ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และรูปแบบการส่งข้อมูลบัญชีทางการเงินแบบอัตโนมัติ

ข่าวทั่วไป Friday August 11, 2023 12:52 —ข้อบังคับและประกาศภาษีสรรพากร

ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และรูปแบบการส่งข้อมูลบัญชีทางการเงินแบบอัตโนมัติ
ตามความตกลงพหุภาคีระหว่างเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจในการแลกเปลี่ยนข้อมูล

บัญชีทางการเงินแบบอัตโนมัติ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘ แห่งพระราชกำหนดการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อปฏิบัติตาม ความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับภาษีอากร พ.ศ. ๒๕๖๖ อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดให้ผู้มีหน้าที่ รายงานตามมาตรา ๑๕ แห่งพระราชกำหนดการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อปฏิบัติตามความตกลงระหว่างประเทศ เกี่ยวกับภาษีอากร พ.ศ. ๒๕๖๖ ดาเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และรูปแบบการส่งข้อมูล บัญชีทางการเงินแบบอัตโนมัติตามความตกลงพหุภาคีระหว่างเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจในการแลกเปลี่ยนข้อมูลบัญชีทางการเงินแบบอัตโนมัติ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ให้ข้อมูลดังต่อไปนี้เป็นข้อมูลที่ผู้มีหน้าที่รายงานต้องส่งมายังอธิบดีกรมสรรพากร (๑) ข้อมูลของเจ้าของบัญชี

(ก) ในกรณีเจ้าของบัญชีเป็นบุคคลธรรมดาที่เป็นผู้ถือบัญชี ได้แก่ ชื่อ ที่อยู่ รัฐหรือภาคี ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่ หมายเลขประจาตัวผู้เสียภาษี และวันเดือนปีเกิด และสถานที่เกิด ของผู้ที่ต้องถูกรายงาน แต่ละรายซึ่งเป็นเจ้าของบัญชี

(ข) ในกรณีเจ้าของบัญชีเป็นนิติบุคคลที่เป็นผู้ถือบัญชี ได้แก่ ชื่อ ที่อยู่ รัฐหรือภาคี ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่ และหมายเลขประจาตัวผู้เสียภาษีของนิติบุคคล

(๒) ข้อมูลของผู้มีอำนาจควบคุมในนิติบุคคลตาม (๑) (ข) ซึ่งถูกบ่งชี้ว่าเป็นผู้ที่ต้องถูกรายงาน ได้แก่ ชื่อ ที่อยู่ รัฐหรือภาคีซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่ หมายเลขประจาตัวผู้เสียภาษี และวันเดือนปีเกิด และสถานที่เกิดของผู้ที่ต้องถูกรายงานแต่ละราย

(๓) เลขบัญชี หรือในกรณีที่ไม่มีเลขบัญชี สิ่งอื่นใดที่สามารถใช้แทนเลขบัญชีได้ (๔) ชื่อและหมายเลขที่ใช้ระบุตัวตนของผู้มีหน้าที่รายงาน (๕) ยอดคงเหลือหรือมูลค่าในบัญชี รวมถึงในกรณีของสัญญาประกันภัยมูลค่าเงินสดหรือ สัญญาประกันชีวิตแบบเงินรายปี ได้แก่ มูลค่าเงินสด หรือมูลค่าเวนคืนกรมธรรม์ ณ วันสุดท้าย ของปีปฏิทินที่เกี่ยวข้อง หรือวันที่มีการปิดบัญชีในกรณีที่บัญชีถูกปิดระหว่างปี ทั้งนี้ ในกรณีมีการ ปิดบัญชีระหว่างปีให้ผู้มีหน้าที่รายงานรายงานข้อมูลเป็นศูนย์

(๖) ในกรณีของบัญชีดูแลสินทรัพย์ ได้แก่

(ก) ผลรวมของดอกเบี้ยทั้งหมด ผลรวมของเงินปันผลทั้งหมด และผลรวมของเงินได้อื่นใด ทั้งหมดที่เกิดจากสินทรัพย์ในบัญชี ซึ่งในแต่ละกรณี ดอกเบี้ย เงินปันผล หรือเงินได้อื่นใดดังกล่าว ที่จ่ายหรือเครดิตเข้าบัญชี หรือเกี่ยวเนื่องกับบัญชี ระหว่างปีปฏิทิน และ

