ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. ธปท. ระบุหากการควบรวมกิจการของสถาบันการเงินเรียบร้อยจะสามารถรองรับการเป็นธนาคารครบวงจร ผู้
ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า หากการควบรวมกิจการระหว่าง ธ.ไทยธนาคาร และบรรษัทเงินทุน
อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ไอเอฟซีที) เสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้แล้วจะทำให้ ธพ. ของไทยมีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะสามารถรอง
รับการเป็นธนาคารครบวงจร ตามแผนการพัฒนาระบบสถาบันการเงินของไทยโดยไม่มีความจำเป็นต้องควบรวมกิจการอื่นเพิ่มเติม
อีก ซึ่งขณะนี้ความคืบหน้าในการควบรวมกิจการของทั้งสองสถาบันยังไม่แน่ใจว่าจำเป็นต้องออกกฎหมายใหม่หรือไม่ เนื่องจาก
พระราชกฤษฎีกาไม่ได้มีข้อกำหนดในเรื่องการควบรวม แต่ต้องการดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น ซึ่งขณะนี้นักกฎหมาย
ของ ธปท. และ ก.คลังอยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางที่ดีที่สุด และคาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน (ข่าวสด, กรุงเทพธุรกิจ, โลกวันนี้,
แนวหน้า, บ้านเมือง)
2. กรมสรรพสามิตสามารถจัดเก็บรายได้ได้สูงถึง 2.4 แสน ล.บาท ในปีงบประมาณ 46 อธิบดีกรมสรรพสามิต
เปิดเผยถึงผลการจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตในปีงบประมาณ 46 ว่าสามารถจัดเก็บได้ประมาณ 2.4 แสน ล.บาท สูงกว่า
ประมาณการถึง 4 หมื่น ล.บาท หรือ 20.01% สำหรับสินค้าที่มียอดการเก็บภาษีสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ภาษีน้ำมันและ
ผลิตภัณฑ์น้ำมันเก็บได้ 7.35 หมื่น ล.บาท สูงกว่าประมาณการ 6.29 พัน ล.บาท หรือ 9.35% ภาษีรถยนต์ 5.63 หมื่น ล.บาท
สูงกว่าประมาณการ 2.32 หมื่น ล.บาท หรือ 69.95% ภาษีเบียร์ 3.70 หมื่น ล.บาท สูงกว่าประมาณการ 2.64 พัน ล.บาท
หรือ 7.68% ภาษียาสูบ 3.32 หมื่น ล.บาท ต่ำกว่าประมาณการ 785 ล.บาท หรือ 2.31% และภาษีสุรา 2.57 หมื่น ล.บาท
สูงกว่าประมาณการ 7 พัน ล.บาท หรือ 38.01% (ข่าวสด, โลกวันนี้, มติชน)
3. หอการค้าไทยระบุค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นทำให้สินค้าบางรายการได้รับผลกระทบ ประธานหอการค้าไทย เปิดเผยว่า
การที่ค่าเงินได้ปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 39 บาท/ดอลลาร์ไม่ได้ทำให้ผู้ผลิตสินค้าสามารถนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งใช้เป็นวัตถุดิบใน
การผลิตสินค้าถูกลง เนื่องจากในช่วงเดียวกับที่กลุ่มโอเปคประกาศลดกำลังการผลิต โดยจากการหารือเบื้องต้นพบว่ามี
อุตสาหกรรมส่งออก 6 ชนิดได้รับผลกระทบต่อการส่งออก ได้แก่ ข้าว อาหาร อัญมณีและเครื่องประดับ สิ่งทอ เครื่องหนังและ
พลาสติก ทั้งนี้ จากการประชุมได้จัดทำข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลโดยมีสาระสำคัญคือ 1) ต้องการให้รัฐบาลเข้าดูแลค่าเงินอย่าง
ใกล้ชิด และ 2) รัฐบาลควรดูแลเรื่องการให้ผู้ส่งออกซื้อเงินล่วงหน้า (ฟอร์เวิร์ด) และสว๊อปเพื่อประกันความเสี่ยง รวมทั้ง
ควรช่วยรับผิดชอบค่าธรรมเนียมด้วย ซึ่งค่าเงินบาทที่เหมาะสมควรอยู่ที่ระดับ 40 บาท/ดอลลาร์ สรอ. (ข่าวสด, สยามรัฐ,
แนวหน้า, บ้านเมือง)
4. ไทยลงนามความตกลงจัดตั้งเขตการค้าเสรีไทย-อินเดีย นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการเป็นสักขีพยานลง
