TFUND เพิ่มทุนรอบ 4 ระดมทุน 1.7 พันล้านบาท ให้สิทธิ์เฉพาะผู้ถือหน่วยลงทุนเดิม เปิดรับจองซื้อ 4 — 8 ตุลาคม 2553

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 15, 2010 11:45 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 ก.ย.--บลจ.บัวหลวง บลจ.บัวหลวง เพิ่มความแข็งแกร่งของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) โดยประกาศเพิ่มทุนครั้งที่ 4 กว่า 1.7 พันล้านบาท เพื่อลงทุนในที่ดินและอาคารโรงงานให้เช่า จำนวน 36 โรง ซึ่งมีพื้นที่กว่า 8.96 หมื่นตารางเมตร ตั้งอยู่ในบริเวณนิคมอุตสาหกรรม สวนอุตสาหกรรม และเขตอุตสาหกรรมรวม 8 แห่ง และด้วยคุณภาพ และความสามารถในการสร้างรายได้ของทรัพย์สินที่ผ่านมา กองทุนสามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยอย่างสม่ำเสมอทุกไตรมาส นับแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นายสุทธิพงศ์ พัวพันธ์ประเสริฐ รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจกองทุนอสังหาริมทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.บัวหลวงอยู่ระหว่างการเตรียมการเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) เพิ่มเติม จำนวน 164.2 ล้านหน่วย ในราคาเสนอขายหน่วยละ 10.45 บาท โดยหน่วยลงทุนที่เพิ่มและเสนอขายทั้งหมดในครั้งนี้ จะให้สิทธิเฉพาะผู้ถือหน่วยลงทุนเดิม (Rights Offering) ในอัตราส่วน 1 หน่วยลงทุนเดิม ต่อ 0.216 หน่วยลงทุนใหม่ ตามรายชื่อผู้ถือหน่วยลงทุนที่ปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุน ในวันที่ 22 กันยายน 2553 และจะเปิดรับการจองซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มทุนดังกล่าว ระหว่างวันที่ 4 — 8 ตุลาคม 2553 ผ่านสาขาธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และ บล.บัวหลวง การระดมทุนในครั้งนี้ เป็นการเพิ่มทุนครั้งที่ 4 ของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน โดยกองทุนจะเข้าซื้อทรัพย์สินจากบริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) (Ticon) ซึ่งประกอบด้วยที่ดินและอาคารโรงงาน รวม 36 โรง รวมพื้นที่ประมาณ 89,685 ตารางเมตร ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม สวนอุตสาหกรรม และเขตอุตสาหกรรม รวม 8 แห่ง ซึ่งส่งผลให้ภายหลังการเพิ่มทุนครั้งนี้แล้ว TFUND จะเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดิน พร้อมโรงงานและคลังสินค้าร วมจำนวน 210 โรง คิดเป็นพื้นที่ให้เช่าประมาณ 487,109.5 ตารางเมตร นายสุทธิพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมถึงจุดเด่นของกองทุน TFUND ว่ามีประวัติการจ่ายเงินปันผลที่ดีอย่างสม่ำเสมอ ที่ผ่านมาสามารถจ่ายเงินปันผลได้ปีละ 4 ครั้ง ในอัตราประมาณ 0.20 บาทต่อไตรมาส การลงทุนที่มีลักษณะเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินและทรัพย์สินที่เข้าไปลงทุน (Freehold) ซึ่งทำให้มูลค่าทรัพย์สินมีโอกาสเพิ่มขึ้นในระยะยาว อีกทั้งมีการบริหารจัดการทรัพย์สินโดยมืออาชีพที่มีประสบการณ์ยาวนานอย่างบริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) จากจุดเด่นที่กล่าวมาข้างต้น เชื่อว่าจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และคาดว่าการเพิ่มทุนในครั้งนี้ จะได้รับการตอบรับจากผู้ถือหน่วยเดิมเป็นอย่างดี นายวีรพันธ์ พูลเกษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจให้เช่าโรงงานและคลังสินค้า โดยกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทฯ ยังคงเป็นนักลงทุนจากญี่ปุ่น สิงคโปร์ ยุโรปและสหรัฐอเมริกา แนวโน้มธุรกิจของไทคอนเอง ยังคงเติบโตต่อเนื่อง ทั้งนี้ เนื่องจากการขยายตัวของธุรกิจส่งออก โดยเฉพาะในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มชิ้นส่วนและอุปกรณ์ยานยนต์ โลจิสติกส์ และอาหาร เป็นต้น นับจากต้นปีจนถึงปัจจุบันมีลูกค้าเก่าต่อสัญญาเช่า (Renewal rate) ในอัตราประมาณร้อยละ 90 ซึ่งสูงกว่าระดับปกติที่มีอัตราเฉลี่ยที่ร้อยละ 80 ปี 2553 นั้น ทางบริษัทฯ มีแผนใช้เงินลงทุนประมาณ 1,500 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างโรงงานและคลังสินค้าใหม่ประมาณ 120,000 ตารางเมตร ทั้งนี้ เพื่อทดแทนโรงงานที่ขายเข้ากองทุน TFUND โดยเบื้องต้นทางบริษัทฯ เตรียมก่อสร้างคลังสินค้าแห่งใหม่ บริเวณอีสเทิร์นซีบอร์ด พื้นที่ 40 ไร่ เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ในอนาคต นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดการเพิ่มทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ไทคอน ได้ที่ บลจ.บัวหลวง โทร. 0 2674 6488 กด 8

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