คำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.๑๕๙/๒๕๖๔ เรื่อง ภาษีเงินได้นิติบุคคล การพิจารณาเหตุอันสมควร ตามมาตรา ๖๕ ทวิ (๔) และกรณีคำนวณรายได้รายจ่าย ตามมาตรา ๖๕ วรรคสาม แห่งประมวลรัษฎากร

ข่าวทั่วไป Tuesday December 21, 2021 10:53 —ข้อบังคับและประกาศภาษีสรรพากร

______________ เพื่อให้เจ้าพนักงานสรรพากรถือเป็นแนวทางปฏิบัติในการตรวจและแนะนำสำหรับ การพิจารณาเหตุอันสมควร ตามมาตรา ๖๕ ทวิ (๔) และกรณีคำนวณรายได้และรายจ่ายของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ตามมาตรา ๖๕ วรรคสาม แห่งประมวลรัษฎากร กรมสรรพากรจึงมีคำสั่ง ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ กรณีสถาบันการเงินซึ่งเป็นเจ้าหนี้ได้ดำเนินมาตรการสนับสนุนการรับโอนทรัพย์สินหลักประกันเพื่อชำระหนี้ตามพระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๔ และมาตรการดังกล่าวเป็นเหตุให้สถาบันการเงินดังกล่าวซึ่งต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยหรือกระทำการอย่างอื่นที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน ให้ถือว่ากรณีมีเหตุอันสมควรที่สถาบันการเงินดังกล่าวสามารถดำเนินการได้ ตามมาตรา ๖๕ ทวิ (๔) แห่งประมวลรัษฎากร

ข้อ ๒ กรณีสถาบันการเงินซึ่งเป็นเจ้าหนี้ได้ดำเนินมาตรการสนับสนุนการรับโอนทรัพย์สินหลักประกันเพื่อชำระหนี้ตามพระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๔ และมาตรการดังกล่าวเป็นเหตุให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งเป็นลูกหนี้ต้องโอนทรัพย์สินให้แก่สถาบันการเงินดังกล่าวโดยไม่มีค่าตอบแทนหรือมีค่าตอบแทนต่ำกว่าราคาตลาด ให้ถือว่าการโอนทรัพย์สินดังกล่าวมีเหตุอันสมควรที่สามารถดำเนินการได้ ตามมาตรา ๖๕ ทวิ (๔) แห่งประมวลรัษฎากร

ข้อ ๓ กรณีสถาบันการเงินซึ่งเป็นเจ้าหนี้ได้ดำเนินมาตรการสนับสนุนการรับโอนทรัพย์สินหลักประกันเพื่อชำระหนี้ตามพระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๔ และมาตรการดังกล่าวเป็นเหตุให้สถาบันการเงินดังกล่าวทำสัญญาหรือข้อตกลงให้ลูกหนี้ของสถาบันการเงินชำระเงินต้นก่อนการชำระดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม หรือค่าบริการ ให้ถือว่าเป็นกรณีที่อธิบดีกรมสรรพากรอนุมัติให้สถาบันการเงินดังกล่าวกระทำได้ ตามมาตรา ๖๕ วรรคสาม แห่งประมวลรัษฎากร

ข้อ ๔ กรณีสถาบันการเงินซึ่งเป็นเจ้าหนี้ได้ดำเนินมาตรการสนับสนุนการรับโอนทรัพย์สินหลักประกันเพื่อชำระหนี้ตามพระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๔ และมาตรการดังกล่าวเป็นเหตุให้ลูกหนี้ของสถาบันการเงินมีสิทธิเช่าทรัพย์สินหลักประกันที่สถาบันการเงินรับโอนเพื่อนำไปประกอบธุรกิจตามสภาพแห่งทรัพย์สินได้ตามอัตราค่าเช่าที่ต่ำกว่าราคาตลาด ให้ถือว่าการให้เช่าทรัพย์สินดังกล่าวมีเหตุอันสมควรที่สถาบันการเงินดังกล่าวสามารถดำเนินการได้ตามมาตรา ๖๕ ทวิ (๔) แห่งประมวลรัษฎากร

ข้อ ๕ ในข้อ ๑ ข้อ ๒ ข้อ ๓ และข้อ ๔ "สถาบันการเงิน" หมายความว่า ธนาคารพาณิชย์ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงินและสถาบันการเงินเฉพาะกิจตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงินซึ่งประกอบธุรกิจ ให้สินเชื่อ

"ลูกหนี้" หมายความว่า ผู้ประกอบธุรกิจซึ่งเป็นลูกหนี้ของสถาบันการเงินและให้หมายความรวมถึงเจ้าของทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันการชำระหนี้ของผู้ประกอบธุรกิจซึ่งเป็นลูกหนี้ของสถาบันการเงินนั้นด้วย

"ลูกหนี้ของสถาบันการเงิน" หมายความว่า ผู้ประกอบธุรกิจซึ่งเป็นลูกหนี้ของสถาบันการเงิน

ข้อ ๖ คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ เป็นต้นไป

สั่ง ณ วันที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๔

เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ

(นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ)

อธิบดีกรมสรรพากร

ที่มา: http://www.rd.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