นามความตกลงจัดตั้งเขตการค้าเสรีไทย-อินเดีย (เอฟทีเอ) ว่า การลงนามในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าค้าขายและขยายตลาดสินค้า
ระหว่างไทย-อินเดีย โดยคาดว่าในปี 47 มูลค่าการค้าของทั้งสองประเทศจะเพิ่มเป็น 2 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. หรือ 8 หมื่น
ล.บาท จากปัจจุบัน 1 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. หรือ 4 หมื่น ล.บาท ภายใต้กรอบความร่วมมือจะครอบคลุมการเปิดเสรีสินค้า
บริการและการลงทุน โดยในส่วนสินค้าตั้งเป้าหมาลดภาษีศุลกากรลงเหลือ 0% พร้อมลดหรือยกเลิกข้อกีดกันที่ไม่ใช่ภาษีภายในปี 53
และในเดือน มี.ค.47 จะเริ่มลดภาษีสินค้า 84 รายการ และจะทยอยลดเหลือ 0% ในเดือน มี.ค. 49 (ไทยรัฐ, สยามรัฐ, ผู้
จัดการรายวัน)
5. ธ.กรุงไทยเปิดจองหุ้นวันแรกขายได้จำนวน 604.14 ล้านหุ้น รมว.คลังในฐานะกรรมการบริหาร ธ.กรุงไทย
เปิดเผยว่า ในวันแรก (9 ต.ค. 46) ที่ธนาคารได้เปิดให้นักลงทุนรายย่อยจองซื้อหุ้นจำนวน 500 ล้านหุ้น บวกกับหุ้นที่กองทุนเพื่อ
การฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินจัดสรรเพิ่มอีกจำนวน 100 ล้านหุ้น รวมทั้งสิ้น 600 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 8.50 บาทนั้น
ปรากฎว่ามีนักลงทุนจองซื้อเข้ามาทั้งสิ้น 604.14 ล้านหุ้น สูงกว่ายอดที่จัดสรรให้เล็กน้อย ธนาคารจึงได้ปิดการจองซื้อ และจะมี
การสุ่มเลือก (Random) ในวันที่ 13 ต.ค.46 นี้ (กรุงเทพธุรกิจ, โลกวันนี้, สยามรัฐ, แนวหน้า)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของ สรอ.ลดลงในสัปดาห์ก่อน รายงานจาก วอชิงตัน เมื่อ 9 ต.ค.46
ก.แรงงาน สรอ. เปิดเผยว่า สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 4 ต.ค.46 ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงจำนวน 23,000 คน อยู่ที่
ระดับ 382,000 คน จากระดับ 405,000 คน ในสัปดาห์ก่อน (ตัวเลขหลังปรับฤดูกาล) ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 8 เดือน
ส่วนตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการฯ เฉลี่ย 4 สัปดาห์ลดลงจำนวน 11,500 คน โดยอยู่ที่ระดับ 393,500 คน นับเป็นครั้งแรกใน
รอบ 6 สัปดาห์ที่ลดลงต่ำกว่าระดับ 400,000 คน ซึ่งนักวิเคราะห์เห็นว่าตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่อยู่เหนือ
ระดับ 400,000 คนนั้น เป็นสัญญาณว่าตลาดแรงงานเริ่มชะลอตัว ในขณะที่ถ้าตัวเลขต่ำกว่าระดับดังกล่าวจะเป็นสัญญาณว่า
ตลาดแรงงานเริ่มมีการปรับตัวดีขึ้น (รอยเตอร์)
2. อัตราดอกเบี้ยจำนองระยะ 15 ปี และ 30 ปี ของ สรอ.เพิ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รายงานจากวอชิงตัน เมื่อ 9
ต.ค.46 Freddie Mac เปิดเผยว่า จากการฟื้นตัวดีขึ้นของตลาดแรงงานใน สรอ.เมื่อสัปดาห์ก่อนที่ ก.แรงงานรายงานนั้น ส่ง
ผลให้อัตราดอกเบี้ยจำนองระยะ 30 ปีในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 10 ต.ค.46 เฉลี่ยอยู่ที่ระดับร้อยละ 5.95 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5.77
ในสัปดาห์ก่อนหน้า หลังจากที่ลดลงต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ และลดลงต่ำที่สุดที่ระดับร้อยละ 5.67 เมื่อสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 18 ก.ค.46
