูเช่นเดียวกัน ความรู้สึกเป็นศัตรูของหลินไล่ซุ่ย,จี้ฟงเลี่ยงและฉู่สิงที่มีต่อกันได้ก่อตัวขึ้นแล้ว หลินไล่ซุ่ยรู้สึกวิตกกังวลที่เธอพลั้งปากบอกจี้ฟงเลี่ยงว่าเธอเป็นคนออกแบบดอกเบญจมาศ ด้วยเหตุนี้เธอจึงตั้งใจไปหาจี้ฟงเลี่ยงเพื่อพูดคุยให้ชัดเจนว่าถ้าหากไม่เชื่อก็สุดแล้วแต่ แต่เธอสามารถอธิบายได้ นึกไม่ถึงว่าจี้ฟงเลี่ยงกลับแสดงท่าทีอย่างจริงจังว่าเชื่อคำพูดของหลินไล่ซุ่ย เพราะเป็นคำพูดที่ออกจากปากเธอเอง หลินไล่ซุ่ยเข้าค่ายอบรม ด้วยความไม่ระวังตัวจึงพลัดตกน้ำจนเนื้อตัวเปียกปอน นักเรียนชายพบเห็นเข้าจึงพากันลวนลาม จี้ฟงเลี่ยงโกรธมากจึงสั่งสอนชายเหล่านั้นจนเข็ดราบ หลินไล่ซุ่ยรู้สึกประทับใจที่จี้ฟงเลี่ยงคุ้มครองเธอ ทำให้เธอเปิดใจยอมรับจี้ฟงเลี่ยงโดยไม่ได้ระแวงจี้ฟงเลี่ยงอีกต่อไป หรือว่าในเวลานี้เธอหลงรักจี้ฟงเลี่ยงเข้าเสียแล้ว รุ่งขึ้น ผลงานการออกแบบของจี้ฟงเลี่ยงได้รับรางวัลชนะเลิศ ทุกคนต่างพากันตามหาเพื่อแสดงความยินดีกับจี้ฟงเลี่ยง จี้ฟงเลี่ยงซึ่งไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้จึงเก็บซ่อนตัวไว้ เนื่องจากหลินไล่ซุ่ยและอาซือมีโอกาสอยู่ด้วยกันตามลำพัง ทั้งสองจึงปรึกษาหารือกัน ดูเหมือนว่ามีแผนการอะไรบางอย่าง... ตอนที่ 3 หลังจากที่จี้ฟงเลี่ยงรับรู้จากคนรอบข้างว่าหลินไล่ซุ่ยและอาซืออยู่ด้วยกันตามลำพัง ทั้งยังมีพฤติกรรมส่อพิรุธ ทำให้จี้ฟงเลี่ยงเกิดความหึงหวงขึ้นมา เมื่อหลินไล่ซุ่ยตระเตรียมเลี้ยงฉลองให้จี้ฟงเลี่ยงด้วยความเบิกบานใจนั่นเอง นึกไม่ถึงว่าเธอกลับถูกจี้ฟงเลี่ยงพูดจาเชือดเฉือน หลินไล่ซุ่ยรับไม่ได้ที่ถูกหมิ่นเกียรติจึงร้องไห้จากไป ต่อมาจี้ฟงเลี่ยงถึงรู้ความจริงว่าตนเข้าใจผิดไปเอง ที่แท้การที่อาซือ และหลินไล่ซุ่ยมีพฤติกรรมส่อพิรุธนั้นด้วยมีสาเหตุจากการตระเตรียมเค้กเฉลิมฉลองแสดงความยินดีให้ตน จี้ฟงเลี่ยงตำหนิตนเองเป็นการใหญ่ จากนั้นก็ออกตามหาหลินไล่ซุ่ย จี้ฟงเลี่ยงพบหลินไล่ซุ่ยกำลังร้องห่มร้องไห้ด้วยความเศร้าโศกเสียใจ ทั้งที่จี้ฟงเลี่ยงกล่าวขอโทษ หลินไล่ซุ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน แต่คำพูดที่พูดออกมานั้นกลับทำร้ายจิตใจเธอโดยพูดว่าแม้ว่าตนรับปากคุ้มครองเธอไม่ให้ถูกฉู่สิงรังแก แต่ไม่ได้หมายความว่าตนรับรักจากเธอแต่อย่างใด คำพูดของจี้ฟงเลี่ยงสร้างความฉงนให้หลินไล่ซุ่ยขึ้นมาว่า ที่จริงแล้วฉู่สิงและจี้ฟงเลี่ยงบาดหมางกันด้วยเรื่องใดกันแน่ การเข้าค่ายเสร็จสิ้นลง หลังจากที่หลินไล่ซุ่ยกลับถึงบ้านแล้วก็คิดหัวแทบระเบิดโดยไม่เข้าใจความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดของ จี้ฟงเลี่ยง แต่จี้ฟงเลี่ยงเป็นคนเข้มแข็ง เมื่อไม่ถึงที่สุดเชื่อว่าจี้ฟงเลี่ยงไม่มีวันเปิดเผยความจริงออกมาอย่างแน่นอน เมื่อไม่มีคำตอบ หลินไล่ซุ่ยและจี้ฟงเลี่ยงจึงจำต้องรักษาสัมพันธภาพที่ยังคงอึมครึมกันต่อไป ด้วยความที่หลินไล่ซุ่ยต้องการรู้จักตัวตน ที่แท้จริงของจี้ฟงเลี่ยงให้มากกว่านี้ จึงจำต้องรับปากไปร่วมงานเลี้ยงสมาคมนักออกแบบกับอาซือซึ่งจี้ฟงเลี่ยงไปร่วมงานเป็นประจำเพื่อแลกเปลี่ยนกับข้อมูลส่วนตัวของจี้ฟงเลี่ยง หลินไล่ซุ่ยไม่เพียงพบว่าจี้ฟงเลี่ยงไปร่วมงานเลี้ยง ทั้งยังได้รับความช่วยเหลือจาก จี้ฟงเลี่ยงจนมีเรื่องวิวาทชกต่อยกับคนอื่นอีกด้วย หลินไล่ซุ่ยสุดที่จะทนต่อไปได้จึงต้องการรู้ความจริงให้ได้ว่าทั้งที่จี้ฟงเลี่ยงไม่รักเธอ แต่เหตุใดจึงปกป้องคุ้มครองเธอ ทั้งที่จี้ฟงเลี่ยงรู้ถึงเจตนาของหลินไล่ซุ่ย แต่จี้ฟงเลี่ยงก็ยังคงยืนกรานไม่ยอมเปิดเผยความจริง จนกระทั่งฉู่สิงปรากฏตัวออกมา หลินไล่ซุ่ยก็ได้ยินคำว่าพ่อออกจากปากของจี้ฟงเลี่ยง เมื่อความจริงปรากฏ แต่ความจริงนั้นกลับทำร้ายจิตใจของหลินไล่ซุ่ย จี้ฟงเลี่ยงฉวยโอกาสนี้ยืนยันหนักแน่นว่าจะไม่ใช้บารมีของฉู่สิงเพื่อเข้าสู่วงการออกแบบเป็นอันขาด ในเวลาเดียวกัน ฉู่สิงก็ยืนยันหนักแน่นว่าจะไม่ให้หลินไล่ซุ่ยเป็นนักออกแบบเป็นอันขาด หลังจากที่ความสัมพันธ์ของฉู่สิงและจี้ฟงเลี่ยงถูกเปิดเผยออกมาแล้ว ในที่สุดจี้ฟงเลี่ยงก็เปิดเผยว่าเหตุใดก่อนหน้านี้ ตนจึงไม่สามารถรับรักจากหลินไล่ซุ่ยได้ หลังจากที่หลินไล่ซุ่ยและจี้ฟงเลี่ยงพูดคุยปรับความเข้าใจกันแล้ว ก็ทำให้หลินไล่ซุ่ยยิ่งมั่นใจว่าจี้ฟงเลี่ยงเป็นชายหนุ่ม ที่ ชื่นชมเธอในงานเลี้ยงนั่นเอง แต่การที่รู้ความจริงในเวลานี้กลับทำร้ายจิตใจเสียเหลือเกิน หลินไล่ซุ่ยซึ่งไม่สามารถทำใจยอมรับความจริงได้ จึงตัดสินใจเป็นฝ่ายถอนตัวไปจากจี้ฟงเลี่ยง ระหว่างทางหลินไล่ซุ่ยได้พบกับอาซือซึ่งหน้าตาตื่นตามหาเธอและจี้ฟงเลี่ยง ในเวลานี้เอง หลินไล่ซุ่ยจึงอาศัยอาซือเป็นที่พึ่งพิงปลอบใจจิตใจที่ร้าวรานของเธอ หลินไล่ซุ่ยให้คำมั่นสัญญาต่อพ่อของเธอว่าเธอจะต้องเป็นนักออกแบบที่มีชื่อเสียงโด่งดังเหนือกว่าฉู่สิงให้ได้ ดูเหมือนว่าในเวลานี้หลินไล่ซุ่ยจะมีแผนการบางอย่างอยู่ในใจ หลินไล่ซุ่ยนัดหมายจี้ฟงเลี่ยงออกไปเที่ยวด้วยกัน แม้ว่าหลินไล่ซุ่ยปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอมีความสุข เมื่ออยู่ใกล้ชิดจี้ฟงเลี่ยง แต่เพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมาย เธอตระหนักดีว่าจะต้องเสียสละบางสิ่งบางอย่าง หลินไล่ซุ่ยขอร้องจี้ฟงเลี่ยงให้ช่วยตัดผม ให้เธอ สำหรับเธอแล้วการตัดผมทิ้งไปถือว่าเป็นการตัดความห่วงหาที่เธอมีต่อจี้ฟงเลี่ยงทิ้งไปนั่นเอง ตอนที่ 4 รุ่งขึ้น หลินไล่ซุ่ยในภาพลักษณ์ใหม่ผมยาวประบ่า เธอพยายามทำตัวให้ยุ่งเพื่อให้ลืมทุกสิ่ง ในเวลาเดียวกันนี้ อาซือฉวยโอกาสนี้เปิดเผยความในใจบอกรักหลินซุ่ย ทั้งที่หลินไล่ซุ่ยยังอารมณ์ขุ่นมัวอยู่ แต่เธอกลับได้รับคำสั่งจากเจ้าของร้านให้ไปช่วยงานร้านเสื้อผ้า และแล้วหลินไล่ซุ่ยก็รับรู้ข่าวที่ทำให้เธอตกตะลึง แม่ของเธอจะกลายเป็นฮูหยินของฉู่สิงแล้วหรือ เรื่องนี้แม้แต่จี้ฟงเลี่ยงยังไม่เชื่อ จี้ฟงเลี่ยง หยอกล้อหลินไล่ซุ่ย ทำให้ความสัมพันธ์ของคนทั้งสองดีขึ้นเป็นลำดับ ผลการคัดเลือกตัวแทนนักเรียนออกแบบแลกเปลี่ยนระหว่างสถาบันถูกประกาศออกมาแล้ว ผลปรากฏว่ามีรายชื่อของหลินไล่ซุ่ยและจี้ฟงเลี่ยงเป็นตัวแทน ฉู่สิงสร้างความกดดันเพื่อบีบบังคับให้หลินไล่ซุ่ยสละสิทธิ์ จี้ฟงเลี่ยงตระหนักดีว่าต้องเป็นฝีมือของพ่ออย่างแน่นอน เมื่อเป็นเช่นนี้จี้ฟงเลี่ยงจึงตัดสินใจยื่นข้อเสนอว่าจะช่วยงานบริษัทของฉู่สิง เพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่หลินไล่ซุ่ยได้มีสถานะนักเรียนของสถาบันดังเดิม หลังจากที่หลินไล่ซุ่ยรู้ว่าจี้ฟงเลี่ยงเสียสละเพื่อเธอแล้ว หลินไล่ซุ่ยก็ตั้งปณิธานว่าจะไม่ทำให้จี้ฟงเลี่ยงผิดหวังเป็นอันขาด หลินไล่ซุ่ยไปที่บริษัทของฉู่สิง รวบรวมความกล้าเปิดเผยความในใจบอกรักจี้ฟงเลี่ยง ด้วยหวังว่าการทำเช่นนี้นั้นจะสามารถรั้งจี้ฟงเลี่ยงไว้ได้ ในเวลาเดียวกันนี้เอง