พ.ศ. ๒๕๖๔ ด้วยมาตรา ๑๐ ตรี แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๕๔) พ.ศ. ๒๕๖๔ บัญญัติให้อธิบดีกรมสรรพากรในฐานะเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจหรือผู้แทนเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจที่ได้รับมอบหมายตามความตกลงหรืออนุสัญญาระหว่างประเทศใด ซึ่งมีข้อบัญญัติให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลภาษีอากรเพื่อประโยชน์ในการป้องกันการเลี่ยงรัษฎากร มีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ได้มาโดยหน้าที่ราชการตามลักษณะ ๒ แห่งประมวลรัษฎากร กับเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจอีกฝ่ายหนึ่งได้ โดยการแลกเปลี่ยนข้อมูลดังกล่าว ให้เป็นไปตามระเบียบ ที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด ซึ่งต้องสอดคล้องกับบทบัญญัติและเงื่อนไขของความตกลงหรืออนุสัญญานั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจึงกำหนดระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า "ระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการแลกเปลี่ยนข้อมูลตามมาตรา ๑๐ ตรี แห่งประมวลรัษฎากร พ.ศ. ๒๕๖๔"
ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๔ เป็นต้นไป ข้อ ๓ ในระเบียบนี้ "ความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนข้อมูล" หมายความว่า (๑) ความตกลง หรืออนุสัญญาเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อน และการป้องกันการเลี่ยงรัษฎากรที่รัฐบาลไทยได้ทาไว้กับรัฐบาลต่างประเทศ
(๒) ความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนและการป้องกันการเลี่ยงรัษฎากร ที่สานักงานการค้าและเศรษฐกิจไทยได้ทาไว้กับสานักงานเศรษฐกิจและการค้าของต่างประเทศ หรือ
(๓) ความตกลงพหุภาคีว่าด้วยการให้ความช่วยเหลือด้านการบริหารภาษี ที่รัฐบาลไทย ได้เข้าผูกพันเป็นคู่สัญญา (Convention on Mutual Administrative Assistance in Tax Matters: MAC)
"คู่สัญญา" หมายความว่า รัฐบาลต่างประเทศหรือสานักงานเศรษฐกิจและการค้าของต่างประเทศที่ประเทศไทยได้ทาความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนข้อมูล
"เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของคู่สัญญา" หมายความว่า เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของคู่สัญญาตามความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนข้อมูล
"เจ้าหน้าที่กรมสรรพากร" หมายความว่า เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรที่อธิบดีมอบหมาย ข้อ ๔ ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรที่ได้รู้ข้อมูลที่ได้รับจากเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของคู่สัญญา แจ้งข้อมูลดังกล่าวแก่ผู้ใดหรือยังให้ทราบกันไปโดยวิธีใด เว้นแต่จะมีอำนาจที่จะทาได้ โดยชอบด้วยกฎหมาย และสอดคล้องตามความในความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนข้อมูล
/ ส่วนที่ ๑ การ ...
ข้อ ๕ ภายใต้ความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนข้อมูล เมื่อเจ้าหน้าที่ ผู้มีอำนาจของคู่สัญญามีคาร้องขอเป็นหนังสือที่มีรายการอย่างน้อย ดังต่อไปนี้ ให้เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรพิจารณาดำเนินการตามบทบัญญัติในส่วนนี้
(๑) ข้อมูลระบุตัวตนของผู้ที่ถูกตรวจสอบโดยคู่สัญญา (๒) รายละเอียดของข้อมูลที่ร้องขอ รวมถึงลักษณะและรูปแบบของข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของคู่สัญญาประสงค์จะได้รับจากอธิบดีในฐานะเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายตามมาตรา ๑๐ ตรี แห่งประมวลรัษฎากร
(๓) วัตถุประสงค์ทางภาษีที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลที่ร้องขอ (๔) เหตุผลที่ทาให้เชื่อได้ว่า ข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของคู่สัญญาร้องขอ อยู่ในประเทศไทย หรืออยู่ในความครอบครองหรือการควบคุมของบุคคลผู้อยู่ในประเทศไทย
(๕) คาแถลงที่แสดงให้เห็นว่า คู่สัญญามีอำนาจตามกฎหมายและแนวทางปฏิบัติ ในประเทศหรือเขตเศรษฐกิจของคู่สัญญา ที่จะได้มาซึ่งข้อมูลตามคาร้องขอ หากข้อมูลที่ร้องขอนั้น อยู่ในประเทศหรือเขตเศรษฐกิจของคู่สัญญา
(๖) คาแถลงที่แสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของคู่สัญญาจะสามารถส่งข้อมูลลักษณะเดียวกันที่มีอยู่ในประเทศหรือเขตเศรษฐกิจของตน หากอธิบดีในฐานะเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจหรือผู้แทนเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจที่ได้รับมอบหมายร้องขอ
(๗) คาแถลงที่แสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของคู่สัญญาได้พยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลตามคาร้องขอดังกล่าวภายในประเทศหรือเขตเศรษฐกิจของตนแล้ว แต่ไม่อาจหาข้อมูลดังกล่าวได้
ข้อ ๖ ในกรณีที่คาร้องขอตามข้อ ๕ มีรายการไม่ครบถ้วน ให้เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรเสนออธิบดีในฐานะเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจหรือผู้แทนเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจที่ได้รับมอบหมายตามมาตรา ๑๐ ตรี แห่งประมวลรัษฎากร มีหนังสือแจ้งเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของคู่สัญญาว่า คาร้องขอดังกล่าวมีรายละเอียด ไม่เพียงพอต่อการดำเนินการตามคาร้องขอได้
ข้อ ๗ ในกรณีที่คาร้องขอตามข้อ ๕ มีรายการครบถ้วน ให้เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรเสนออธิบดีในฐานะเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจหรือผู้แทนเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจที่ได้รับมอบหมายตามมาตรา ๑๐ ตรี แห่งประมวลรัษฎากร มีหนังสือแจ้งเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของคู่สัญญาว่าได้รับคาร้องขอดังกล่าวแล้ว และให้ดำเนินการตามกระบวนการแลกเปลี่ยนข้อมูลตามความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับ การแลกเปลี่ยนข้อมูล ดังต่อไปนี้
(๑) สอบถามข้อมูลไปยังหน่วยงานของกรมสรรพากรที่เกี่ยวข้องเพื่อรวบรวมข้อมูล ที่ถูกร้องขอนั้น
(๒) จัดทำข้อมูลที่รวบรวมได้ให้อยู่ในลักษณะและรูปแบบของข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ ผู้มีอำนาจของคู่สัญญาประสงค์จะได้รับจากอธิบดีในฐานะเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจหรือผู้แทน ที่ได้รับมอบหมายตามมาตรา ๑๐ ตรี แห่งประมวลรัษฎากร
/ (๓) เสนอ ...
