ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ ระหว่าง 13 กรกฎาคม 2550 - 19 กรกฎาคม 2550 ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางด้านตะวันตก ของภาค ในช่วงวันที่ 16 -19 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ สำหรับลำไยที่กำลังให้ผลผลิต ชาวสวนควรตรวจสอบวัสดุที่ใช้ค้ำยันกิ่งให้แข็งแรงยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันการหักโค่น รวมทั้งให้ระวังหนอนเจาะขั้วผลที่อาจจะระบาดในบางพื้นที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย และมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ส่วนมากทางตอนบนของภาค ชาวนาที่กำลังปักดำข้าวควรระวังการระบาดของโรคใบไหม้ ส่วนข้าวโพดที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางลำต้นควรระวังโรคใบไหม้และโรคราน้ำค้าง และในช่วงวันที่ 16-19 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ สำหรับบริเวณที่มีฝนตกน้อยชาวนาควรระวังการระบาดของเพลี้ยไฟ ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย กับลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ส่วนมากทางตะวันตกของภาค ในช่วงวันที่ 16-19 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลรักษาโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกเพื่อลดความอับชื้นภายในโรงเรือน ที่อาจเป็นสาเหตุทำให้สัตว์เลี้ยงเจ็บป่วยได้ง่าย ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่งกับลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดจันทบุรีและตราด ในช่วงวันที่ 16 -19 ก.ค.มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ เกษตรกรที่ปลูกพืชผักในระยะนี้ควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ส่วนไม้ผลที่เก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว เช่น เงาะ มังคุด ทุเรียน ชาวสวนควรทำความสะอาดสวนโดยจำกัดเปลือกและผลเน่า ไม่ควรกองสุมไว้ในบริเวณสวน เพราะอาจกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคในสภาพอากาศที่มีความชื้นสูงเช่นนี้ได้ อนึ่ง ในช่วงวันที่ 13-15 ก.ค. บริเวณอ่าวไทยบริเวณห่างฝั่งมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 16-19 ก.ค.มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ในช่วงที่มีฝนตกหนัก เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่การเกษตร เพราะหากมีน้ำท่วมขังจะทำให้รากพืชขาดอากาศและตายได้ ส่วนชาวสวนไม้ผลควรระวังและป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรครากเน่าในทุเรียน อนึ่ง ในช่วงวันที่ 13-15 ก.ค. บริเวณอ่าวไทยบริเวณห่างฝั่งและทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74-สส-