ส่วนอัตราดอกเบี้ยจำนองระยะ 15 ปี เฉลี่ยอยู่ที่ระดับร้อยละ 5.26 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5.10 ในสัปดาห์ก่อน ขณะที่อัตราดอกเบี้ย
1 ปีที่สามารถปรับได้ (AMR) มีทิศทางที่แตกต่างจากอัตราดอกเบี้ยประเภทอื่น คือ ลดลงเหลือร้อยละ 3.69 จากร้อยละ 3.72
ในสัปดาห์ก่อน ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยฯ ช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ทั้งอัตราดอกเบี้ยระยะ 30 ปี ระยะ 15 ปี และ ARM เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ
ร้อยละ 5.98 5.34 และ 4.23 ตามลำดับ ส่วนค่าธรรมเนียมในการกู้ยืมเฉลี่ยอยู่ที่ระดับร้อยละ 0.6 สำหรับการจำนองทั้ง 3
ประเภท ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อน (รอยเตอร์)
3. ธนาคารกลางอังกฤษจะยังคงอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร (repo rate) ในระดับร้อยละ 3.5 ต่อไป รายงาน
จากลอนดอน เมื่อ 9 ต.ค.46 ธนาคารกลางอังกฤษจะยังคงอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรไว้ในระดับร้อยละ 3.5 ซึ่งเป็นระดับต่ำ
สุดในรอบ 48 ปีต่อไป ซึ่งก็ไปตามการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ หลังจากที่เมื่อเดือน ก.ค.46 ธนาคารกลางได้ปรับลดไป
ร้อยละ 0.25 เพื่อกระตุ้นภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่ชะลอตัว โดยตั้งแต่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ข้อมูลทางเศรษฐกิจโดยทั่วไปชี้ให้
เห็นว่าเศรษฐกิจแข็งแกร่งขึ้น แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขภาคอุตสาหกรรมการผลิตที่ประกาศใน
สัปดาห์นี้ที่ยังคงหดตัว ส่งผลให้ความคาดหวังที่จะเห็นอัตราดอกเบี้ยขยับสูงขึ้นในระยะสั้นนั้นเป็นไปได้ยากขึ้น (รอยเตอร์)
4. ผลผลิตอุตสาหกรรมของเยอรมนีในเดือน ส.ค.46 ลดลงร้อยละ 2.5 เทียบต่อเดือน รายงานจากเบอร์ลิน เมื่อ 9
ต.ค.46 ก.เศรษฐกิจและแรงงาน เปิดเผยว่า ผลผลิตอุตสาหกรรม (ตัวเลขหลังปรับฤดูกาล) ของเยอรมนีในเดือน ส.ค.46 ซึ่ง
รวมผลผลิตโรงงาน พลังงาน และการก่อสร้าง ลดลงร้อยละ 2.5 เทียบกับที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.8 ในเดือน ก.ค.46 และเป็นการ
ลดลงเกินความคาดหมายของนักเศรษฐศาสตร์ซึ่งคาดว่าจะลดลงร้อยละ 1.3 ขณะที่เมื่อเทียบต่อปีลดลงร้อยละ 1.9 ทั้งนี้ การที่ผล
ผลิตอุตสาหกรรมลดลงดังกล่าว เป็นผลจากการที่ชาวเยอรมนีส่วนใหญ่เดินทางท่องเที่ยวเนื่องจากเป็นเดือนที่มีวันหยุดตรงกัน (รอย
เตอร์)
5. เดือน ส.ค.46 ญี่ปุ่นเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.6 เทียบต่อปี รายงานจากโตเกียว เมื่อ 9 ต.ค.46
ก.คลังญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นในเดือน ส.ค.46 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.6 เป็นจำนวน 1.4428 ล้าน
ล้านเยน (13.17 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ.) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการเพิ่มขึ้นสูงกว่าการคาดหมายของนัก
เศรษฐศาสตร์ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 24 ขณะที่ยอดเกินดุลการค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.3 เป็นจำนวน 954.1 พัน ล.เยน โดย
การส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.7 เป็นจำนวน 4.1021 ล้านล้านเยน และการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.2 เป็นจำนวน 3.1480 ล้าน