ส่วนที่ ๑ การแลกเปลี่ยนข้อมูลตามการร้องขอ
(๓) เสนอเรื่องต่ออธิบดีในฐานะเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย ตามมาตรา ๑๐ ตรี แห่งประมวลรัษฎากร เพื่อส่งข้อมูลดังกล่าวไปยังเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของคู่สัญญาต่อไป
ข้อ ๘ เมื่ออธิบดีในฐานะเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย ตามมาตรา ๑๐ ตรี แห่งประมวลรัษฎากร ได้รับเรื่องตามข้อ ๗ (๓) ให้อธิบดีในฐานะเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายตามมาตรา ๑๐ ตรี แห่งประมวลรัษฎากร ดำเนินการแลกเปลี่ยนข้อมูลตาม การร้องขอกับเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของคู่สัญญา ตามความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนข้อมูล
ข้อ ๙ กรณีเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรยังไม่สามารถดำเนินการตามข้อ ๗ (๑) หรือ (๒) ให้เสร็จภายใน ๙๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับคาร้องขอที่มีรายการครบถ้วนตามข้อ ๕ ให้เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรเสนอเรื่องดังกล่าวต่ออธิบดีในฐานะเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย ตามมาตรา ๑๐ ตรี แห่งประมวลรัษฎากร เพื่อแจ้งสถานะการดำเนินการตามข้อ ๗ พร้อมสาเหตุหรืออุปสรรคที่เกิดขึ้น ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของคู่สัญญาเพื่อทราบ
ข้อ ๑๐ กรณีเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรไม่สามารถดำเนินการตามคาร้องขอได้ ให้เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรเสนออธิบดีในฐานะเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย ตามมาตรา ๑๐ ตรี แห่งประมวลรัษฎากร เพื่อแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของคู่สัญญาว่าไม่สามารถดำเนินการส่งข้อมูลตามคาร้องขอดังกล่าวได้
ส่วนที่ ๒ การแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบไม่ได้ร้องขอ ข้อ ๑๑ ให้อธิบดีในฐานะเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายตามมาตรา ๑๐ ตรี แห่งประมวลรัษฎากร ดำเนินการแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบไม่ได้ร้องขอโดยเจ้าหน้าที่ ผู้มีอำนาจของคู่สัญญาตามความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนข้อมูล ทั้งนี้ ข้อมูล วิธีการ และระยะเวลาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบไม่ได้ร้องขอ ให้เป็นไปตามความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนข้อมูล
การแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบไม่ได้ร้องขอตามวรรคหนึ่ง ให้หมายความรวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบไม่ร้องขอตามแผนปฏิบัติการที่ ๕ Counter Harmful Tax Practices ของโครงการป้องกันการกัดกร่อนฐานภาษีและโยกย้ายกาไร ภายใต้กรอบความร่วมมือ Inclusive Framework on Base Erosion and Profit Shifting ที่ประเทศไทยได้เข้าเป็นสมาชิก
ส่วนที่ ๓ การแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบอัตโนมัติ ข้อ ๑๒ ให้อธิบดีในฐานะเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจหรือผู้แทนเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตาม มาตรา ๑๐ ตรี แห่งประมวลรัษฎากร ดำเนินการแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบอัตโนมัติ สาหรับข้อมูลตามรายงานข้อมูลรายประเทศ (Country-by-Country Report) ที่ได้รับตามมาตรา ๑๗ แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับ ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๔๐๘) เรื่อง กำหนดให้ผู้ยื่นรายการแจ้งข้อความ ตามรายงานข้อมูลรายประเทศ (Country-by-Country Report) ลงวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๔ กับเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของคู่สัญญาตามความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนข้อมูล แบบอัตโนมัติ ทั้งนี้ วิธีการ และระยะเวลาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบอัตโนมัติดังกล่าว ให้เป็นไปตาม ความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบอัตโนมัติ
"ความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบอัตโนมัติ" ตามวรรคหนึ่ง หมายความว่า ความตกลงระหว่างเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจในการแลกเปลี่ยนข้อมูลรายประเทศ (Exchange of Country-by-Country Report) ที่เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของประเทศไทยได้เข้าผูกพันเป็นคู่สัญญา เพื่อการแลกเปลี่ยนข้อมูลรายประเทศ ภายใต้ความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนข้อมูล
ประกาศ ณ วันที่ ๓๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๔
อาคม เติมพิทยาไพสิฐ (นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ฃ
ที่มา: http://www.rd.go.th