จี้ฟงเลี่ยงก็ตระหนักว่าหลินไล่ซุ่ยเป้นผู้หญิงที่มีความสำคัญกับตนเป็นอันมาก เมื่อจี้ฟงเลี่ยงและหลินไล่ซุ่ยเข้าใจกันเป็นอย่างดีแล้ว ทั้งสองก็พากันไปจากบริษัทของฉู่สิง แม้ว่าหลินไล่ซุ่ยและจี้ฟงเลี่ยงต่างให้คำมั่นสัญญาต่อกันว่าจะรักกันตลอดไป แต่หลินไล่ซุ่ยก็รู้สึกผิดต่อ อาซือที่หลงรักเธอเรื่อยา ตอนที่ 5 ก่อนออกเดินทางไปเข้าค่ายอบรมการออกแบบที่ต่างประเทศ หลินไล่ซุ่ยและจี้ฟงเลี่ยงจึงพากันรวบรวมผลงานการออกแบบใหม่ ๆ หลินไล่ซุ่ยพบเห็นผลงานการออกแบบของฉู่สิงโดยบังเอิญ สิ่งที่หลินไล่ซุ่ยพบเห็นทำให้เธอรู้สึกผิดหวังที่ไม่สามารถเทียบฉู่สิง ได้แม้แต่น้อย แต่จากความช่วยเหลือของจี้ฟงเลี่ยง ทำให้หลินไล่ซุ่ยยืนหยัดเข้มแข็งขึ้นมาได้ หลินไล่ซุ่ยทุ่มเทแรงกายแรงใจให้การออกแบบตั้งแต่เช้าจรดค่ำด้วยหวังว่าจะสามารถเอาชนะฉู่สิงให้ได้ จนทำให้ละเลยความรักไปสร้างความอึดอัดให้จี้ฟงเลี่ยงเป็นอันมาก หลินไล่ซุ่ยรู้สึกผิดที่ละเลยต่อความรักไป ด้วยเหตุนี้จึงตัดสินใจไปขอโทษจี้ฟงเลี่ยง นึกไม่ถึงว่าหลินไล่ซุ่ย กลับแอบได้ยินคำพูดของ จี้ฟงเลี่ยงซึ่งระบายความอัดอั้นตันใจให้อาซือฟังว่า คบหากับหลินไล่ซุ่ยช่างลำบากยากเย็นเสียเหลือเกิน เมื่อหลินไล่ซุ่ยได้ยินเช่นนั้น ก็จากไปด้วยความผิดหวัง เดิมทีหลินไล่ซุ่ยคิดจะยุติความสัมพันธ์ของเธอกับจี้ฟงเลี่ยง แต่ในงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของฉู่สิง จี้ฟงเลี่ยง ได้ฉวยโอกาสนี้ประกาศผลงานการออกแบบชิ้นใหม่ของอากง,อาซือและหลินไล่ซุ่ยโดยแสดงเจตนาที่จะโค่นฉู่สิงลงให้ได้ เมื่อหลินไล่ซุ่ย รู้ถึงเจตนาที่แท้จริงของจี้ฟงเลี่ยงก็ทำให้เธอและจี้ฟงเลี่ยงเดินทางไปเข้าค่ายอบรมการออกแบบด้วยความปลาบปลื้มใจ ตอนที่ 6 หลินไล่ซุ่ยและจี้ฟงเลี่ยงได้รู้จักกับไอริลนักออกแบบรุ่นใหม่ ทั้งที่เป็นอายุยังน้อย แต่กลับเป็นนักออกแบบที่มีชื่อเสียงจนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาจากผู้คน แม้ว่าท่าทีที่ไอริลมีต่อหลินไล่ซุ่ยนั้นสร้างความไม่พอใจให้จี้ฟงเลี่ยงเป็นอันมาก แต่จี้ฟงเลี่ยงก็เกรงว่าเมื่อตนและหลินไล่ซุ่ยอยู่ด้วยกันตามลำพังแล้ว ตนจะไม่สามารถควบคุมจิตใจตนเองจนล่วงล้ำก้ำเกินเธอ ด้วยเหตุนี้เองเมื่อตกดึก จี้ฟงเลี่ยงจึงจงใจออกจากที่พักไป เนื่องจากหลินไล่ซุ่ยมีสุขภาพไม่สมบูรณ์สักเท่าใดนัก ด้วยความมึนงงจึงทำให้เธอเข้าใจผิดคิดว่าไอริลซึ่งนำกระเป๋าเดินทางซึ่งสับเปลี่ยนไปมาคืนเป็นจี้ฟงเลี่ยง หลินไล่ซุ่ยและไอริลจูบกัน จี้ฟงเลี่ยงกลับมาพบเห็นเข้า จี้ฟงเลี่ยงซึ่งจิตใจเต็มไปด้วยความหึงหวงจงใจเย็นชาต่อหลินไล่ซุ่ย หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นแล้ว หลินไล่ซุ่ยถึงรู้สาเหตุจากไอริล แม้ว่าหลินไล่ซุ่ยรู้สึกละอายใจ แต่จี้ฟงเลี่ยงก็ไม่ควรเป็นปฏิปักษ์ต่อไอริล จี้ฟงเลี่ยงจากไปด้วยความโกรธ หลินไล่ซุ่ย หลงทาง ทั้งยังถูกชายแปลกหน้าเกี้ยวพาราสี จี้ฟงเลี่ยงไม่สามารถใจดำทิ้งหลินไล่ซุ่ยไว้ตามลำพังได้จึงย้อนกลับไปหาเธอ จี้ฟงเลี่ยงพบเห็นหลินไล่ซุ่ยกำลังถูกลวนลามจึงช่วยเธอเอาไว้ จี้ฟงเลี่ยงเน้นย้ำว่าตนและหลินไล่ซุ่ยหากขาดคนใดคนหนึ่งไปก็จะไม่เป็นหนึ่งเดียวกัน ด้วยความคิดเช่นนี้ทำให้ความสัมพันธ์ของจี้ฟงเลี่ยงและหลินไล่ซุ่ยกระชับแน่นแฟ้นขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ตอนที่ 7 การอบรมการออกแบบกำลังจะสิ้นสุดมีการจัดงานเลี้ยงขึ้น ไอริลและฉู่สิงมาร่วมงาน การมาเยือนของฉู่สิงในครั้งนี้ทำให้ หลินไล่ซุ่ยถูกตัดสิทธิ์ไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันการออกแบบ หลินไล่ซุ่ยรู้ดีว่าการที่ฉู่สิงมาที่นี่นั้นมีเป้าหมายเพื่อเล่นงานเอ เมื่อหลินไล่ซุ่ย กลับถึงสถาบันการออกแบบก็ทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อการแข่งขันการออกแบบ แต่แล้วก็มีสิ่งที่คาดคิดไม่ถึงก็คือไอริลมาเป็นอาจารย์สอนการออกแบบให้นักเรียนชั้นปีที่หนึ่งของสถาบันการออกแบบ ไอริลมอบหมายให้หลินไล่ซุ่ยนำนิตยสารมาส่งให้ตนที่ที่พัก ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของหลินไล่ซุ่ยจึงแอบดูผลงานการออกแบบของไอริล แต่น่าเสียดายที่ถูกไอริลร้องห้ามด้วยน้ำเสียงดุดัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้หลินไล่ซุ่ยรู้สึกว่าไอริลเป็นคนเอาจริง เอาจังกับงานเป็นอันมาก อีกด้านหนึ่ง ฉู่สิงซึ่งเป็นกรรมการตัดสินผลงานการออกแบบ ท่ามกลางผลงานการออกแบบจำนวนมาก ผลงานการออกแบบที่โดดเด่นที่สุดกลับเป็นผลงานการออกแบบของหลินไล่ซุ่ย ฉู่สิงยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย หลินไล่ซุ่ยได้รับโทรศัพท์จากกองการประกวดการออกแบบว่าเธอชนะเลิศได้รับรางวัล ขอให้เธอไปรับการสัมภาษณ์ที่โรงแรม ตี้หวัง หลินไล่ซุ่ยคิดไม่ถึงเลยว่าทั้งหมดเป็นแผนการของฉู่สิง ที่แท้การที่ฉู่สิงทำเช่นนี้นั้นเพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กับไอริลโดยให้ไอริลได้ครอบครองหลินไล่ซุ่ยเพื่อให้หลินไล่ซุ่ยและจี้ฟงเลี่ยงผิดใจกัน เมื่อทั้งสองผิดใจกันก็จะแยกทางกัน สิ่งที่เลวร้ายไปกว่านั้นฉู่สิง นำผลงานของหลินไล่ซุ่ยมาเป็นของตนเพื่อเสริมสร้างชื่อเสียงของตนเฉกเช่นเดียวกับการสมอ้างว่าเป็นผู้ออกแบบดอกเบญจมาศ ทั้งที่เป็นผลงานของหลินไล่ซุ่ย จี้ฟงเลี่ยงไม่พบหลินไล่ซุ่ยจึงทำให้เกิดความวิตกกังวลขึ้นมา พ่อของหลินไล่ซุ่ยบอกจี้ฟงเลี่ยงว่ากองการประกวดการออกแบบมีโครงการสนับสนุนหลินไล่ซุ่ยจึงทำให้เธอไม่กลับบ้านสักระยะหนึ่ง จี้ฟงเลี่ยงรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ชอบมาพากล ตอนที่ 8 อีกด้านหนึ่ง หลินไล่ซุ่ยคิดหาหนทางเพื่อเอาตัวรอดจากภัยที่อยู่เบื้องหน้า เธอไม่เพียงต่อว่าไอริล ทั้งยังเปิดเผยความจริงเรื่องดอกเบญจมาศซึ่งเป็นผลงานการออกแบบของเธอออกมาอีกด้วย หลังจากที่ไอริลได้ยินเช่นนั้นก็เกิดความฉงนท์จึงซักไซ้ ไล่เรียงเอาความจริง ทันใดนั้นเองจี้ฟงเลี่ยงก็หุนหันผลันแล่นเข้ามาพบเห็นไอริลและหลินไล่ซุ่ยอยู่ด้วยกันตามลำพังจนเกิดความเข้าใจผิดขึ้นมา ภาพเบื้องหน้าที่พบเห็นสร้างความเดือดดาลให้จี้ฟงเลี่ยงเป็นอันมาก ไอริลตามจี้ฟงเลี่ยงออกไปเพื่อแก้ต่างให้ หลินไล่ซุ่ย จี้ฟงเลี่ยงซึ่งกำลังเดือดดาลอยู่นั้น หลังจากที่รับฟังคำอธิบายของไอริลแล้วก็ทำให้จี้ฟงเลี่ยงคลายอารมณ์ขุ่นมัวลงไป จี้ฟงเลี่ยงย้อนกลับไปยังโรงแรมตี้หวังเพื่อรับตัวหลินไล่ซุ่ย นึกไม่ถึงกลับไม่ง่ายดั่งที่คิด ฉู่สิงขัดขวางห้ามปรามจี้ฟงเลี่ยงเอาไว้ ด้วยความที่หลินไล่ซุ่ยต้องการเอาตัวรอดจึงตัดสินใจกระโดดลงมาจากดาดฟ้า หลังจากที่หลินไล่ซุ่ยฟื้นได้สติขึ้นมาแล้ว ก็พบว่าเธอนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล เนื่องจากหลินไล่ซุ่ยยังคงเป็นห่วงเรื่องที่ยังคงค้างคาใจอยู่จึงยืนกรานว่าจะไปจากโรงพยาบาลให้ได้ เธอไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ย้อนรอยเรื่องดอกเบญจมาศดั่งที่เกิดขึ้นมาแล้วในอดีต