(ข) เงินได้รวมทั้งหมดจากการขายหรือไถ่ถอนทรัพย์สินที่จ่ายหรือเครดิตเข้าบัญชี ระหว่างปีปฏิทิน ซึ่งผู้มีหน้าที่รายงานดาเนินการในฐานะผู้รับฝาก นายหน้า ผู้กระทาการแทน หรือตัวแทนอื่นใด สาหรับเจ้าของบัญชี

(๗) ในกรณีของบัญชีเงินฝาก ได้แก่ จานวนรวมของดอกเบี้ยทั้งหมดที่จ่ายหรือเครดิตเข้าบัญชีในระหว่างปีปฏิทิน และ

(๘) ในกรณีของบัญชีใด ๆ นอกจากบัญชีตาม (๖) และ (๗) ได้แก่ จานวนรวมทั้งหมด ที่จ่ายหรือเครดิตให้กับเจ้าของบัญชีซึ่งเกี่ยวเนื่องกับบัญชีดังกล่าวระหว่างปีปฏิทิน ซึ่งผู้มีหน้าที่รายงาน เป็นผู้มีภาระผูกพันหรือเป็นลูกหนี้ รวมถึงการจ่ายเงินค่าไถ่ถอนทั้งหมดที่ต้องจ่ายให้แก่เจ้าของบัญชี ในระหว่างปีปฏิทิน

ข้อ ๒ ให้ผู้มีหน้าที่รายงานระบุสกุลเงินของบัญชี โดยให้รายงานตามหน่วยสกุลเงิน ซึ่งผู้มีหน้าที่รายงานจัดเก็บไว้ในฐานข้อมูลของผู้มีหน้าที่รายงาน ทั้งนี้ ในกรณีที่บัญชีที่ต้องถูกรายงานมีสกุลเงิน ที่ได้จัดเก็บไว้มากกว่าหนึ่งสกุลเงิน ให้ระบุสกุลเงินใดสกุลหนึ่งตามที่ได้มีการบันทึกไว้เพียงสกุลเงินเดียว รวมทั้งระบุสกุลเงินที่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการรายงานด้วย

ข้อ ๓ ผู้มีหน้าที่รายงานอาจดาเนินการส่งข้อมูลตามข้อ ๑ (๑) บางรายการสาหรับกรณี ดังต่อไปนี้

(๑) สาหรับบัญชีที่มีอยู่ ผู้มีหน้าที่รายงานไม่จาเป็นต้องรายงานข้อมูลหมายเลขประจาตัว ผู้เสียภาษี วันเดือนปีเกิด และสถานที่เกิด ก็ได้ หากผู้มีหน้าที่รายงานไม่ได้มีข้อมูลดังกล่าวอยู่ในบันทึก ของผู้มีหน้าที่รายงาน และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ไม่ได้ระบุให้มีข้อมูลดังกล่าวในความครอบครอง อย่างไรก็ตาม ผู้มีหน้าที่รายงานจาเป็นต้องใช้ความพยายามตามสมควรเพื่อให้ได้มาซึ่งหมายเลขประจาตัว ผู้เสียภาษี วันเดือนปีเกิด และสถานที่เกิด ที่เกี่ยวข้องกับบัญชีที่มีอยู่ภายในช่วงเวลาปีปฏิทินที่สอง ถัดจากปีซึ่งบัญชีดังกล่าวถูกระบุเป็นบัญชีที่ต้องถูกรายงาน

(๒) ผู้มีหน้าที่รายงานไม่จาเป็นต้องรายงานหมายเลขประจาตัวผู้เสียภาษี หากคู่สัญญา ที่จะได้รับรายงานไม่มีการออกหมายเลขประจาตัวผู้เสียภาษี หรือกฎหมายภายในของคู่สัญญาที่จะได้รับรายงาน ไม่บังคับให้ต้องมีการรวบรวมหมายเลขประจาตัวผู้เสียภาษีที่ออกโดยคู่สัญญาที่จะได้รับรายงานดังกล่าว

