เครื่องตรวจบัตรเครดิตปลอม

ข่าวทั่วไป Tuesday August 10, 2010 17:40 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 ส.ค.--เนคเทค ปัญหาบัตรเครดิตปลอมเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในทั่วโลกรวมทั้ง ประเทศไทยซึ่งเกิดขึ้นในหลายจังหวัดของประเทศ โดยใช้วิธีการหลากหลายในการขโมยข้อมูลต่างๆ เช่น การแจ้งบัตรหายหรือบัตรถูกขโมย แล้วกลับนำบัตรไปใช้ในการทุจริต หรืออาจมีการปลอมแปลงเอกสารการสมัครเป็นชื่อบุคคลอื่นแล้วนำบัตรดังกล่าวไปใช้ ที่พบเจอมากที่สุดก็คือ การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยคัดลอกข้อมูลในบัตรและปลอมบัตรใหม่ไปใช้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือได้ว่ามีความผิดเป็นอาชญากรข้ามชาติเลยทีเดียว เนื่องจากผู้กระทำผิดในธุรกิจประเภทนี้มีทั้งที่เป็นคนไทยและชาวต่างชาติที่ เข้ามากระทำการในประเทศไทย โดยบุคคลทั้ง 2 กลุ่มนี้จะมีขั้นตอนการทำงานและวางแผนอย่างเป็นระบบ ซึ่งที่ผ่านมากรมสอบสวนคดีพิเศษได้เคยจับกุมชาวต่างชาติกรณีใช้บัตรเครดิตปลอม โดยใช้วิธีขโมยข้อมูลบัตรเครดิตผ่านทางสายโทรศัพท์ (wire tapping) ของบุคคลอื่น เมื่อได้ข้อมูลมาแล้วจะใช้เครื่องแปลงข้อมูลลงในบัตรใหม่ โดยมีการจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนปลอมหรือหนังสือเดินทางปลอมใช้ควบคู่กับ บัตรเครดิตที่ปลอมขึ้นและนำไปใช้ในทางทุจริต มีข้อมูลตัวเลขความเสียจากการปลอมแปลงบัตรเครดิตในประเทศอังกฤษ จากองค์กรชื่อ APAC ซึ่งเป็นองค์กรทางด้านธุรกรรมทางการเงินได้สรุปรายงานล่าสุดออกมาเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของมูลค่าความเสียหายที่เกิดจากบัตรปลอมที่ทำขึ้นเลียนแบบบัตรจริงที่ออกโดยหน่วยงานในประเทศอังกฤษ ตัวเลขในรายงานดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงมูลค่าความเสียหายในปี พ.ศ. 2552ที่เกิดขึ้นภายในประเทศอังกฤษมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ. 2551 19% หรือคิดเป็น36.9 ล้านปอนด์ ในขณะที่มูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นนอกประเทศมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 17% หรือคิดเป็น 132.9 ล้านปอนด์ (รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถศึกษาได้จาก www.cardwatch.org.uk )จากปัญหาดังกล่าวเนคเทคจึงได้วิจัยพัฒนา “เครื่องตรวจสอบบัตรเครดิตปลอม” ขึ้น “เครื่องตรวจสอบบัตรเครดิตปลอม” เป็นอีกนวัตกรรมหนึ่งจากผลงานวิจัยของหน่วยปฏิบัติการวิจัยเทคโนโลยีโฟโทนิกส์ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ นำโดย ดร.ศรัณย์ สัมฤทธิ์เดชขจร และ นายยุทธนา อินทรวันณี ที่ได้ผสมผสานความรู้ทางด้านแสง อิเล็กทรอนิกส์ และ ซอฟท์แวร์ เข้าด้วยกัน ทั้งยังได้จดสิทธิบัตรคุ้มครอง และ มีผลการทดสอบที่เป็นที่ยอมรับในวงการวิชาการระดับสากลในวารสารวิชาการ Applied Optics เดือน ธันวาคม 2552 และ กุมภาพันธ์ 2553 เครื่องตรวจบัตรเครดิตปลอมที่ทางหน่วยฯ ได้พัฒนาขึ้นสามารถตรวจสอบตัวบัตรเครดิตได้ว่าเป็นบัตรเครดิตจริงหรือปลอม โดยไม่ต้องตรวจสอบข้อมูลที่เก็บอยู่ในภายแถบแม่เหล็กหรือชิป ทำให้ปราศจากข้อกังวลในเรื่องการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล เครื่องตรวจบัตรเครดิตรุ่นนี้ได้ผ่านการทดสอบในงานแสดงสินค้า ComMart โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ และ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (KTC) มาแล้ว ปัจจุบันหน่วยงานตรวจสอบบัตรเครดิตของบริษัท บัตรกรุงไทย (มหาชน) จำกัด และของธนาคารไทยพาณิชย์ได้มีเครื่องรุ่นนี้ไว้ใช้แล้ว นอกจากนี้ทางหน่วยฯ ยังได้ขายสิทธิ์การผลิตให้แก่บริษัท นิวเวฟไอเดียส์ จำกัด เพื่อต่อยอดในเชิงพาณิชย์ต่อไป อนึ่งสำหรับบัตรเครดิตปลอมที่ตรวจสอบได้หมายถึงบัตรเครดิตที่ตัวบัตรเป็นของปลอม ไม่ใช่บัตรเครดิตจริงที่ถูกขโมยมา คุณสมบัติเบื้องต้น: ชนิดของบัตรเครดิต VISA, MasterCard ความถูกต้อง 100% เวลาที่ใช้ในการตรวจ < 0.5 วินาที ขนาด (กxยxส) 9x17x10 ซม.3 แรงดันไฟฟ้าที่ต้องการ 9-15 VDC, 1000 mA ลักษณะเด่น: ขนาดกะทัดรัด ใช้งานง่าย ประหยัดพลังงาน การใช้งาน: เพียง เปิดเครื่องฯ จากนั้นเสียบบัตรเครดิตที่ต้องการตรวจสอบเข้าช่องเสียบบัตร แล้วสังเกตหน้าจอแสดงผล หลังจากที่ระบบประมวลผลเสร็จ ตัวอักษรสีเขียวจะปรากฏบนหน้าจอสำหรับกรณีบัตรเครดิตที่ตัวบัตรเป็นของจริง แต่จะปรากฏเพียงแถบสีเขียวหรือหน้าจอว่างกรณีที่ตัวบัตรเป็นของปลอม ทำไมต้องตรวจสอบบัตรเครดิตด้วยเครื่องตรวจบัตรเครดิต? จริงๆ แล้วบัตรเครดิตทั้งของ VISA และ MasterCard มีเอกลักษณ์ที่สามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่าสำหรับใช้จำแนกบัตรเครดิตจริงออกจากบัตรเครดิตปลอมอยู่ 5 ตำแหน่ง ดังนี้ - ชื่อผู้ถือบัตร และ ตัวเลข 16 หลัก ซึ่งบ่งบอกชนิดของบัตร และ หน่วยงานที่เป็นผู้ออกบัตรให้ - สัญลักษณ์ของบัตรเครดิต เช่น VISA และ MasterCard ที่มีเอกลักษณ์ของตัวเอง - บริเวณเก็บข้อมูล เช่น แถบแม่เหล็ก และ ชิป รวมไปถึงตัวเลข 3 หลัก ที่อยู่ด้านหลังบัตรเครดิต - ฮอโลแกรม หรือ รูปที่พิมพ์อยู่บนแถบโลหะ ซึ่งสามารถเปลี่ยนสีหรือรูปร่างไปมาได้เมื่อมุมของการสังเกตหรือมุมของแสง เปลี่ยนไป สำหรับบัตร VISA จะเป็นรูปนก ส่วนบัตร MasterCard จะเป็นรูปลูกโลก - ภาพเรืองแสงบนตัวบัตรเมื่อมีแสงแบล๊คไลท์ส่่องไปยังตัวบัตร เอกลักษณ์ภายนอกที่ได้จากบัตรเครดิตจริง เอกลักษณ์ภายนอกที่ได้จากบัตรเครดิตปลอม ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศได้ส่งผลให้เอกลักษณ์เหล่านี้ปรากฏอยู่บนตัวบัตรเครดิตปลอมเช่นกัน เพียงแต่ส่วนใหญ่จะมีรายละเอียดในระดับไมโครเมตรหรือนาโนเมตรที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเกินความสามารถของตามนุษย์ที่จะแยกแยะความแตกต่างนี้ได้ เนื่องจากแสงมีความถี่สูง หรือ ความยาวคลื่นต่ำ ในระดับนาโนเมตร เครื่องตรวจบัตรเครดิตที่ใช้การผสมผสานความรู้สามแขนงเข้าด้วยกันตามที่ได้อธิบายข้างต้น จึงสามารถแยกแยะความแตกต่างเบื้องต้นและแสดงให้เห็นได้ว่าตัวบัตรเครดิตที่ กำลังตรวจสอบนั้นเป็นของจริงหรือของปลอม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ดร.ศรัณย์ สัมฤทธิ์เดชขจร ผู้อำนวยการฝ่าย หน่วยปฏิบัติการวิจัยเทคโนโลยีโฟโทนิกส์ เนคเทค เบอร์โทรศัพท์ 025646900ต่อ2102 E-mail sarun.sumriddetchkajorn@nectec.or.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