ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ ระหว่าง 27 กรกฎาคม 2550 - 02 สิงหาคม 2550
ภาคเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองกระจายและลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ในช่วงวันที่ 30 ก.ค. — 2 ส.ค. จะมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับข้าวนาปีที่กำลังแตกกอในระยะนี้ ชาวนาควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชต่างๆ เช่น หนอนกอและหนอนห่อใบข้าว ส่วนลำไยที่กำลังให้ผลผลิต อาจมีการระบาดของโรคผลเน่าและผีเสื้อมวนหวาน ซึ่งจะทำให้ผลผลิตเสียหายได้
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย กับมีฝนตกหนัก และลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ในช่วงวันที่ 30 ก.ค. — 2 ส.ค. จะมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับไม้ผล เช่น องุ่น และน้อยหน่า ชาวสวนควรกำจัดวัชพืชบริเวณสวนให้โล่งเตียน อากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อลดการระบาดของเชื้อรา ส่วนผู้ที่ปลูกพืชไร่ เช่น ข้าวโพดและถั่วชนิดต่างๆ ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนชนิดต่างๆ
ภาคกลาง
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และลมกระโชกแรงบางพื้นที่ส่วนมากทางตะวันตกของภาค ในช่วงวันที่ 30 ก.ค. — 2 ส.ค. จะมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับบริเวณที่มีฝนตกเกษตรกรควรเก็บกักน้ำฝนไว้ใช้ด้วย ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรปรับปรุงโรงเรือนให้ปลอดความอับชื้นซึ่งจะเป็นสาเหตุให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเจ็บป่วยได้ง่าย
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางพื้นที่ส่วนมาก ตามบริเวณเทือกเขาและชายฝั่ง ในช่วงวันที่ 30 ก.ค. — 2 ส.ค. จะมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปและ มีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับพื้นที่การเกษตรซึ่งเป็นที่ลุ่มเกษตรกรควรทำทางระบายน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วมขังโดยเฉพาะสวนผลไม้ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการระบาดของโรครากเน่าและโคนเน่าได้ ส่วน ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรกั้นขอบบ่อให้สูงขึ้นเพื่อป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว อนึ่ง ในช่วงวันที่ 30 ก.ค. — 2 ส.ค.บริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวัง ในการเดินเรือ
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไปตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรป้องกันความเสียหายเนื่องจากสภาวะฝนตกหนักด้วย นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของ โรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคยอดเน่าหรือต้นเน่าในสับปะรด และโรคราสีชมพูในทุเรียน เป็นต้น อนึ่ง ในช่วงวันที่ 30 ก.ค. — 2 ส.ค.บริเวณทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-