ล้านเยน ซึ่งการส่งออกที่เพิ่มขึ้นสนับสนุนความหวังที่ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะฟื้นตัวจากภาวะซบเซาในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม
การที่เงินเยนแข็งค่าขึ้นในช่วงเดือน ก.ย.46 อาจเป็นอุปสรรคต่อฟื้นตัวของการส่งออก (รอยเตอร์)
6. เงินให้กู้ยืมของธนาคารพาณิชย์ในญี่ปุ่นในเดือน ก.ย.46 ลดลงร้อยละ 5.0 เทียบต่อปี รายงานจากโตเกียว เมื่อ
10 ต.ค.46 ธนาคารกลางญี่ปุ่น เปิดเผยว่า เงินให้กู้ยืมของธนาคารพาณิชย์ในญี่ปุ่นในเดือน ก.ย.46 ลดลงร้อยละ 5.0 เทียบต่อปี
ซึ่งลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 69 และจำนวนเงินให้กู้ยืมทั้งหมดของ 3 ธนาคารหลักในญี่ปุ่น (รวมถึง city banks) มีจำนวนทั้งสิ้น
399.69 ล้านล้านเยน (3.66 ล้านล้านดอลลาร์ สรอ.) ในเดือน ก.ย.46 และหากรวม shinkin banks หรือ สหกรณ์ออม
ทรัพย์ จะมีจำนวนเงินให้กู้ยืมลดลงร้อยละ 4.4 ที่ระดับ 461.74 ล้านล้านเยน สำหรับเงินให้กู้ยืมของธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ
ในญี่ปุ่นมีจำนวน 6.36 ล้านล้านเยน หรือลดลงร้อยละ 14.9 เทียบต่อปี (รอยเตอร์)
7. เศรษฐกิจสิงคโปร์เริ่มฟื้นตัวในไตรมาสที่ 3 ปี 46 รายงานจากสิงคโปร์ เมื่อ 10 ต.ค.46 เศรษฐกิจสิงคโปร์ใน
ไตรมาสที่ 3 ปี 46 ขยายตัวเร็วสุดนับตั้งแต่ปี 40 หลังจากหดตัวมากสุดในไตรมาสก่อนหน้าจากการระบาดของโรคไข้หวัด SARS
โดยขยายตัวร้อยละ 15 เมื่อเทียบต่อปี และร้อยละ 1.0 เมื่อนับตั้งแต่ต้นปี แต่ยังต่ำกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้จากผลสำรวจความ
เห็นของนักเศรษฐศาสตร์โดยรอยเตอร์ว่าจะขยายตัวร้อยละ 16 เมื่อเทียบต่อปี และร้อยละ 1.4 เมื่อนับตั้งแต่ต้นปี โดยผลผลิต
อุตสาหกรรมขยายตัวสูงสุดร้อยละ 2.5 นับตั้งแต่ต้นปี และขยายตัวร้อยละ 17.8 ในเดือน ส.ค.46 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
โดยเกือบทั้งหมดมาจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมยาซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 15 ของผลผลิตอุตสาหกรรมทั้งหมด แต่จากการที่
อุตสาหกรรมยามีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เศรษฐกิจมีความเปราะบางและเกรงว่าการขยายตัวอาจไม่ยั่งยืน รัฐบาล
สิงคโปร์ได้ปรับลดการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 46 เหลือร้อยละ 0 ถึง 1.0 จากที่คาดไว้ก่อนหน้าว่าจะขยายตัวร้อยละ 0.5 ถึง
2.5 (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 10/10/46 9/10/46 27/12/45 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 39.264 43.24 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 39.0977/39.3838 42.9993/43.3039 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 1.25 1.8750-1.9375 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 573.63/27.75 356.48/3.27 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 6,900/7,000 7,000/7,100 7,000/7,100 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 28.07 26.63 27.65 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับเพิ่ม 30 ส.ต./ลิตร เมื่อ 8 ต.ค.46 16.09/13.59 16.09/13.59 16.19/14.29 ปตท.