หลังจากที่ไอริลรู้ความจริงทั้งหมดแล้วก็รับไม่ได้ต่อพฤติกรรมของฉู่สิงเป็นอันมาก ไอริลข่มขู่ว่าจะเปิดโปงเรื่องผลงานดอกเบญจมาศออกมาเพื่อให้ฉู่สิงคืนผลงานการออกแบบที่ชนะเลิศของหลินไล่ซุ่ย ฉู่สิงไม่มีทางเลือกจึงต้องจำใจน้อมรับข้อเสนอของไอริล หลินไล่ซุ่ยซึ่งหลบหนีออกจากโรงพยาบาลจนปัญญาที่ฉู่สิงไม่ยอมรับว่าขโมยผลงานการออกแบบของเธอไป จี้ฟงเลียง สุดที่จะทนต่อไปได้จึงตัดสัมพันธ์พ่อลูกกับฉู่สิง หลินไล่ซุ่ยตื้นตันใจที่จี้ฟงเลี่ยงทำเพื่อเธอเช่นนี้ มรสุมผ่านพ้นไปชั่วขณะ หลินไล่ซุ่ยและจี้ฟงเลี่ยงได้รับเชื้อเชิญให้เข้าร่วมนิทรรศการผลงานการออกแบบของไอริล ผลงานการออกแบบของไอริลสร้างความศรัทธาให้หลินไล่ซุ่ยเป็นอันมาก ต่อมาหลินไล่ซุ่ยก็เหลือบไปเห็นผลงานการออกแบบของเธอบนเวที ไอริลจูงหลินไล่ซุ่ยขึ้นไปบนเวทีโดยประกาศว่าเธอเป็นเจ้าของผลงานการออกแบบ แขกเหรื่อที่มาร่วมงานพากันปรบมือเกรียวกราว ในที่สุดหลินไล่ซุ่ยก็เป็นที่ยอมรับในวงการแฟชั่น ทั้งที่ได้รับความกดดันจากฉู่สิง และข่าวที่นำเสนอบนหน้าหนังสือพิมพ์ก็เป็นข่าวในเชิงลบ ทว่าผลงานการออกแบบของหลินไล่ซุ่ยและจี้ฟงเลี่ยงก็ยังคงเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนาหู ด้วยเหตุนี้จึงทำให้กองการประกวดรู้ความจริงว่าผลงานการออกแบบที่เข้าร่วมการประกวดเป็นผลงานของหลินไล่ซุ่ย ด้วยความที่กองการประกวดการออกแบบเกิดความสนอกสนใจผลงานการออกแบบของหลินไล่ซุ่ย กองการประกวดจึงเชิญหลินไล่ซุ่ยมาพูดคุยกัน หลินไล่ซุ่ยต้องการตอบแทนไอริลที่ให้โอกาสสนับสนุนเธอ เธอจึงอาสานำต้นฉบับการออกแบบไปเก็บที่ห้องทำงานของไอริล แต่นึกไม่ถึงว่าระหว่างทางถูกคนลึกลับช่วงชิงต้นฉบับไปทำลาย จากคำบอกกล่าวของคนร้ายดูเหมือนว่าฉู่สิงเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้หลินไล่ซุ่ยลืมนัดหมาย ที่มีกับกองการประกวดการออกแบบ ทำให้หลินไล่ซุ่ยพลาดโอกาสสำคัญไป ไอริลเห็นใจที่หลินไล่ซุ่ยรักษาต้นฉบับไว้จนได้รับบาดเจ็บ ด้วยเหตุนี้ไอริลจึงอาสาไปส่งหลินไล่ซุ่ยที่บ้าน นึกไม่ถึงว่าถูก จี้ฟงเลี่ยงพบเห็นเข้าจนเกิดความเข้าใจผิดขึ้นมา ตอนที่ 9 สงครามเย็นระหว่างหลินไล่ซุ่ยและจี้ฟงเลี่ยงเกิดขึ้นเรื่อยมาจนถึงการคัดเลือกนักออกแบบชุดวัฒนธรรม เดิมทีหลินไล่ซุ่ยตั้งใจว่าจะแสดงความยินดีต่อจี้ฟงเลี่ยงที่ได้รับการคัดเลือกแต่ก็ติดที่ขัดเขิน ทางด้านจี้ฟงเลี่ยงกลับมาท่าทีเย็นชาต่อหลินไล่ซุ่ย ซึ่งดูเหมือนว่าจี้ฟงเลี่ยงจะทุ่มเทให้กับงานมากเป็นพิเศษ ในวันงานวัฒนธรรม หลินไล่ซุ่ยได้รับคำเชื้อเชิญจากอาซือให้เป็นนางแบบสวมชุดวัฒนธรรมเดินบนเวที หลินไล่ซุ่ยในชุดขาวเป็นที่จับตามองจากบรรดาแขกเหรื่อที่มาร่วมงาน ที่แท้จี้ฟงเลี่ยงตั้งใจตัดเย็บชุดวัฒนธรรมขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อให้หลินไล่ซุ่ยสวมใส่ ด้วยบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเบิกบาน หลินไล่ซุ่ยหารู้ไม่ว่ากำลังเป็นเป้าสายตาจากคนลึกลับ งานวัฒนธรรมเสร็จสิ้น นักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งและชั้นปีที่สองต้องไปฝึกงานที่บริษัทผ้ายื่อหยาง นึกไม่ถึงว่าเกากังฉวนลูกสาวเจ้าของบริษัทผ้ายื่อหยางให้ความสนใจจี้ฟงเลี่ยงเป็นพิเศษ เกากังฉวนซึ่งให้ความสนใจจี้ฟงเลี่ยงเป็นพิเศษได้ชักชวนจี้ฟงเลี่ยงให้เข้ามาทำงานด้วยกัน การนี้ถึงกับยกเลิกสัญญา ที่ร่วมงานกันมาหลายปีกับฉู่สิงเลยทีเดียว เกากังฉวนยื่นข้อเสนอต่อจี้ฟงเลี่ยงว่าถ้าหากจี้ฟงเลี่ยงยินดีมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเธอ เธอก็จะสนับสนุนอาซือและอากงเป็นนักออกแบบของบริษัท นึกไม่ถึงว่ากลับถูกจี้ฟงเลี่ยงปฏิเสธ จี้ฟงเลี่ยงแสดงจุดยืนว่าตนขายความสามารถเท่านั้น ไม่ได้ขายตัว อีกด้านหนึ่งนั้น เนื่องจากหลินไล่ซุ่ยรู้ว่าจี้ฟงเลี่ยงจะต้องไปเจรจาที่บริษัทยื่อหยาง เธอจึงช่วยไอริลหาข้อมูล นึกไม่ถึงว่าทั้งสองถูกขังอยู่ในห้องด้วยกัน เนื่องจากไอริลกำลังจะเดินทางกลับอิตาลี ด้วยอารมณ์ชั่ววูบทำให้ไอริลลวนลามหลินไล่ซุ่ย โชคดี ที่จี้ฟงเลี่ยงเข้ามาขัดขวางทันการพอดี ไอริลเห็นว่าโอกาสหลุดลอยไปจึงตั้งใจว่าครั้งหน้าเมื่อตนกลับมาจะต้องครอบครองหัวใจของหลินไล่ซุ่ยให้ได้ ตอนที่ 10 แม้ว่าเกากังฉวนถูกจี้ฟงเลี่ยงปฏิเสธ กระนั้นก็ชื่นชมจี้ฟงเลี่ยงที่มีจุดยืนชัดเจน ด้วยเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจให้การสนับสนุนจี้ฟงเลี่ยงและพวกโดยชักชวนทุกคนถ่ายทำโฆษณา หลินไล่ซุ่ยและจี้ฟงเลี่ยงพากันไปที่กองถ่าย ทั้งสองได้พบกับเถิงกวางซีนายแบบซึ่งกำลังโด่งดัง กวางซีซึ่งมีแววตาหยิ่งยะโสกลับตาลุกวาวเมื่อเห็นหลินไล่ซุ่ย หลินไล่ซุ่ยได้รับการติดต่อว่าจะมีคนสนับสนุนการออกแบบของเธอ เธอจึงไปคอยที่ห้องธุรการของสถาบันอย่างใจจดใจจ่อ แต่นึกไม่ถึงว่าเมื่อประตูเปิด คนที่เดินเข้ามากลับเป็นฉู่สิงศัตรูคู่อาฆาตของเธอ ฉู่สิงเสนอตัวสนับสนุนหลินไล่ซุ่ย อีกด้านหนึ่งนั้นก็เกลี้ยกล่อมกวางซีไปจากบริษัทยื่อหยางโดยยื่นข้อเสนอให้หลินไล่ซุ่ยเป็นดีไซเนอร์ให้กวางซี เพื่อให้กวางซีเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับตราสินค้าของฉู่สิง แต่ทั้งหมดกลับถูกหลินไล่ซุ่ยปฏิเสธ ด้วยเหตุผลว่าเธอไม่อยากอาศัยบารมีของฉู่สิง เพียงลูกไม้ตื้นๆเช่นนี้จะทำให้เธอหลงกลรับปากได้อย่างไร อีกด้านหนึ่งนั้น เนื่องจากจี้ฟงเลี่ยงเป็นดีไซเนอร์ใหม่ของเกากังฉวน ทั้งยังมีโอกาสถ่ายภาพร่วมกับบรรดานายแบบทำให้เป็นที่สะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่ว นับแต่นี้จึงเป็นการเปิดศึกแสดงความสามารถของจี้ฟงเลี่ยงและหลินไล่ซุ่ยอย่างเป็นทางการ ตอนที่ 11 บริษัทของฉู่สิงมีแผนการขยายตลาดสู่กลุ่มวัยรุ่น ด้วยการเชื้อเชิญกวางซีเป็นพรีเซนเตอร์โดยไม่ได้เปิดเผยความจริงว่าหลินไล่ซุ่ยเป็นดีไซเนอร์ผู้ออกแบบผลิตภัณฑ์ หลินไล่ซุ่ยมีความคิดที่จะพัฒนาศักยภาพของกวางซี เพื่อให้รู้จักกวางซีมากขึ้น หลินไล่ซุ่ย จึงพากวางซีไปพักผ่อนหย่อนใจตามที่สาธารณะ นึกไม่ถึงว่ากลับถูกรบกวนจากสาธารณชนจนไม่มีความเป็นส่วนตัว ทำให้ทั้งสองต้องพากันหลบหนี จู่ ๆ จี้ฟงเลี่ยงก็ปรากฏตัวออกมา จี้ฟงเลี่ยงบอกหลินไล่ซุ่ยว่าเป็นการดีถ้าหากฉู่สิงรู้ถึงความสัมพันธ์ของพวกเรา เชื่อว่าพวกเราจะต้องได้รับความกดดันนับไม่ถ้วนอย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้ตนจึงจำต้องทำเป็นเย็นชา หลังจากที่จี้ฟงเลี่ยงเปิดเผยความในใจออกมาแล้วก็จากไปโดยปล่อยให้หลินไล่ซุ่ยและกวางซีหาความสำราญกันต่อไป นึกไม่ถึงว่ากวางซีใช้โอกาสนี้ดึงหลินไล่ซุ่ยมาจูบเปิดเผยความในใจต่อเธอ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้หลินไล่ซุ่ยรู้ว่าที่แท้ฉู่สิงให้กวางซีใกล้ชิดเธอ เพื่อแยกเธอและจี้ฟงเลี่ยงออกจากกัน