กฎกระทรวงฉบับที่ ๓๖๔ (พ.ศ. ๒๕๖๓) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการนำส่งเงินภาษี

ข่าวทั่วไป Wednesday June 10, 2020 11:24 —ข้อบังคับและประกาศภาษีสรรพากร

กฎกระทรวง

ฉบับที่ ๓๖๔ (พ.ศ. ๒๕๖๓)

ออกตามความในประมวลรัษฎากร

ว่าด้วยการนำส่งเงินภาษี

____________

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๓ ปัณรส แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๔๘) พ.ศ. ๒๕๖๒ และมาตรา ๔ แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๒๐) พ.ศ. ๒๕๑๓ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ในกฎกระทรวงนี้ "ธนาคาร" หมายความว่า ธนาคารพาณิชย์ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน และสถาบันการเงินของรัฐที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น

ข้อ ๒ ผู้มีหน้าที่นำส่งเงินภาษีตามประมวลรัษฎากรอาจเลือกวิธีการนำส่งเงินภาษี ต่อกรมสรรพากรผ่านธนาคาร ตามมาตรา ๓ ปัณรส ได้ตามกฎกระทรวงนี้

ธนาคารที่ประสงค์จะรับเงินภาษีจากผู้มีหน้าที่นำส่งเงินภาษีแทนกรมสรรพากรตามวรรคหนึ่ง ต้องยื่นคำขอต่ออธิบดีตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด

ข้อ ๓ ให้ผู้มีหน้าที่นำส่งภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ตามมาตรา ๕๒ ภาษีเงินได้ตามมาตรา ๗๐ และมาตรา ๗๐ ทวิ และภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา ๘๓/๕ และมาตรา ๘๓/๖ นำส่งเงินภาษี ผ่านธนาคาร พร้อมกับการจ่ายเงินได้พึงประเมิน หรือการจำหน่ายเงินกำไรหรือเงินประเภทอื่นใด ที่กันไว้จากกำไรหรือที่ถือได้ว่าเป็นเงินกำไร หรือการจ่ายเงินค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบการที่อยู่นอกราชอาณาจักรก็ได้

ข้อ ๔ ให้ผู้มีหน้าที่นำส่งเงินภาษีตามข้อ ๓ แจ้งรายการที่เกี่ยวข้องต่อธนาคารตามที่อธิบดีประกาศกำหนด โดยต้องมีรายการอย่างน้อย ดังต่อไปนี้

(๑) เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้มีหน้าที่นำส่งภาษี

(๒) ชื่อหรือเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้รับเงิน

(๓) ในกรณีภาษีเงินได้ ให้ระบุประเภทของเงินได้พึงประเมินและจำนวนเงินได้ที่ผู้มีหน้าที่นำส่งเงินภาษีได้นำส่ง และจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ถ้ามี)

(๔) ในกรณีภาษีมูลค่าเพิ่ม ให้ระบุมูลค่าทั้งหมดที่ผู้ประกอบการได้รับหรือพึงได้รับจาก การขายสินค้าหรือการให้บริการ

(๕) จำนวนภาษีที่หักหรือนำส่ง ข้อ ๕ เมื่อธนาคารได้รับเงินภาษีจากผู้มีหน้าที่นำส่งเงินภาษีตามข้อ ๓ แล้ว ให้ธนาคารออกหลักฐานเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เพื่อแสดงการรับชาระเงินภาษีดังกล่าวให้แก่ผู้มีหน้าที่นำส่งเงินภาษีและผู้รับเงินหรือผู้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย

การออกหลักฐานเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เพื่อแสดงการรับเงินภาษีตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด

ข้อ ๖ ให้ธนาคารนำส่งเงินภาษีตามข้อ ๓ และรายการตามข้อ ๔ ต่อกรมสรรพากร ภายในระยะเวลาที่ได้ทาความตกลงกับกรมสรรพากรแต่ไม่เกินสี่วันทำการนับถัดจากวันที่ธนาคาร ได้รับเงินภาษีและรายการ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด

ข้อ ๗ เมื่อธนาคารได้นำส่งเงินภาษีให้กรมสรรพากรแล้ว ให้กรมสรรพากรออกใบเสร็จรับเงินด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ให้แก่ผู้มีหน้าที่นำส่งเงินภาษี และให้ถือว่าการเสียภาษีอากรเป็นการสมบูรณ์เมื่อได้รับใบเสร็จรับเงินด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์

ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๓

อุตตม สาวนายน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ที่มา: http://www.rd.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