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. ธปท. ระบุหากการควบรวมกิจการของสถาบันการเงินเรียบร้อยจะสามารถรองรับการเป็นธนาคารครบวงจร ผู้
ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า หากการควบรวมกิจการระหว่าง ธ.ไทยธนาคาร และบรรษัทเงินทุน
อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ไอเอฟซีที) เสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้แล้วจะทำให้ ธพ. ของไทยมีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะสามารถรอง
รับการเป็นธนาคารครบวงจร ตามแผนการพัฒนาระบบสถาบันการเงินของไทยโดยไม่มีความจำเป็นต้องควบรวมกิจการอื่นเพิ่มเติม
อีก ซึ่งขณะนี้ความคืบหน้าในการควบรวมกิจการของทั้งสองสถาบันยังไม่แน่ใจว่าจำเป็นต้องออกกฎหมายใหม่หรือไม่ เนื่องจาก
พระราชกฤษฎีกาไม่ได้มีข้อกำหนดในเรื่องการควบรวม แต่ต้องการดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น ซึ่งขณะนี้นักกฎหมาย
ของ ธปท. และ ก.คลังอยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางที่ดีที่สุด และคาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน (ข่าวสด, กรุงเทพธุรกิจ, โลกวันนี้,
แนวหน้า, บ้านเมือง)
2. กรมสรรพสามิตสามารถจัดเก็บรายได้ได้สูงถึง 2.4 แสน ล.บาท ในปีงบประมาณ 46 อธิบดีกรมสรรพสามิต
เปิดเผยถึงผลการจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตในปีงบประมาณ 46 ว่าสามารถจัดเก็บได้ประมาณ 2.4 แสน ล.บาท สูงกว่า
ประมาณการถึง 4 หมื่น ล.บาท หรือ 20.01% สำหรับสินค้าที่มียอดการเก็บภาษีสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ภาษีน้ำมันและ
ผลิตภัณฑ์น้ำมันเก็บได้ 7.35 หมื่น ล.บาท สูงกว่าประมาณการ 6.29 พัน ล.บาท หรือ 9.35% ภาษีรถยนต์ 5.63 หมื่น ล.บาท
สูงกว่าประมาณการ 2.32 หมื่น ล.บาท หรือ 69.95% ภาษีเบียร์ 3.70 หมื่น ล.บาท สูงกว่าประมาณการ 2.64 พัน ล.บาท
หรือ 7.68% ภาษียาสูบ 3.32 หมื่น ล.บาท ต่ำกว่าประมาณการ 785 ล.บาท หรือ 2.31% และภาษีสุรา 2.57 หมื่น ล.บาท
สูงกว่าประมาณการ 7 พัน ล.บาท หรือ 38.01% (ข่าวสด, โลกวันนี้, มติชน)
3. หอการค้าไทยระบุค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นทำให้สินค้าบางรายการได้รับผลกระทบ ประธานหอการค้าไทย เปิดเผยว่า
การที่ค่าเงินได้ปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 39 บาท/ดอลลาร์ไม่ได้ทำให้ผู้ผลิตสินค้าสามารถนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งใช้เป็นวัตถุดิบใน
การผลิตสินค้าถูกลง เนื่องจากในช่วงเดียวกับที่กลุ่มโอเปคประกาศลดกำลังการผลิต โดยจากการหารือเบื้องต้นพบว่ามี
อุตสาหกรรมส่งออก 6 ชนิดได้รับผลกระทบต่อการส่งออก ได้แก่ ข้าว อาหาร อัญมณีและเครื่องประดับ สิ่งทอ เครื่องหนังและ