สิ่งที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือกวางซีต้องการย้ายเข้าไปพักอยู่กับหลินไล่ซุ่ย เนื่องจากหลินไล่ซุ่ยเห็นใจที่กวางซีเข้าวงการตั้งแต่เล็กไม่ได้รับความเอาใจใส่จากพ่อแม่ ทำให้เธอยากที่จะปฏิเสธจึงยินยอมให้กวางซีย้ายเข้าพักอยู่ด้วยกัน กระนั้นพฤติกรรมของกวางซีก็ทำให้หลินไล่ซุ่ยสงสัยว่าเธอให้คนอันตรายอยู่ใกล้ตัวหรือไม่ งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของฉู่สิงกำลังจะมาถึง แต่ผลงานการออกแบบเสื้อผ้าวัยรุ่นกลับไม่มีผลงานของหลินไล่ซุ่ยแม้แต่ชิ้นเดียว ผลงานการออกแบบทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นผลงานการออกแบบของฉู่สิงทั้งนั้น ที่แท้ภายนอกฉู่สิงทำทีว่าให้การสนับสนุนหลินไล่ซุ่ย แต่ความจริงแล้วฉู่สิงกลับทำทุกอย่างเพื่อตัดอนาคตไม่ให้หลินไล่ซุ่ยเกิดในวงการการออกแบบ ตอนที่ 12 อีกด้านหนึ่งนั้น บริษัทยื่อหยางก็จัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ในวันเดียวกันกับงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของฉู่สิง จี้ฟงเลี่ยงเป็นนายแบบสวมใส่เสื้อผ้าซึ่งเป็นผลงานการออกแบบของตนก็เป็นที่จับตามองและได้รับความสนใจเป็นอันมาก หลังจากที่หลินไล่ซุ่ยเข้าร่วมงานชมผลงานการออกแบบของจี้ฟงเลี่ยงแล้วก็รีบกลับไปที่งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของฉู่สิงทันที หลินไล่ซุ่ยพบว่าไม่มีผลงานการออกแบบของเธอแม้แต่ชิ้นเดียวออกแสดง ทั้งยังถูกห้ามไม่ให้เข้าร่วมงานอีกด้วย กระนั้นหลินไล่ซุ่ยก็พยายามตามหากวางซี หลินไล่ซุ่ยบอกกวางซีว่าเสื้อผ้าที่กวางซีสวมใส่ไม่ใช่ผลงานการออกแบบของเธอ หลังจากที่หลินไล่ซุ่ยพูดจบก็ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเชิญตัวออกไป จี้ฟงเลี่ยงรีบรุดมาที่งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของฉู่สิงเพื่อให้ความช่วยเหลือ หลินไล่ซุ่ย นึกไม่ถึงว่ากวางซีชิงลงมือแก้ปัญหาเสียก่อนด้วยการไม่สวมใส่เสื้อผ้าขึ้นเวที กวางซีประกาศจุดยืนว่าในเมื่อไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าที่หลินไล่ซุ่ยเป็นผู้ออกแบบก็อย่าได้สวมใส่เสื้อผ้าเสียดีกว่า หลินไล่ซุ่ยเห็นเช่นนั้นก็รีบขึ้นไปบนเวทีนำเสื้อผ้าปกปิดร่างกายของกวางซี แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่าต้องเป็นข่าวหน้าหนึ่งในวันรุ่งขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากหลินไล่ซุ่ยทำลายงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของฉู่สิง ทำให้เธอกลายเป็นที่รังเกียจของทุกคนในบริษัท นอกจากนี้พฤติกรรมของกวางซีบนเวทีในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่จนเป็นข่าวโด่งดังไปทั่ว ก็ทำให้ผู้คนปักใจเชื่อว่ากวางซีและเธอเป็นคู่รักกัน ดูเหมือนว่าจี้ฟงเลี่ยงไม่พอใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอันมาก ทำให้จี้ฟงเลี่ยงไม่สามารถสะกดความหึงหวงไว้ได้อีกต่อไปจึงคาดคั้นเอาความจริงจากหลินไล่ซุ่ย จนเป็นเหตุให้หลินไล่ซุ่ยเกิดความเอือมระอาขึ้นมา แม้ว่าแผนการทำลายล้างหลินไล่ซุ่ยในครั้งนี้ล้มเหลวก็ตาม กระนั้นฉู่สิงก็ยังคงไม่ยอมลามือ ฉู่สิงไปหาจี้ฟงเลี่ยงโดยข่มขู่จี้ฟงเลี่ยงว่าถ้าหากจี้ฟงเลี่ยงไม่ไปจากบริษัทยื่อหยางด้วยดี ตนจะทำทุกอย่างเพื่อให้หลินไล่ซุ่ยออกจากวงการการออกแบบไปชั่วชีวิต ผลลัพธ์เป็นอย่างไรก็สุดแล้วแต่จี้ฟงเลี่ยงตัดสินใจ จี้ฟงเลี่ยงซึ่งรู้จักนิสัยของหลินไล่ซุ่ยเป็นอย่างดีกลับปฏิเสธฉู่สิงโดยไม่ไว้หน้า ที่แท้จี้ฟงเลี่ยงตระหนักดีว่าหากทำเช่นนี้เพื่อให้เธอได้เป็นนักออกแบบ เชื่อว่าเธอต้องไม่มีความสุขอย่างแน่นอน เมื่อฉู่สิงเห็นว่าล้มเหลวจึงเบนเป้าหมายไปที่บริษัท ยื่อหยาง ด้วยการปล่อยข่าวว่าผ้าที่บริษัทยื่อหยางใช้ตัดเย็บเสื้อผ้าทำให้ระคายผิวหนัง ข่าวปล่อยนี้ส่งผลต่อบริษัทยื่อหยางจนได้รับความเสียหายเป็นอันมาก จี้ฟงเลี่ยงไม่อยากให้คนอื่นต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วยจึงตัดสินใจยุติความร่วมมือกับบริษัทยื่อหยาง หลินไล่ซุ่ยตระหนักดีว่าเป้าหมายต่อไปของฉู่สิงอยู่ที่เธอ ด้วยเหตุนี้ก่อนที่หลินไล่ซุ่ยจะส่งผลงานเข้าประกวดในงานประกวดการออกแบบไฮโหมด(Hi-mode) เธอได้ตรวจสอบรายชื่อคณะกรรมการอย่างละเอียดว่าไม่มีชื่อของฉู่สิงเป็นคณะกรรมการ แต่ฉู่สิงซึ่งเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวได้ตระเตรียมการไว้ล่วงหน้าเป็นอย่างดี ด้วยการแจ้งให้หลินไล่ซุ่ยทราบว่าผลงานการออกแบบของเธอได้รับรางวัล จากนั้นในงานแจกรางวัลก็ตลบหลังด้วยการสมอ้างว่ารางวัลที่หลินไล่ซุ่ยได้รับนั้นเป็นผลงานของฉู่สิง ฉู่สิงเปิดเผยว่าเนื่องจากหลินไล่ซุ่ยได้มีการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วว่าไม่มีรายชื่อตนเป็นคณะกรรมการจึงได้ขโมยผลงานของตนส่งเข้าประกวด หลินไล่ซุ่ยพยายามแก้ข้อกล่าวหา แต่ในสถานการณ์เช่นนั้นกลับไม่มีใครรับฟัง ทำให้เธอขาดคุณสมบัติรับรางวัล ตอนที่ 13 หลินไล่ซุ่ยซึ่งถูกเข้าใจผิดเป็นเหตุให้เพื่อนร่วมสถาบันออกแบบพากันรังเกียจเธอ ถึงแม้ว่าจี้ฟงเลี่ยงยังคงหึงหวงที่ หลินไล่ซุ่ยและกวางซีมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันก็ตาม กระนั้นจี้ฟงเลี่ยงก็ยินดีที่จะหาทางล้างมลทินให้หลินไล่ซุ่ย ด้วยการตีสนิทเลขานุการส่วนตัวของฉู่สิงเพื่อนำต้นฉบับผลงานออกแบบของหลินไล่ซุ่ยคืนมา หลังจากที่หลินไล่ซุ่ยเจตนาที่แท้จริงของจี้ฟงเลี่ยงแล้ว เธอก็เอ่ยปากขอให้กวางซีย้ายออกจากบ้านของเธอเพื่อให้จี้ฟงเลี่ยงเกิดความสบายใจ แม้ว่ากวางซีพยายามดึงดัน แต่ก็ไม่สามารถขัดความประสงค์ของหลินไล่ซุ่ยจึงต้องจำใจย้ายออกจากบ้าน หลินไล่ซุ่ย ขณะที่กวางซีกำลังเก็บสัมภาระเพื่อออกจากบ้านหลินไล่ซุ่ยไปนั่นเอง กวางซีพบเห็นกำลังขะมักเขม้นอยู่กับการออกแบบ ผลงานการออกแบบของหลินไล่ซุ่ยสร้างความตะลึงให้กวางซีเป็นอันมาก กวางซีเชื่อมั่นว่าสักวันหนึ่งผลงานการออกแบบของเธอจะทำให้เธอมีชื่อเสียงโด่งดังอย่างแน่นอน หลังจากที่หลินไล่ซุ่ยรู้ว่าจี้ฟงเลี่ยงอยู่เคียงข้างให้การสนับสนุนเธอเรื่อยมา ทำให้เธอมีความเชื่อมั่นที่จะฝ่าฟันอุปสรรคที่อยู่เบื้องหน้า หลินไล่ซุ่ยส่งผลงานการออกแบบโดยไม่ระบุชื่อเจ้าของผลงาน แม้ว่าคณะกรรมการไม่มีความชัดเจนว่าเป็นผลงานการออกแบบของใคร แต่คณะกรรมการก็ให้รางวัลชนะเลิศ สำหรับหลินไล่ซุ่ยแล้วคิดแต่เพียงว่าผลงานการออกแบบของเธอเป็นที่ยอมรับก็พึงพอใจแล้ว แต่จี้ฟงเลี่ยงกลับไม่ได้คิดเช่นนั้น จี้ฟงเลี่ยงกลับต้องการให้หลินไล่ซุ่ยสวมใส่เสื้อผ้าจากผลงานการออกแบบของเธอ เพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงแสดงความยินดีกับเธอ นึกไม่ถึงว่าเมื่อหลินไล่ซุ่ยไปถึงงานเลี้ยงถึงพบว่าที่แท้เป็นงานแจกรางวัล นักออกแบบรุ่นใหม่ ถึงแม้ว่าทุกคนที่มาร่วมงานต่างพากันตกตะลึง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเคลือบแคลงสงสัยว่าที่แล้วมาเธอขโมยผลงานการออกแบบของฉู่สิงจริงหรือไม่ แต่ผลงานการออกแบบที่โดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ ทำให้ทุกคนต่างปักใจเชื่อว่าเป็นผลงานการออกแบบของหลินไล่ซุ่ยอย่างแน่นอน ตอนที่ 14 นับวันกวางซีก็ยิ่งมีความรู้สึกที่ดีต่อหลินไล่ซุ่ยมากขึ้นทุกที ทั้งที่ทุกคนต่างคิดว่าหลินไล่ซุ่ยขโมยผลงานการออกแบบของ ฉู่สิงมาเป็นของเธอนั้น แต่กวางซีกลับเชื่อมั่นว่าหลินไล่ซุ่ยไม่ได้ทำเช่นนั้น กวางซีถูกเชิญไปออกรายการ ในรายการกวางซีพรรณนาความสามารถการออกแบบของหลินไล่ซุ่ยด้วยความภาคภูมิใจ จนเกือบพลั้งปากเปิดเผยความรู้สึกที่มีต่อหลินไล่ซุ่ยออกมา การที่กวางซีรุกเร้าหลินไล่ซุ่ยเช่นนี้กลับเป็นการสร้างความไม่สบายใจให้จี้ฟงเลี่ยงเป็นอันมาก เพื่อตัดไฟเสียแต่ต้นลม จี้ฟงเลี่ยงจึงชวนหลินไล่ซุ่ยมาอยู่ด้วยกัน ทั้งยังวัดตัวตัดชุดแต่งงานให้หลินไล่ซุ่ยด้วยตนเองอีกด้วย กวางซีรับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทว่ากวางซีก็มีความประสงค์ที่จะพบหลินไล่ซุ่ยเป็นการส่วนตัวสักครั้ง ในที่สุดกวางซีก็ประสบความสำเร็จสามารถใช้เวลาตลอดทั้งวันอยู่กับหลินไล่ซุ่ยเป็นการส่วนตัว กวางซีพาหลินไล่ซุ่ยไปชมนิทรรศการออกแบบ ในงานนิทรรศการหลินไล่ซุ่ยพบเห็นผลงานการออกแบบที่มีความเป็นเลิศและวิเศษสุด ทำให้กำลังใจของเธอลุกโชนขึ้นมา หลังจากที่เสร็จสิ้นนัดหมาย กวางซีก็ส่งหลินไล่ซุ่ยคืนจี้ฟงเลี่ยง เพราะรูดีว่าจี้ฟงเลี่ยงเป็นคนที่หลินไล่ซุ่ยฝากชีวิตไว้ตลอดไป ในช่วงเวลาที่ทุกคนต่างคิดว่ามรสุมสงบลง แต่อีกด้านหนึ่งนั้นกลับคนคนหนึ่งปรากฏตัวออกมา คนที่ว่านี้ก็คือกันหลี่ซา ซึ่งเติบโตมาด้วยกันกับจี้ฟงเลี่ยงนั่นเอง การเดินทางกลับมาจากอิตาลีในครั้งนี้มีเป้าหมายหลักคือต้องการช่วงชิงจี้ฟงเลี่ยงกลับมาเป็นของเธอ จี้ฟงเลี่ยงซึ่งไม่รู้เป้าหมายที่แท้จริงของกันหลี่ซานั้นได้เชื้อเชิญกันหลี่ซามาเป็นแขกที่บ้าน กันหลี่ซาไม่เพียงถือวิสาสะขอลองสวมใส่ชุดแต่งงานของหลินไล่ซุ่ย ทั้งยังบอกหลินไล่ซุ่ยว่าเป้าหมายในการเดินทางกลับมาครั้งนี้นั้นเพื่อช่วงชิงจี้ฟงเลี่ยงมาเป็นของเธอสร้างความตกตะลึงให้หลินไล่ซุ่ยเป็นอันมาก ตอนที่ 15 ทั้งที่หลินไล่ซุ่ยรู้เป้าหมายที่แท้จริงของกันหลี่ซาแล้ว แต่เธอกลับไม่รู้สึกหวาดหวั่นแม้แต่น้อย สิ่งที่ทำให้หลินไล่ซุ่ยรู้สึก ไม่พอใจกลับเป็นเรื่องที่จี้ฟงเลี่ยงจงใจปกปิดความจริงเอาไว้ แต่ที่โกรธมากคือการที่ถูกจี้ฟงเลี่ยงต่อว่าเธอหึงหวงโดยไม่มีเหตุผล ด้วยเหตุนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงเป็นเหตุให้จี้ฟงเลี่ยงและหลินไล่ซุ่ยต่างเย็นชาต่อกัน ด้วยความที่หลินไล่ซุ่ยสุขภาพอ่อนแอจึงเป็นลมหมดสติไป จี้ฟงเลี่ยงเปิดเผยความในใจที่มีต่อเธอต่อหน้ากันหลี่ซา ทำให้หลินไล่ซุ่ยปลาบปลื้มใจจนคลายความโกรธจี้ฟงเลี่ยงโดยปลิดทิ้ง หลังจากที่กันหลี่ซารับรู้ถึงความรักที่จี้ฟงเลี่ยงและหลินไล่ซุ่ยมีต่อกันแล้ว เธอก็ไปตัดผมซึ่งยาวสลวยซึ่งเลี้ยงไว้เพื่อจี้ฟงเลี่ยงโดยเฉพาะ แต่ทว่าในใจของเธอก็ยังไม่เลิกล้มความคิดที่จะช่วงชิงจี้ฟงเลี่ยงมาเป็นของเธอให้ได้ แม่ของกันหลี่ซาเห็นจี้ฟงเลี่ยงเสมือนลูกเขยของเธอมาโดยตลอด ด้วยเหตุนี้จึงเธอจึงไปพูดคุยกับฉู่สิงถึงเรื่องการแต่งงานของจี้ฟงเลี่ยงและกันหลี่ซา กันหลี่ซาอยู่ในสภาพขี่หลังเสือจึงยากที่จะลงมาได้จึงต้องตามน้ำไปโดยอ้างเหตุว่าแม่ป่วยเพื่อหลอกให้จี้ฟงเลี่ยงมาพบ หลังจากที่จี้ฟงเลี่ยงรู้ความจริงแล้วก็ปฏิเสธกันหลี่ซาโดยไม่มีเยื่อใย ด้วยในใจของจี้ฟงเลี่ยงมีหลินไล่ซุ่ยเพียงคนเดียวเท่านั้น ไม่มีใจให้หญิงใดอีก ฉู่สิงกดดันคณะกรรมการที่มีหน้าที่ตัดสินผลงานการออกแบบ ทำให้ผลงานการออกแบบของกันหลี่ซาได้รับรางวัลเป็นเหตุให้หลินไล่ซุ่ยต้องพลาดโอกาสอีกครั้ง หลินไล่ซุ่ยเชื่อว่าฉู่สิงบงการอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน เธอจึงตัดสินใจไปหาฉู่สิงเพื่อพูดคุยกันให้ชัดเจนเสียที นึกไม่ถึงว่าได้พบกับกันหลี่ซาโดยบังเอิญ สิ่งที่พบเห็นทำให้หลินไล่ซุ่ยยิ่งปักใจเชื่อว่าฉู่สิงและกันหลี่ซาต้องสมรู้ร่วมคิดกันอย่างแน่นอน หลินไล่ซุ่ยต่อว่ากันหลี่ซาว่าถึงแม้ได้รับรางวัลก็ไม่น่าภาคภูมิใจ แต่กันหลี่ซากลับไม่ยอมรับโดยตามหลินไล่ซุ่ย ออกไปเพื่อพูดคุยกันให้ชัดเจน นึกไม่ถึงว่ากันหลี่ซาได้ยินคำสนทนาของฉู่สิงและคณะกรรมการตัดสินรางวัลพูดคุยกันถึงการเสนอรางวัลให้เธอ หลังจากที่กันหลี่ซารู้ความจริงแล้วก็รู้สึกผิดหวังเป็นอันมาก เธอไม่คาดคิดเลยว่าเธอพึ่งบารมีฉู่สิงจนได้รางวัลมาครอง กันหลี่ซาไม่ภาคภูมิใจกับรางวัลที่ได้รับจึงตัดสินใจขึ้นเวทีประกาศว่าเจ้าของรางวัลที่แท้จริงคือหลินไล่ซุ่ย ในที่สุดหลินไล่ซุ่ยก็เป็นที่ยอมรับในวงการออกแบบเคียงคู่กับจี้ฟงเลี่ยง ตอนที่16 แม้ว่าในวงการออกแบบกันหลี่ซาจะพ่ายแพ้ให้หลินไล่ซุ่ย แต่เธอก็ยังมีปณิธานอันแน่วแน่ว่าจะต้องช่วงชิงจี้ฟงเลี่ยงจากหลินไล่ซุ่ยมาเป็นของเธอให้ได้ กันหลี่ซาดื่มเหล้าเมามายทำให้เธอมีความกล้าเปิดเผยความในใจบอกรักจี้ฟงเลี่ยง จากนั้นก็เปิดเผยถึงสาเหตุที่ทำให้เธอคลั่งไคล้การออกแบบเพื่อที่จะได้เป็นผู้หญิงที่เหมาะสมคู่ควรกับจี้ฟงเลี่ยง จี้ฟงเลี่ยงยอมรับตรงไปตรงมากับกันหลี่ซาว่าในใจของตนมีหลินไล่ซุ่ยเพียงคนเดียวเท่านั้น ไม่สามารถให้โอกาสใดแก่กันหลี่ซาอีกต่อไป จากนั้นทั้งสองพากันไปที่โรงเรียนมัธยมที่จากกันในอดีต จี้ฟงเลี่ยงปลอบใจกันหลี่ซาว่าสักวันหนึ่งกันหลี่ซาจะได้พบกับผู้ชายที่เหมาะสมคู่ควรกับเธอ กันหลี่ซาพยักหน้าเห็นด้วย จากนั้นเธอก็บอกจี้ฟงเลี่ยงว่าเธอตัดสินใจเดินทางกลับอิตาลี ถ้าหากการแยกทางกันครั้งนี้ บางทีอนาคตอาจจะไม่มีสภาพเช่นนี้ก็เป็นได้ ทั้งสองยืนเคียงกันอยู่หน้าประตูโรงเรียนมัธยมเป็นเวลานานโดยที่มีความรู้สึกอยากหยุดเวลานี้เอาไว้ กันหลี่ซาตระหนักถึงความสัมพันธ์ลึกซึ้งที่จี้ฟงเลี่ยงและหลินไล่ซุ่ยมีต่อกันซึ่งเธอไม่สามารถทำได้ ทำให้เธอต้องเดินทางกลับอิตาลีด้วยความขมขื่น กระนั้นเธอก็ให้กำลังใจจี้ฟงเลี่ยงและหลินไล่ซุ่ยว่าวันหนึ่งทั้งสองจะต้องมีอนาคตอันสดใสในวงการออกแบบของโลกอย่างแน่นอน จากการบีบบังคับของเผยเหมยจื่อเพื่อนสนิทให้เข้าร่วมงานเลี้ยง ทำให้หลินไล่ซุ่ยได้รู้จักกับลู่อี้เอ่อผู้ชายแปลก ๆ โดยบังเอิญ ลู่อี้เอ่อเป็นนักออกแบบชุดชั้นในสตรี เนื่องจากในเวลานี้หลินไล่ซุ่ยต้องหาข้อมูลทำรายงานเกี่ยวกับชุดชั้นในสตรีพอดี เธอจึงไปขอความช่วยเหลือจากลู่อี้เอ่อ ทางด้านลู่อี้เอ่อนั้นก็มีความสนใจหลินไล่ซุ่ยเป็นพิเศษ ลู่อี้เอ่อไปหาลู่อี้เอ่อที่ทำงาน แต่ท่าทางที่ ดูถูกเหยียดหยามคนอื่นของลู่อี้เอ่อทำให้หลินไล่ซุ่ยเกิดความรู้สึกไม่ดีกับลู่อี้เอ่อขึ้นมา หลินไล่ซุ่ยขอโทษจี้ฟงเลี่ยงที่ไปร่วมเลี้ยงโดยไม่ได้บอกกล่าวให้จี้ฟงเลี่ยงรู้ โชคดีที่จี้ฟงเลี่ยงใจกว้างไม่ถือสา จี้ฟงเลี่ยงตระเตรียมชุดแต่งงานให้หลินไล่ซุ่ยเพื่อชักชวนไปร่วมงานแต่งงานญาติ นึกไม่ถึงว่าเมื่อไปถึงงานแต่งงาน หลินไล่ซุ่ยกลับพบว่า จี้ฟงเลี่ยงตระเตรียมการทุกอย่างเอาไว้เป็นอย่างดี ที่แท้งานแต่งงานญาติกลับเป็นงานแต่งงานของจี้ฟงเลี่ยงและหลินไล่ซุ่ย ตอนที่ 17 ลู่อี้เอ่อไม่ยอมรับความจริงทั้งที่รู้ว่าหลินไล่ซุ่ยมีชายคนรักอยู่แล้ว ไม่ว่าอย่างไรจะต้องช่วงชิงหลินไล่ซุ่ยมาครองให้ได้ เนื่องจากหลินไล่ซุ่ยต้องการหาข้อมูลเพื่อทำรายงานจึงไปที่บริษัทสกุลลู่เพื่อขอความช่วยเหลือจากลู่อี้เอ่อ ในเวลานี้เองหลินไล่ซุ่ยถึงรู้ความจริงว่าลู่อี้เอ่อเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของสกุลลู่ที่มีชื่อเสียงในการผลิตชุดชั้นใน ลู่อี้เอ่อฉวยโอกาสนี้เข้ามาศึกษาสถาบันการออกแบบชุดชั้นในของตน หลินไล่ซุ่ยและจี้ฟงเลี่ยงพากันไปที่สถาบันออกแบบชุดชั้นในของลู่อี้เอ่อ ทั้งสองพลัดหลงกัน ลู่อี้เอ่อพาหลินไล่ซุ่ยไปเยี่ยมชมห้องแสดงชุดชั้นใน จู่ๆมีนางแบบชุดชั้นในคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บจนไม่สามารถขึ้นเวทีแสดงผลงานได้ ลู่อี้เอ่อจึงขอร้องหลินไล่ซุ่ยขึ้นเวทีแทนสร้างความลำบากใจให้หลินไล่ซุ่ยเป็นอันมาก ขณะที่ลู่อี้เอ่อกำลังสิ้นหวังนั่นเอง เนื่องจากหลินไล่ซุ่ยตระหนักถึงความรู้สึกของนักออกแบบเป็นอย่างดี เธอจึงรับปากตามที่ลู่อี้เอ่อขอร้อง ขณะที่หลินไล่ซุ่ยกำลังขึ้นเวทีนั่นเอง จี้ฟงเลี่ยงก็ปรากฏตัวขัดขวางหลินไล่ซุ่ยเอาไว้ เนื่องจากหลินไล่ซุ่ยเป็นนางแบบของตนเพียงคนเดียวเท่านั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นมาหลังเวที ทำให้ฐานะที่แท้จริงของหลินไล่ซุ่ยและจี้ฟงเลี่ยง ซึ่งเป็นนักออกแบบดาวรุ่งถูกเปิดเผยออกมา ทั้งที่จี้ฟงเลี่ยงยังคงติดใจเรื่องที่หลินไล่ซุ่ยเกือบหลงกลเป็นนางแบบให้ลู่อี้เอ่อ แต่ลู่อี้เอ่อกลับไม่ยอมแพ้โดยเข้าไปศึกษาที่สถาบันเป่าเฉิงด้วยหวังว่าจะได้ใกล้ชิดกับหลินไล่ซุ่ย ลู่อี้เอ่อมีโครงการเปิดบริษัทSYARURUโดยมีแผนการโปรโมทชุดว่ายน้ำCANDYเพื่อต้อนรับฤดูร้อน เนื่องจากหลินไล่ซุ่ยถูกลู่อี้เอ่อเร่งเร้าจนทำให้เธอจำต้องรับปากเป็นนางแบบชุดว่ายน้ำให้ลู่อี้เอ่อ เนื่องจากงานนี้ไม่อนุญาตให้ผู้ชายไปร่วมงาน จี้ฟงเลี่ยงจึงจำต้องแต่งกายเป็นหญิงเพื่อคุ้มครองหลินไล่ซุ่ย แต่จู่ๆนักข่าวก็พากันบุกเข้ามาในงานเพื่อทำข่าวโดยถ่ายรูปที่หลินไล่ซุ่ยสวมใส่ชุดว่ายน้ำไว้ ทั้งยังนำไปตีพิมพ์เป็นหน้าปกนิตยสารอีกด้วย ที่แท้ทั้งหมดเป็นแผนการของฉู่สิงที่ต้องการเล่นงานหลินไล่ซุ่ย ที่แท้ฉู่สิงมีความประสงค์สร้างข่าวการเป็นนางแบบเพื่อกลบความสามารถในการออกแบบของหลินไล่ซุ่ย หลินไล่ซุ่ยซึ่งยังคงไม่รู้ความใน แม้ว่จะรู้สึกโกรธ แต่เพื่อต้องการเก็บเงินซื้อของขวัญวันวาเลนไทน์ให้จี้ฟงเลี่ยง เธอจึงรับปากทำงานให้ลู่อี้เอ่อ หลินไล่ซุ่ยเสนอแก้ไขปรับปรุงชุดว่ายน้ำให้ดีขึ้น แต่เมื่อรู้ความจริงจากปาก ฉู่สิงว่าตนอยู่เบื้องหลังบงการทั้งหมด หลินไล่ซุ่ยก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาจนยกเลิกสัญญาที่มีต่อลู่อี้เอ่อ ตอนที่ 18 จี้ฟงเลี่ยงรู้จากปากลู่อี้เอ่อว่าลู่อี้เอ่อและหลินไล่ซุ่ยร่วมงานกัน ด้วยความโกรธทำให้จี้ฟงเลี่ยงทำสงครามเย็นกับหลินไล่ซุ่ย การกระทำของจี้ฟงเลี่ยงสร้างความเจ็บปวดรวดร้าวให้หลินไล่ซุ่ยเป็นอันมาก หลังจากที่เผยเหมยจื่อรู้เรื่องนี้ก็ปรึกษาหารือกับอากงและอาเข่อหาหนทางทำให้จี้ฟงเลี่ยงและหลินไล่ซุ่ยคืนดีกัน อากงและอาเข่อหาเหตุให้จี้ฟงเลี่ยงไปที่ลานคนเมืองในวันวาเลนไทน์ ขณะที่วันวาเลนไทน์กำลังจะผ่านพ้นไป ที่ลานคนเมืองก็มีแสงไฟประดับคำว่าขอโทษสว่างขึ้นมา จี้ฟงเลี่ยงและหลินไล่ซุ่ย ต่างไม่สามารถต้านทานอิทธิฤทธิ์ของเทพเจ้าแห่งความรัก ในที่สุดจี้ฟงเลี่ยงก็ยกโทษให้อภัยหลินไล่ซุ่ย หลินไล่ซุ่ยตัดสินใจยกเลิกสัญญาที่มีต่อลู่อี้เอ่อ แต่ลู่อี้เอ่อก็ยังคงยืนกรานให้หลินไล่ซุ่ยทำแผนงานชุดว่ายน้ำ CANDY ต่อไป เพราะแผนงานนี้ส่งผลต่อความอยู่รอดของบริษัท SYARURU เป็นอันมาก อีกด้านหนึ่ง ดูเหมือนว่าลู่อี้เอ่อพบความลับของ ฉู่สิงและหลินไล่ซุ่ยแล้ว ลู่อี้เอ่อฉวยโอกาสที่เพื่อนนักเรียนมาติวหนังสือที่บ้านหลินไล่ซุ่ยนั้น ได้ลวนลามหลินไล่ซุ่ยทั้งที่มีเพื่อนนักเรียนนอนพักอยู่ด้วยกัน หลินไล่ซุ่ยขู่ว่าจะถอนตัวจากแผนงานชุดว่ายน้ำ CANDY ถึงทำให้เธอสามารถเอาตัวรอดไปได้ กระนั้นก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ตกอยู่ในสายตาของเพื่อนนักเรียนจนเป็นข่าวแพร่สะพัดไปทั่ว แม้ว่าหลินไล่ซุ่ยโกรธมาก แต่ก็เห็นแก่แผนงานที่ต้องทำร่วมกันจึงจำต้องยกโทษไม่ถือสาลู่อี้เอ่อ ในที่สุดก็ถึงวันที่คณะกรรมการพิจารณาแผนงานชุดว่ายน้ำแคนดี้ ขณะที่หลินไล่ซุ่ยออกจากบ้านเพื่อไปที่งาน นึกไม่ถึงว่าประสบอุบัติเหตุลิฟท์ขัดข้องถูกขังอยู่ในลิฟท์ ลู่อี้เอ่อซึ่งคอยหลินไล่ซุ่ยเป็นเวลานานไม่เห็นเธอมาเสียทีจึงเกิดความร้อนใจจนต้องขอความช่วยเหลือจากจี้ฟงเลี่ยงให้ไปหาหลินไล่ซุ่ยที่บ้าน จี้ฟงเลี่ยงพบว่าหลินไล่ซุ่ยถูกขังอยู่ในลิฟท์ที่ขัดข้อง ถ้าหากหลินไล่ซุ่ย ไปไม่ทันงาน สิ่งที่ลงทุนลงแรงมาทั้งหมดเป็นอันต้องเสียแรงเปล่า ตอนที่ 19 ลู่อี้เอ่อต้องการให้ชุดว่ายน้ำCANDYสะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่ววงการชุดว่ายน้ำ จึงเชื้อเชิญฉู่สิงออกรายการโทรทัศน์ด้วยกัน ในระหว่างการสัมภาษณ์ ฉู่สิงให้สัมภาษณ์ทำให้ผู้ชมรายการหลงเชื่อว่าลู่อี้เอ่อตั้งใจออกแบบชุดว่ายน้ำCANDYเพื่อมอบให้เป็นของขวัญแก่หลินไล่ซุ่ยหญิงคนรัก เมื่อหลินไล่ซุ่ยได้ยินบทสัมภาษณ์ก็รีบสอบถามฉู่สิงเหตุใดจึงให้สัมภาษณ์เช่นนั้น คำตอบของฉู่สิงสร้างความไม่สบายให้หลินไล่ซุ่ยเป็นอันมาก ด้วยความที่ฉู่สิงต้องการให้จี้ฟงเลี่ยงและหลินไล่ซุ่ยเลิกคบกัน ฉู่สิงจึงจงใจนำความไปบอกพ่อของหลินไล่ซุ่ยว่าลูกสาวตามรุมเร้าจี้ฟงเลี่ยงลูกชายของตน หลังจากที่พ่อรู้เรื่องนี้แล้วก็สั่งลูกสาวเลิกคบหาจี้ฟงเลี่ยงอย่างเด็ดขาด หลินไล่ซุ่ยไม่พอใจที่พ่อไม่เชื่อคำพูดของเธอ เธอจึงไปหาจี้ฟงเลี่ยง จี้ฟงเลี่ยงพาหลินไล่ซุ่ยไปพูดคุยกับพ่อให้ชัดเจน หลังจากที่พ่อรับรู้เรื่องราวความรักของจี้ฟงเลี่ยงและหลินไล่ซุ่ยแล้วก็ไม่ขัดขวางความรักของคนทั้งสองอีกต่อไป เดิมทีลู่อี้เอ่ออยากบอกหลินไล่ซุ่ยรู้ว่าชุดว่ายน้ำCANDYผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการแล้ว แต่เมื่อเห็นหลินไล่ซุ่ย ทนุถนอมแหวนที่จี้ฟงเลี่ยงมอบให้จึงเกิดความหึงหวงขึ้นมาและด้วยความโกรธจึงขว้างแหวนลงไปในแม่น้ำ หลินไล่ซุ่ยเห็นเช่นนั้นจึงกระโจนลงไปในน้ำเพื่องมแหวนขึ้นมาโดยไม่คำนึงถึงชีวิตของเธอ แต่แล้วหลินไล่ซุ่ยก็ต้องผิดหวังเมื่อไม่สามารถงมแหวนขึ้นมาได้ หลินไล่ซุ่ยบอกจี้ฟงเลี่ยงถึงเรื่องแหวนด้วยความหวาดกลัวว่าจะถูกจี้ฟงเลี่ยงดุด่า