ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๔๔๒) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้

ข่าวทั่วไป Wednesday December 20, 2023 15:23 —ข้อบังคับและประกาศภาษีสรรพากร

ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๔๔๒) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้ สำหรับเงินได้เท่าที่จ่ายเป็นค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน อาศัยอำนาจตามความในข้อ ๒ (๑๐๕) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๒๖ (พ.ศ. ๒๕๐๙) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวงฉบับที่ ๓๙๐ (พ.ศ. ๒๕๖๖) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร อธิบดีกรมสรรพากร กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้เท่าที่จ่ายเป็นค่าซื้อ หน่วยลงทุนในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ เงินได้เท่าที่จ่ายเป็นค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนตามกฎหมาย ว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่จะได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ดังนี้

(๑) ผู้มีเงินได้ต้องซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนมีจำนวนรวมกันไม่เกินร้อยละ ๓๐ ของเงินได้พึงประเมินที่ได้รับซึ่งต้องเสียภาษีเงินได้ในปีภาษีนั้น ทั้งนี้ เฉพาะส่วนที่ไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท สำหรับปีภาษีนั้น และได้ซื้อหน่วยลงทุนนั้นในระหว่างวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๖ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๗๕

(๒) ผู้มีเงินได้ต้องถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า ๘ ปี นับตั้งแต่วันซื้อหน่วยลงทุน แต่ไม่รวมถึงกรณีที่ผู้มีเงินได้ไถ่ถอนหน่วยลงทุนในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน เพราะเหตุทุพพลภาพหรือตาย

กรณีทุพพลภาพ ต้องเป็นกรณีที่แพทย์ที่ทางราชการรับรองได้ตรวจและแสดงความเห็นว่า ผู้ถือหน่วยลงทุนทุพพลภาพจนไม่สามารถประกอบอาชีพซึ่งก่อให้เกิดเงินได้ที่จะนำมาซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนได้อีกต่อไป

ข้อ ๒ กรณีผู้มีเงินได้ได้ซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนเกินกว่าหนึ่งกองทุน เงินได้เท่าที่จ่ายเป็นค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนในแต่ละกองทุนที่จะได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ตามข้อ ๑

การซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนตามวรรคหนึ่งต้องมีจำนวนรวมกันไม่เกินร้อยละ ๓๐ ของเงินได้พึงประเมินที่ได้รับซึ่งต้องเสียภาษีเงินได้ในปีภาษีนั้น ทั้งนี้ เฉพาะส่วนที่ไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท สำหรับปีภาษีนั้น

ข้อ ๓ กรณีผู้มีเงินได้ได้ซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน และได้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ตามข้อ ๑ หรือข้อ ๒ แล้ว ต่อมาได้ปฏิบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของข้อ ๑ หรือข้อ ๒ ผู้มีเงินได้หมดสิทธิได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ตามข้อ ๑ หรือข้อ ๒ แต่ไม่รวมถึงกรณีที่ผู้มีเงินได้ไถ่ถอนหน่วยลงทุนในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนเพราะเหตุทุพพลภาพหรือตาย ผู้มีเงินได้ต้องเสียภาษีเงินได้สำหรับปีภาษีที่ได้นำเงินค่าซื้อหน่วยลงทุนไปหักออกจากเงินได้เพื่อยกเว้นภาษีเงินได้มาแล้วที่อยู่ในช่วงระยะเวลา ไม่เกิน ๕ ปีนับตั้งแต่วันที่ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ของปีภาษีนั้น ๆ จนถึงวันที่ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพิ่มเติมเพื่อเสียภาษีเงินได้เพิ่มเติมของปีภาษีดังกล่าว พร้อมเงินเพิ่มตามมาตรา ๒๗ แห่งประมวลรัษฎากร

ในกรณีที่มีการขายหน่วยลงทุนคืนให้แก่กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนซึ่งไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ตามข้อ ๑ หรือข้อ ๒ การคำนวณต้นทุนผลประโยชน์ที่ได้จากการโอนหน่วยลงทุน (capital gain) เพื่อเสียภาษีในกรณีดังกล่าวให้คำนวณโดยวิธีเข้าก่อนออกก่อน (FIFO)

