กทม.แถลงความคืบหน้าก่อสร้างสนามแข่งฟุตซอลชิงแชมป์โลก

ข่าวทั่วไป Friday September 24, 2010 13:02 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 ก.ย.--กองประชาสัมพันธ์ กทม. กทม.เผยความคืบหน้าจัดหาสถานที่ก่อสร้างสนามฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2012 เตรียมเสนอ ครม.พิจารณาเลือกพื้นที่ที่เหมาะสมในสัปดาห์หน้า คาดใช้งบประมาณ 1.5 — 2 พันล้านบาท หวังผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางฟุตซอลในภาคพื้นเอเชีย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานแถลงข่าวการก่อสร้างสนามฟุตซอลเพื่อจัดการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก ในปี 2555 (Worldcup Futsal 2012) ซึ่งกรุงเทพมหานครได้รับเกียรติจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) ให้เป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันฯ และเมื่อวันที่ 30 ก.ค.53 กรุงเทพมหานครได้รับหนังสือจาก FIFA แจ้งให้ดำเนินการก่อสร้างสนามฟุตซอลสำหรับการแข่งขันในพิธีเปิดและพิธีปิดที่มีความจุคนดูได้อย่างน้อย 12,000 ที่นั่ง โดยเป็นสนามกีฬาในร่มที่ใช้แข่งในระดับสากล สามารถเดินทางได้สะดวกสบาย ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในเวลาประมาณ 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา กรุงเทพมหานครและสมาคมฟุตซอลได้ร่วมกันศึกษารายละเอียดเพื่อหาสถานที่ที่เหมาะสมในการก่อสร้าง รวมถึงกำหนดรูปแบบการก่อสร้างที่เหมาะสมกับพื้นที่ โดยมีที่ดิน 2 แห่งที่มีศักยภาพจะนำมาพัฒนาการก่อสร้างอาคารสนามกีฬาในร่มขนาดใหญ่ คือ พื้นที่บริเวณมักกะสัน ติดกับสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้ง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความเหมาะสมมากที่สุด ทั้งขนาดพื้นที่ 180 ไร่ ลักษณะเด่นของพื้นที่ และการเดินทาง แต่มีอุปสรรคในด้านการขอใช้พื้นที่จากการรถไฟแห่งประเทศไทย อาจทำให้การก่อสร้างเสร็จไม่ทันเวลา ส่วนพื้นที่อีกแห่งหนึ่ง คือ ภายในสถาบันพัฒนาข้าราชการ เขตหนองจอก ขนาด 139 ไร่ซึ่งเป็นพื้นที่ของกรุงเทพมหานครเอง สามารถดำเนินการได้ทันที แต่อยู่บริเวณชานเมือง ทำให้การเดินทางของนักกีฬาและผู้ชมต้องใช้เวลาพอสมควร และการบริหารงานหลังจบการแข่งขันจำเป็นต้องมีแผนการรองรับขนาดใหญ่ เพื่อให้พื้นที่ดังกล่าวสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้านงบประมาณในการก่อสร้าง กรุงเทพมหานครจะเสนอรายละเอียดของพื้นที่ทั้ง 2 แห่ง ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีถือเป็นที่สุด โดยกรุงเทพมหานครพร้อมที่จะดำเนินการก่อสร้างในพื้นที่ที่คณะรัฐมนตรีคัดเลือก คาดว่าจะใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 1,500 — 2,000 ล้านบาท และต้องทำการวางศิลาฤกษ์ให้ทันภายในสิ้นปี 2553 นี้ เพื่อให้การก่อสร้างแล้วเสร็จทันการแข่งขันฯ ในปี 2555 โดยหวังผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางฟุตซอลของภาคพื้นเอเชียด้วย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