(๓) ผู้มีหน้าที่รายงานไม่จาเป็นต้องรายงานข้อมูลสถานที่เกิดก็ได้ เว้นแต่ผู้มีหน้าที่รายงาน ถูกกำหนดให้ต้องได้มาและรายงานซึ่งสถานที่เกิดตามกฎหมายภายใน และข้อมูลดังกล่าวสามารถสืบค้น ได้จากฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่อยู่ในความครอบครองของผู้ที่มีหน้าที่รายงาน

ข้อ ๔ ในกรณีผู้มีหน้าที่รายงานไม่มีบัญชีที่ต้องถูกรายงานในรอบระยะเวลารายงานใด ผู้มีหน้าที่ รายงานจะรายงานการไม่มีบัญชีที่ต้องถูกรายงานในรอบระยะเวลารายงานนั้นแก่กรมสรรพากรหรือไม่ก็ได้

ข้อ ๕ ให้ผู้มีหน้าที่รายงานส่งข้อมูลตามข้อ ๑ ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทางเว็บไซต์ ของกรมสรรพากร www.rd.go.th โดยมีวิธีการ ดังต่อไปนี้

(๑) เข้าสู่ระบบรายงานข้อมูลบัญชีทางการเงินตามมาตรฐานการรายงานทั่วไป (Common Reporting Standard: CRS) ทางเว็บไซต์ของกรมสรรพากร www.rd.go.th โดยตรง โดยใช้ชื่อผู้ใช้ (Username) และรหัสผ่าน (Password) ที่ได้รับจากการลงทะเบียนเข้าใช้ระบบดังกล่าวของกรมสรรพากร

(๒) ส่งข้อมูลตาม CRS XML Schema ตามที่กำหนดไว้ในมาตรฐานการรายงานข้อมูลทั่วไป (Common Reporting Standard: CRS) และสอดคล้องกับรูปแบบและวิธีการนาเข้าข้อมูลเข้าสู่ระบบ รายงานข้อมูลบัญชีทางการเงินตามมาตรฐานการรายงานทั่วไป (Common Reporting Standard: CRS) ตามแนวทางที่กำหนดไว้บนเว็บไซต์ของกรมสรรพากร www.rd.go.th โดยข้อมูลที่ผู้มีหน้าที่รายงาน ส่งมายังอธิบดีกรมสรรพากรต้องเป็นภาษาอังกฤษ

ทั้งนี้ การส่งข้อมูลจะสมบูรณ์เมื่อผู้มีหน้าที่รายงานนั้นได้รับการแจ้งข้อความจากระบบของกรมสรรพากรในการยืนยันการส่งรายงานข้อมูลบัญชีทางการเงินดังกล่าวสมบูรณ์แล้ว

ข้อ ๖ ผู้มีหน้าที่รายงานอาจแต่งตั้งตัวแทนเพื่อส่งข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีทางการเงินมายัง อธิบดีกรมสรรพากรก็ได้ โดยให้ผู้มีหน้าที่รายงานจัดทาเอกสารหลักฐานอันแสดงถึงการแต่งตั้งตัวแทนเช่นว่านั้น

ให้นาความในข้อ ๑ ถึงข้อ ๕ มาใช้บังคับกับการรายงานข้อมูลบัญชีทางการเงินโดยตัวแทน ตามวรรคหนึ่ง โดยอนุโลม ทั้งนี้ ตัวแทนต้องแจ้งการแต่งตั้งตัวแทนตามวรรคหนึ่งต่ออธิบดีกรมสรรพากร โดยการนาเข้าเอกสารหลักฐานการแต่งตั้งตัวแทนนั้นสู่ระบบรายงานข้อมูลบัญชีทางการเงินตามมาตรฐาน การรายงานทั่วไป (Common Reporting Standard: CRS) และผู้มีหน้าที่รายงานต้องแจ้งการแต่งตั้ง ตัวแทนดังกล่าวบนระบบรายงานข้อมูลบัญชีทางการเงินตามมาตรฐานการรายงานทั่วไป (Common Reporting Standard: CRS) ด้วย เว้นแต่กรณีกองทุนซึ่งมีผู้จัดการเป็นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ให้กองทุนซึ่งเป็นผู้มีหน้าที่รายงานไม่ต้องแจ้งการแต่งตั้งตัวแทนดังกล่าวต่ออธิบดีกรมสรรพากรก็ได้

ข้อ ๗ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ ๑๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๖

ลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร

ที่มา: http://www.rd.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