ข้อ ๔ การได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ สำหรับเงินได้เท่าที่จ่ายเป็นค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน ผู้มีเงินได้ต้องแจ้งความประสงค์ที่จะใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ต่อบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมที่ตนได้ซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมที่ได้รับแจ้งความประสงค์ตามวรรคหนึ่งต้องส่งข้อมูลของ ผู้มีเงินได้ต่อกองเทคโนโลยีสารสนเทศ กรมสรรพากร โดยจัดทำขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ตามรูปแบบและนำส่งตามวิธีการที่กำหนดบนเว็บไซต์ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th

การแจ้งและการส่งข้อมูลตามวรรคสอง ให้แจ้งภายในวันที่ ๑๕ มกราคมของปีถัดไป เว้นแต่อธิบดีจะกำหนดเป็นอย่างอื่น

กรณีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมได้แจ้งและส่งข้อมูลตามวรรคสามแล้ว แต่มีความประสงค์จะขอแก้ไข ยกเลิก หรือเพิ่มเติมข้อมูลดังกล่าวนั้น ให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมดังกล่าวแจ้งและส่งข้อมูลผ่านระบบรับข้อมูลค่าซื้อหน่วยลงทุนเกินกำหนดเวลาบนเว็บไซต์ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th

ข้อ ๕ กรณีผู้มีเงินได้ได้โอนการลงทุนในหน่วยลงทุนในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนทั้งหมด หรือบางส่วนไปยังกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนอีกกองทุนหนึ่ง ไม่ว่าจะโอนไปยังกองทุนรวมไทย เพื่อความยั่งยืนกองทุนเดียวหรือหลายกองทุน ผู้มีเงินได้จะต้องโอนการลงทุนไปยังกองทุนรวมไทย เพื่อความยั่งยืนนั้นภายใน ๕ วันทำการนับตั้งแต่วันถัดจากวันที่กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนที่โอนได้รับคำสั่งโอนจากผู้มีเงินได้ จึงจะถือว่าระยะเวลาในการถือหน่วยลงทุนในกรณีดังกล่าวมีระยะเวลาต่อเนื่องกัน

การโอนการลงทุนในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนตามวรรคหนึ่ง กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนที่ได้รับคำสั่งโอนจากผู้มีเงินได้จะต้องจัดทำหนังสือรับรองการโอนหน่วยลงทุนส่งมอบให้แก่กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนที่รับโอนเก็บไว้เป็นหลักฐานพร้อมที่จะให้เจ้าพนักงานประเมินตรวจสอบได้

ข้อ ๖ หนังสือรับรองการโอนหน่วยลงทุนในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนตามข้อ ๕ ต้องจัดทำเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ แต่ถ้าทำเป็นภาษาต่างประเทศอื่นต้องมีคำแปลภาษาไทยกำกับด้วย ส่วนตัวเลขให้ใช้เลขไทย หรือเลขอารบิคโดยมีข้อความอย่างน้อยตามแบบที่แนบท้ายประกาศนี้

การลงลายมือชื่อของผู้มีหน้าที่ออกหนังสือรับรองการโอนหน่วยลงทุนในกองทุนรวมไทย เพื่อความยั่งยืนตามวรรคหนึ่ง จะใช้วิธีประทับลายมือชื่อผู้มีหน้าที่ออกหนังสือรับรองดังกล่าวด้วยตรายาง หรือจะพิมพ์ลายมือชื่อผู้มีหน้าที่ออกหนังสือรับรองโดยเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ได้มีการเก็บลายมือชื่อไว้ (SCAN) ก็ได้

ข้อ ๗ การได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ตามประกาศนี้ ให้ผู้มีเงินได้นำเงินได้ที่ได้รับยกเว้นภาษี ไปคำนวณหักจากเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐ แห่งประมวลรัษฎากร เมื่อได้หักตามมาตรา ๔๒ ทวิ ถึงมาตรา ๔๖ แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว

ข้อ ๘ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่วันที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๖ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๗๕ เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ ๒๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๖

                                                      กุลยา ตันติเตมิท          (นางสาวกุลยา ตันติเตมิท)

อธิบดีกรมสรรพากร ที่มา: http://www.rd.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