ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๔๐๔) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้ สำหรับเงินได้ที่ได้จ่ายอันเนื่องมาจากธนาคารพาณิชย์ควบเข้ากันหรือรับโอนกิจการทั้งหมดหรือบางส่วน

ข่าวทั่วไป Monday March 22, 2021 11:36 —ข้อบังคับและประกาศภาษีสรรพากร

ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร

เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๔๐๔) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้

สำหรับเงินได้ที่ได้จ่ายอันเนื่องมาจากธนาคารพาณิชย์ควบเข้ากัน

หรือรับโอนกิจการทั้งหมดหรือบางส่วน

อาศัยอานาจตามความในมาตรา 10 และมาตรา 12 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความ ในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 677) พ.ศ. 2562 อธิบดีกรมสรรพากรกาหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้ สาหรับเงินได้ที่ได้จ่ายอันเนื่องมาจากธนาคารพาณิชย์ควบเข้ากันหรือรับโอนกิจการทั้งหมดหรือบางส่วน ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 การยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่ธนาคารพาณิชย์ที่เกิดจากการควบเข้ากันหรือที่รับโอนกิจการทั้งหมดหรือบางส่วนตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 677) พ.ศ. 2562 สาหรับเงินได้ที่ได้จ่ายเพื่อการลงทุนในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือการเปลี่ยนแปลงหรือทาให้ดีขึ้นซึ่งอาคารถาวร แต่ไม่รวมถึงที่ดินและอาคารถาวร ที่ใช้เพื่อการอยู่อาศัย อันเนื่องมาจากการควบเข้ากันหรือการรับโอนกิจการทั้งหมดหรือบางส่วน ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้

(1) ต้องเป็นรายจ่ายที่ได้จ่ายเพื่อการลงทุน หรือการเปลี่ยนแปลงหรือทาให้ดีขึ้น ซึ่งทรัพย์สิน อันเนื่องมาจากการควบเข้ากันหรือการรับโอนกิจการทั้งหมดหรือบางส่วน แต่ไม่ใช่เป็น การซ่อมแซมให้คงสภาพเดิมตามมาตรา 65 ตรี (5) แห่งประมวลรัษฎากร และได้จ่ายไปจริงตั้งแต่วันที่ธนาคารพาณิชย์ควบเข้ากันหรือโอนกิจการทั้งหมดหรือบางส่วน ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2565

(2) ให้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ตามจานวนที่ได้จ่ายไปจริงในรอบระยะเวลาบัญชี ที่เริ่มต้นหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สิน ตามมาตรา 65 ทวิ (2) แห่งประมวลรัษฎากร

(3) ต้องสามารถแสดงหลักฐานการจ่ายตาม (1) พร้อมที่จะให้เจ้าพนักงานประเมินตรวจสอบได้

ข้อ 2 การยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่ธนาคารพาณิชย์ที่เกิดจากการควบเข้ากันหรือที่รับโอนกิจการทั้งหมดหรือบางส่วนตามมาตรา 8 และมาตรา 9 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 677) พ.ศ. 2562 สาหรับเงินได้ที่ได้จ่ายเพื่อการเลิกหรือ การปรับปรุงแก้ไขสัญญาซื้อขาย สัญญาเช่า สัญญาจ้างทาของ หรือสัญญาบารุงรักษา ที่เกี่ยวข้องกับ โปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือที่เกี่ยวข้องกับธนาคารพาณิชย์ และสาหรับเงินได้ที่ได้จ่ายเพื่อการรื้อถอนเครื่องจักร ส่วนประกอบ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ เครื่องตกแต่ง และเฟอร์นิเจอร์ อันเนื่องมาจาก การควบเข้ากันหรือการรับโอนกิจการทั้งหมดหรือบางส่วน ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้

(1) ต้องเป็นรายจ่ายที่ได้จ่ายไปจริงตั้งแต่วันที่ธนาคารพาณิชย์ควบเข้ากันหรือโอนกิจการทั้งหมดหรือบางส่วน ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2565

(2) รายจ่ายที่ธนาคารพาณิชย์ได้จ่ายตาม (1) ในรอบระยะเวลาบัญชีใด ให้ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ในรอบระยะเวลาบัญชีนั้น

(3) ต้องสามารถแสดงหลักฐานการจ่ายตาม (1) พร้อมที่จะให้เจ้าพนักงานประเมินตรวจสอบได้

ข้อ 3 การใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ตามมาตรา 7 มาตรา 8 และมาตรา 9 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 677) พ.ศ. 2562 ให้ใช้สินทรัพย์รวมของธนาคารพาณิชย์ที่เกิดจากการควบเข้ากันหรือที่รับโอนกิจการทั้งหมดหรือบางส่วน ณ วันที่ธนาคารพาณิชย์ได้ควบเข้ากันหรือโอนกิจการทั้งหมดหรือบางส่วนให้แก่กัน

ข้อ 4 ให้ธนาคารพาณิชย์ที่เกิดจากการควบเข้ากันหรือที่รับโอนกิจการทั้งหมดหรือบางส่วนจัดทารายงานแสดงรายละเอียดของทรัพย์สินหรือรายจ่ายที่ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ตามประกาศนี้ โดยต้องมีรายการและข้อความอย่างน้อยตามแบบที่แนบท้ายประกาศนี้ และต้องเก็บรักษารายงานดังกล่าว รวมทั้งเอกสารประกอบการลงรายงานไว้ ณ สถานประกอบการ พร้อมที่จะให้เจ้าพนักงานประเมินตรวจสอบได้ โดยทรัพย์สินที่ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ดังกล่าวจะต้องมีอยู่ในทะเบียนทรัพย์สิน หรือเอกสารอื่นใดในทานองเดียวกันที่ได้จัดทาขึ้นโดยธนาคารพาณิชย์ด้วย

ประกาศ ณ วันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. ๒๕64

เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ

(นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ)

อธิบดีกรมสรรพากร

ที่มา: http://www.rd.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