จี้ฟงเลี่ยงไม่ได้ติดใจเรื่องแหวน แต่กลับโกรธที่ หลินไล่ซุ่ยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของเธอ จี้ฟงเลี่ยงตัดสินใจทำแหวนวงใหม่เพื่อมอบให้หลินไล่ซุ่ยชดเชยแหวนวงเก่าที่หายไป ตอนที่ 20 จี้ฟงเลี่ยงไหว้วานอากงช่วยทำแหวนวงหนึ่งให้ตน เนื่องจากอากงงานรัดตัวจึงไหว้วานมาเรียซึ่งเป็นเพื่อนนักเรียนช่วยทำแหวนให้จี้ฟงเลี่ยง แม้ว่าเรื่องที่มาเรียแอบหลงรักจี้ฟงเลี่ยงเป็นที่รู้กันทั่ว เนื่องจากจี้ฟงเลี่ยงต้องการให้แหวนเสร็จลุล่วงด้วยดีและด้วยไม่สามารถทนคำรบเร้าของมาเรียได้จึงต้องจำใจรับปากตามความต้องการของเธอ อีกด้านหนึ่งนั้น หลังจากที่ลู่อี้เอ่อ รู้เรื่องนี้ก็ไปหามาเรียโดยยื่นข้อเสนอให้ร่วมมือกันทำลายความสัมพันธ์ของจี้ฟงเลี่ยงและหลินไล่ซุ่ย เพื่อที่ต่างฝ่ายต่างจะได้ช่วงชิง สิ่งที่ต้องการมาครอง ลู่อี้เอ่อเชื้อเชิญหลินไล่ซุ่ยเข้าทีมนักออกแบบของบริษัท SYARURU นอกจากชุดว่ายน้ำแล้ว บริษัทยังมีแนวคิดที่จะทำเสื้อผ้าแนวใหม่ออกสู่ตลาด ทำให้หลินไล่ซุ่ยและจี้ฟงเลี่ยงเกิดความสนใจเป็นพิเศษ นึกไม่ถึงว่านักออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่กลับเป็นฉู่สิงนักออกแบบระดับโลก แต่ที่ทำให้เบาใจลงไปได้บ้างนั้นคือลู่อี้เอ่อเป็นผู้รับผิดชอบหลักมีอำนาจสิทธิ์ขาดในการเลือกแบบที่นำเสนอขึ้นมา เรื่องที่จี้ฟงเลี่ยงทำแหวนวงใหม่ให้หลินไล่ซุ่ยยังคงดำเนินต่อไป แต่ลู่อี้เอ่อกลับรุกหลินไล่ซุ่ยหนักขึ้นด้วยการมอบแหวนหยกประจำตระกูลให้เธอโดยอ้างเหตุผลว่าเป็นการชดใช้แหวนที่ตนทำสูญหายไป หลินไล่ซุ่ยกลับคืนแหวนหยกให้ลู่อี้เอ่อ กระนั้นการที่เธอทำเช่นนี้ก็รู้สึกกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่องานของเธอ นึกไม่ถึงว่าลู่อี้เอ่อกลับประกาศในที่ประชุมแต่งตั้งเป็นหัวหน้าทีมนักออกแบบโดยมีฉู่สิงเป็นที่ปรึกษา ลู่อี้เอ่อใช้ตำแหน่งใหม่ที่หลินไล่ซียได้รับเป็นข้ออ้างชักชวนเธอไปพบพ่อของตนสักครั้ง แม้ว่าหลินไล่ซุ่ยจะพยายาม บ่ายเบี่ยง แต่ก็ยากจะปฏิเสธได้ ระหว่างทางที่เดินทางไป หลินไล่ซุ่ยพบเห็นจี้ฟงเลี่ยงซึ่งกำลังเลี้ยงขอบคุณมาเรียที่ช่วยทำแหวนวงใหม่ให้ ด้วยความที่จึ้ฟงเลี่ยงต้องการให้หลินไล่ซุ่ยประหลาดใจกับแหวนวงใหม่จึงไม่สามารถอธิบายความจริงทั้งหมดออกมาได้ ทำให้หลินไล่ซุ่ยเข้าใจผิดจากไปด้วยความโกรธ นึกไม่ถึงว่าลู่อี้เอ่อพาหลินไล่ซุ่ยไปพบพ่อแม่ในฐานะแฟนสาว เพื่อให้พ่อแม่มอบแหวนหยกประจำตระกูลให้หลินไล่ซุ่ยด้วยตนเอง ทันใดนั้น จี้ฟงเลี่ยงก็ปรากฏตัวขึ้น จากนั้นก็สวมแหวนวงใหม่ที่ตนทำขึ้นให้ หลินไล่ซุ่ย ในที่สุดหลินไล่ซุ่ยก็เข้าใจจุดประสงค์ที่แท้จริงของจี้ฟงเลี่ยง ทั้งหมดเป็นความเข้าใจผิดของเธอเอง ตอนที่ 21 หลินไล่ซุ่ยและมาเรียพบกันโดยบังเอิญที่ห้องสมุด เดิมทีหลินไล่ซุ่ยต้องการขอโทษที่เธอเสียมารยาทต่อมาเรีย นึกไม่ถึงว่าหลินไล่ซุ่ยกลับเหลือบไปเห็นแหวนซึ่งเหมือนกับของเธอสวมใส่อยู่ที่นิ้วของมาเรีย มาเรียบอกหลินไล่ซุ่ยว่าแหวนที่เธอสวมใส่เป็นแหวนที่จี้ฟงเลี่ยงทำขึ้นกับมือ ส่วนแหวนที่หลินไล่ซุ่ยสวมใส่นั้นเป็นเพียงแหวนที่ทำลอกเลียนขึ้นมาเท่านั้น เมื่อหลินไล่ซุ่ยได้ยินเช่นนั้นก็รีบไปคาดคั้นเอาความจริงจากจี้ฟงเลี่ยง นึกไม่ถึงว่ามาเรียเข้ามาเป็นเพื่อนร่วมงานในทีมนักออกแบบ ทำให้หลินไล่ซุ่ยต้องเผชิญกับการท้ายทายยิ่งใหญ่ มาเรียใช้งานบังหน้าเพื่อใกล้ชิดจี้ฟงเลี่ยง มาเรียสวมกอดจี้ฟงเลี่ยงในห้องพักผ่อน แต่กลับถูก จี้ฟงเลี่ยงผลักออกไป แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถูกผู้จัดการร้านที่ยังไม่เลิกงานพบเห็นเข้า ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เรื่องนี้แพร่สะพัดไปทั่ว จี้ฟงเลี่ยงต้องการปกป้องชื่อเสียงมาเรียไว้จึงไม่ได้เปิดเผยความจริงออกมา ขอเพียงในใจมีหลินไล่ซุ่ยเพียงคนเดียวก็พอแล้ว ผลงานการออกแบบของหลินไล่ซุ่ยได้รับการยอมรับจากลู่อี้เอ่อและฉู่สิง หลินไล่ซุ่ยคิดว่าในที่สุดความพยายามของเธอ ก็เป็นที่ยอมรับ แต่แล้วลู่อี้เอ่อกลับมีข่าวร้ายมาบอกหลินไล่ซุ่ย ผลงานการออกแบบของหลินไล่ซุ่ยและผลงานการออกแบบของฉู่สิงเหมือนกันทุกประการจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขเสียใหม่ ในที่สุดหลินไล่ซุ่ยก็เข้าใจว่าเหตุใดฉู่สิงยอมสละตำแหน่งหัวหน้าทีมนักออกแบบอย่างง่ายดายเพื่อรับตำแหน่งที่ปรึกษา ที่แท้เพื่อความสะดวกในการลอกเลียนแบบเท่านั้น เพื่องัดข้อกับฉู่สิงซึ่งเจ้าเล่ห์เพทุบายหลินไล่ซุ่ยจึงยื่นข้อเสนอต่อลู่อี้เอ่อว่าบริษัท SYARURU จะต้องมีหลินไล่ซุ่ยหรือฉู่สิงคนใดคนหนึ่งเท่านั้น ท่าทีเอาจริงเอาจังของหลินไล่ซุ่ยทำให้ลู่อี้เอ่อเกิดความสงสัยในความสัมพันธ์ของฉู่สิงและหลินไล่ซุ่ยขึ้นมา ทั้งที่ลู่อี้เอ่อเคยให้คำมั่นสัญญาว่าจะช่วยหลินไล่ซุ่ยโค่นฉู่สิงลงให้ได้ แต่หลินไล่ซุ่ยกลับปฏิเสธไม่ต้องการให้ลู่อี้เอ่อทำเช่นนั้น เพราะคนที่จะดึงฉู่สิงจากที่สูงได้นั้นมีเพียงเธอเท่านั้น ลู่อี้เอ่อตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ด้วยการให้หลินไล่ซุ่ยและฉู่สิงแข่งขันกัน ถ้าหากผลงานของใครเป็นที่ยอมรับก็จะได้ดำรงตำแหน่งนักออกแบบหลักของบริษัท นึกไม่ถึงว่าฉู่สิงกลับไม่ยอมรับคำท้าโดยเห็นว่าเช่นนี้เป็นการหมิ่นศักดิ์ศรีของตนเอง ขณะที่หลินไล่ซุ่ยกำลังท้าทายฉู่สิงนั่นเอง ลู่อี้เอ่อแอบฟังคำสนทนาและต้องตกตะลึงใจเมื่อได้ยินคำพูดจากปากหลินไล่ซุ่ยว่าดอกเบญจมาศเป็นผลงานการออกแบบของเธอ หลินไล่ซุ่ยทุ่มเทแรงกายแรงใจกับการแข่งขันครั้งนี้เป็นอันมากถึงกับพกพาสมุดบันทึกเผื่อว่ามีความคิดบรรเจิดผุดขึ้นมาก็สามารถจดบันทึกได้ทันที ฉู่สิงกลับวางแผนโดยให้มาเรียตีสนิทหลินไล่ซุ่ยเพื่อหาโอกาสขโมยสมุดบันทึกของหลินไล่ซุ่ยมาให้ได้ แม้ว่าหลินไล่ซุ่ยเคลือบแคลงสงสัยมาเรีย เสียดายที่ไม่มีหลักฐาน ลู่อี้เอ่อเห็นหลินไล่ซุ่ยท้อแท้หมดอาลัยตายอยากจึงชักชวนเธอล่องเรือเพื่อให้มีชีวิตชีวาขึ้นมา นึกไม่ถึงว่าได้พบกับมาเรีย,จี้ฟงเลี่ยงและฉู่สิง จี้ฟงเลี่ยงขอร้องฉู่สิงคืนสมุดบันทึกของหลินไล่ซุ่ยที่มาเรียขโมยมา ฉู่สิงไม่เพียงปฏิเสธ ทั้งยังโยนสมุดบันทึกลงทะเลอีกด้วย จี้ฟงเลี่ยงเห้นเช่นนั้นจึงกระโดดลงไปทะเลเพื่อนำสมุดบันทึกขึ้นมาโดยไม่คำนึงถึงชีวิตตนเอง ตอนที่ 22 ลู่อี้เอ่อจงใจนำเรื่องดอกเบญจมาศที่ได้ยินมาบอกนักข่าวจนเป็นข่าวไปทั่วหน้าหนังสือพิมพ์และนิตยสาร แต่หลินไล่ซุ่ย กลับออกมาให้ข่าวว่าเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น เธอไม่อยากใช้ข่าวนี้และความเห็นใจเพื่อให้ได้รับชัยชนะ ความสามารถของเธอต่างหากที่จะพิสูจน์ชัยชนะของเธอ ฉู่สิงต้องการให้จี้ฟงเลี่ยงประจักษ์ในความสามารถของตนจึงได้รับปากแข่งขันกับหลินไล่ซุ่ย ตนจะทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อเอาชนะหลินไล่ซุ่ย ที่สำคัญจะเรียกศักดิ์ศรีความเป็นพ่อเพื่อให้จี้ฟงเลี่ยงยอรับให้ได้ หลินไล่ซุ่ยละทิ้งทุกอย่างเพื่อการแข่งขันในครั้งนี้ การแข่งขันในครั้งนี้เอจะต้องชนะให้ได้ ทว่าก่อนถึงวันแข่งขันหนึ่งวัน จู่ ๆ ห้องตัดเย็บเสื้อผ้าของหลินไล่ซุ่ยก็เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นมา ทำให้ความพยายามทั้งหมดที่เธอทุ่มเทลงไปกลายเป็นผุยผง คงเหลือแต่เพียงเสื้อผ้าสองชิ้นเท่านั้นที่ไม่ได้ถูกเผาเสียหาย ฉู่สิงไปเยี่ยมจี้ฟงเลี่ยงที่โรงพยาบาล แต่ก็โกรธตัวเองที่ไม่กล้าเผชิญหน้ากับ จี้ฟงเลี่ยง ฉู่สิงตัดสินใจแต่งเรื่องโกหกว่าเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงปาหี่ของหลินไล่ซุ่ยที่ไม่กล้าเผชิญหน้ากับตนเท่านั้น เพื่อไม่ให้ความตั้งใจของหลินไล่ซุ่ยต้องสูญเปล่า จี้ฟงเลี่ยงจึงตัดสินใจให้ความช่วยเหลือเพื่อให้หลินไล่ซุ่ยสมปรารถนา ขณะที่ฉู่สิงกระหยิ่มยิ้มย่องกับความสำเร็จของตนเองนั่นเอง จี้ฟงเลี่ยงไหว้วานไอริลและลู่อี้เอ่อรับผิดชอบเรื่องเสื้อผ้า กวางซีรับผิดชอบดำเนินรายการ ส่วนตนจะเป็นนายแบบเอง การจัดการอย่างเป็นระบบของจี้ฟงเลี่ยงทำให้ผลลัพธ์ออกมาดีประสบความสำเร็จอย่างน่าอัศจรรย์ ทั้งที่หลินไล่ซุ่ย,จี้ฟงเลี่ยง,ลู่อี้เอ่อ,กวางซี,ไอริลและพวกร่วมแรงร่วมใจกันจนประสบความสำเร็จ แต่บริษัท SYARURU กลับแต่งตั้งฉู่สิงเป็นนักออกแบบหลักของบริษัท โดยมีหลินไล่ซุ่ยเป็นผู้ช่วย ขณะที่ทุกคนต่างยินดีกับหลินไล่ซุ่ยนั่นเอง อีกด้านหนึ่งก็มีข่าวที่สร้างความตกตะลึงให้ทุกคนแพร่สะพัดออกมาว่ามิราคามานีราชานักออกแบบระดับโลกซึ่งได้รับเชิญมาบรรยายที่สถาบันออกแบบนั้นพบเห็นผลงานการออกแบบของจี้ฟงเลี่ยงจนเกิดความพึงพอใจอยากพบหน้าจี้ฟงเลี่ยงสักครั้ง ตอนที่ 23 จี้ฟงเลี่ยงและหลินไล่ซุ่ยพากันไปสนามบินเพื่อรับคน หลินไล่ซุ่ยออกแบบเสื้อผ้าใช้ชาวอิตาลีคนหนึ่งซึ่งอยู่ในคณะเดินทางโดยไม่ได้ตั้งใจจนได้รับคำชมเชยไม่ขาดปาก นึกไม่ถึงว่าชาวอิตาลีคนนี้คือราฟองคามานีซึ่งได้รับการยกย่องจากคนในวงการออกแบบเป็นเทพแห่งการออกแบบพ่อของมิราคามานีนั่นเอง เนื่องจากผลงานการออกแบบของหลินไล่ซุ่ยเป็นที่ยอมรับ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้จี้ฟงเลี่ยงและหลินไล่ซุ่ยต่างได้รับการเชื้อเชิญเข้าร่วมงานกับนักออกแบบชาวอิตาลีทั้งคู่ หลินไล่ซุ่ยซึ่งกำลังภาคภูมิใจจากการเป็นที่ยอมรับของเทพแห่งการออกแบบ เดิมทีเธอคิดที่จะลาออกจากบริษัทสกุลลู่ แต่เมื่อเห็นลู่อี้เอ่อในสภาพที่เศร้าหมองหดหู่จึงทำให้เธอเกิดความลังเลใจขึ้นมา เดิมทีหลินไล่ซุ่ยยังคงลังเลใจไม่สามารถตัดสินใจให้เด็ดขาดลงไปได้ แต่หลังจากที่โชคชะตาชักพาให้รู้จักกับจี้ฟงเลี่ยง ทำให้เธอเชื่อมั่นว่าไม่ว่าคนนับพันนับหมื่น ในที่สุดพวกเราก็หากันและกันพบจนได้ ด้วยความคิดนี้เองทำให้เธอตัดสินใจสร้างผลงานที่บริษัทสกุลลู่ต่อไปโดยละทิ้งโอกาสที่จะได้รับการถ่ายทอดวิชาความรู้จากราฟองคามานี หลินไล่ซุ่ยบอกข่าวดีให้ลู่อี้เอ่อได้ไม่นานนัก เธอก็ได้รับข่าวร้ายว่าเธอถูกปลดจากการเป็นนักออกแบบ ที่แท้ทั้งหมดเป็นแผนการของฉู่สิงที่ต้องการทำลายหลินไล่ซุ่ยไห้พังพินาศลงไปนั่นเอง แม้ว่าหลินไล่ซุ่ยถูกฉู่สิงเล่นงานอีกครั้ง แต่เธอก็ยังคงเข้มแข็งยืนหยัดต่อไปได้ หลินไล่ซุ่ยตัดสินใจว่าจะพึ่งกำลังตัวเองเพื่อให้เสื้อผ้าซึ่งเป็นผลงานการออกแบบของเธอสู่ท้องตลาดด้วยการนำเสื้อผ้าของเธอฝากขายตามร้านเสื้อผ้าต่างๆ เนื่องจากบรรดาร้านเสื้อผ้าต่างหวาดกลัวอิทธิพลของฉู่สิงจึงพากันปฏิเสธหลินไล่ซุ่ย ในเวลานี้เองเค่อสิงชายลึกลับคนหนึ่งก็ปรากฏตัวออกมาโดยที่หลินไล่ซุ่ยหารู้ไม่ว่าชายคนนี้จะกลายเป็นคนสำคัญที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอ เค่อสิงวิพากษ์วิจารณ์เสื้อผ้าซึ่งเป็นผลงานการออกแบบของหลินไล่ซุ่ยโดยไม่ไว้หน้า ทำให้หลินไล่ซุ่ยโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมา กระนั้นเค่อสิงก็แสดงเจตจำนงว่าจะให้การสนับสนุนหลินไล่ซุ่ย ร่วมมือกันโค่นฉู่สิงลงให้ได้ หลินไล่ซุ่ยรับปากข้อเสนอของเค่อสิงด้วยความเต็มใจ ในที่สุดหลินไล่ซุ่ยก็รู้ความจริงว่าเค่อสิงเป็นประธานสมาคมนักออกแบบแห่งเอเซีย เธอรู้สึกแปลกใจมากไม่รู้ว่าเหตุใดเค่อสิงจึงต้องการโค่นฉู่สิงลงให้ได้ เค่อสิงเปิดเผยเจตจำนงให้หลินไล่ซุ่ยรู้ว่าตนต้องการปฏิรูปวงการออกแบบ ขอเพียงโค่นฉู่สิงลงได้ ความฝันของตนก็จะกลายเป็นความจริงขึ้นมา ตอนที่ 24 ข่าวการงัดข้อระหว่างฉู่สิงและหลินไล่ซุ่ยแพร่สะพัดไปทั่วโลก แม้แต่จี้ฟงเลี่ยงก็รู้สึกกังวลเป็นห่วงเป็นใยหลินไล่ซุ่ย เป็นอันมาก แต่หลินไล่ซุ่ยกลับปฏิเสธไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากจี้ฟงเลี่ยงโดยเห็นว่าศึกครั้งนี้จะพิสูจน์ว่าเธอสามารถเอาชนะตัวเองได้หรือไม่ กระนั้นอากง,อาซือ,เผยเหมยจื่อ,ไอริล,ลู่อี้เอ่อ,กวางซีและพวกต่างพากันเสนอตัวให้ความช่วยเหลือสร้างความปลาบปลื้มใจให้หลนิไล่ซุ่ยเป็นอันมาก อีกด้านหนึ่งนั้น จี้ฟงเลี่ยงลงจากเครื่องบินได้ไม่นานนักก็ได้รับโทรศัพท์จากฉู่สิงว่าต้องการพูดคุยกันเป็นการส่วนตัว ฉู่สิงใช้ความเป็นพ่อลูกเกลี้ยกล่อมจี้ฟงเลี่ยงให้ความช่วยเหลือตน จี้ฟงเลี่ยงโกรธมากจึงระบายความอัดอั้นตันใจตลอดสิบปีที่ผ่านมาออกมา กระนั้นจึ้ฟงเลี่ยงก็ลังเลไม่รู้ว่าจะช่วยเหลือฉู่สิงดีหรือไม่ ตอนที่ 25 จี้ฟงเลี่ยงตัดสินใจให้ความช่วยเหลือฉู่สิงผู้เป็นพ่อ ทางด้านหลินไล่ซุ่ยนั้นไม่มีสมาธิในการเตรียมตัวจึงตัดสินใจย้ายออกมาอยู่ตามลำพัง จากการบอกกล่าวของไอริล หลังจากที่จี้ฟงเลี่ยงรู้เรื่องนี้แล้วก็ออกตามหาหลินไล่ซุ่ย และแล้วโชคชะตาก็ทำให้ จี้ฟงเลี่ยงและหลินไล่ซุ่ยพานพบกันจนได้ จี้ฟงเลี่ยงเห็นว่าในเวลานี้เป็นโอกาสดีที่จะโค่นฉู่สิงลงให้ได้ หลินไล่ซุ่ยไม่ควรทิ้งโอกาสนี้ไปเป็นอันขาด ด้วยเหตุนี้หลินไล่ซุ่ยจึวเปลี่ยนความตั้งใจใหม่โดยตั้งปณิธานว่าจะต้องโค่นฉู่สิงลงให้ได้ ขณะที่หลินไล่ซุ่ยกำลังกลัดกลุ้มใจด้วยคิดไม่ออกว่าจะออกแบบใดนั่นเอง จู่ๆหลินไล่ซุ่ยก็ได้รับแรงบันดาลใจจากท้องถนน เธอเห็นว่าหากยึดโยงกับการดำเนินชีวิตของผู้คนมากเท่าใดก็จะเป็นที่ยอมรับมากเท่านั้น ในที่สุดหลินไล่ซุ่ยก็คิดผลงานภายใต้แนวคิดความรักซึ่งเชื่อว่าสามารถโค่นฉู่สิงลงได้ ตอนที่ 26 ในที่สุดก็ถึงวันตัดสินแพ้ชนะ เดิมทีฉู่สิงก็รู้สึกกระหยิ่มยิ้มย่องภาคภูมิใจผลงานของตนเองเป็นอันมาก แต่เมื่อเห็นผลงานการออกแบบอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของหลินไล่ซุ่ยซึ่งสามารถดึงดูดและเป็นที่ยอมรับจากทุกคน ทำให้ฉู่สิงพบว่าบัดนี้ตนพ่ายแพ้ให้หลินไล่ซุ่ยอย่างราบคาบ ไม่เป็นที่ยอมรับดังเช่นแต่ก่อน ต้องลงจากเวทีด้วยความหดหู่ คนหนุ่มสาวเหล่านี้ใช้ความตั้งใจจริงออกแบบต้นร่างที่สมบูรณ์แบบสวยสดงดงามเพื่อให้ความสุขในภายภาคหน้าค่อยๆกลายเป็นจริงขึ้นมา .....

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