พลาสติก ทั้งนี้ จากการประชุมได้จัดทำข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลโดยมีสาระสำคัญคือ 1) ต้องการให้รัฐบาลเข้าดูแลค่าเงินอย่าง
ใกล้ชิด และ 2) รัฐบาลควรดูแลเรื่องการให้ผู้ส่งออกซื้อเงินล่วงหน้า (ฟอร์เวิร์ด) และสว๊อปเพื่อประกันความเสี่ยง รวมทั้ง
ควรช่วยรับผิดชอบค่าธรรมเนียมด้วย ซึ่งค่าเงินบาทที่เหมาะสมควรอยู่ที่ระดับ 40 บาท/ดอลลาร์ สรอ. (ข่าวสด, สยามรัฐ,
แนวหน้า, บ้านเมือง)
4. ไทยลงนามความตกลงจัดตั้งเขตการค้าเสรีไทย-อินเดีย นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการเป็นสักขีพยานลง
นามความตกลงจัดตั้งเขตการค้าเสรีไทย-อินเดีย (เอฟทีเอ) ว่า การลงนามในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าค้าขายและขยายตลาดสินค้า
ระหว่างไทย-อินเดีย โดยคาดว่าในปี 47 มูลค่าการค้าของทั้งสองประเทศจะเพิ่มเป็น 2 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. หรือ 8 หมื่น
ล.บาท จากปัจจุบัน 1 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. หรือ 4 หมื่น ล.บาท ภายใต้กรอบความร่วมมือจะครอบคลุมการเปิดเสรีสินค้า
บริการและการลงทุน โดยในส่วนสินค้าตั้งเป้าหมาลดภาษีศุลกากรลงเหลือ 0% พร้อมลดหรือยกเลิกข้อกีดกันที่ไม่ใช่ภาษีภายในปี 53
และในเดือน มี.ค.47 จะเริ่มลดภาษีสินค้า 84 รายการ และจะทยอยลดเหลือ 0% ในเดือน มี.ค. 49 (ไทยรัฐ, สยามรัฐ, ผู้
จัดการรายวัน)
5. ธ.กรุงไทยเปิดจองหุ้นวันแรกขายได้จำนวน 604.14 ล้านหุ้น รมว.คลังในฐานะกรรมการบริหาร ธ.กรุงไทย
เปิดเผยว่า ในวันแรก (9 ต.ค. 46) ที่ธนาคารได้เปิดให้นักลงทุนรายย่อยจองซื้อหุ้นจำนวน 500 ล้านหุ้น บวกกับหุ้นที่กองทุนเพื่อ
การฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินจัดสรรเพิ่มอีกจำนวน 100 ล้านหุ้น รวมทั้งสิ้น 600 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 8.50 บาทนั้น
ปรากฎว่ามีนักลงทุนจองซื้อเข้ามาทั้งสิ้น 604.14 ล้านหุ้น สูงกว่ายอดที่จัดสรรให้เล็กน้อย ธนาคารจึงได้ปิดการจองซื้อ และจะมี
การสุ่มเลือก (Random) ในวันที่ 13 ต.ค.46 นี้ (กรุงเทพธุรกิจ, โลกวันนี้, สยามรัฐ, แนวหน้า)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของ สรอ.ลดลงในสัปดาห์ก่อน รายงานจาก วอชิงตัน เมื่อ 9 ต.ค.46
ก.แรงงาน สรอ. เปิดเผยว่า สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 4 ต.ค.46 ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงจำนวน 23,000 คน อยู่ที่
ระดับ 382,000 คน จากระดับ 405,000 คน ในสัปดาห์ก่อน (ตัวเลขหลังปรับฤดูกาล) ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 8 เดือน
ส่วนตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการฯ เฉลี่ย 4 สัปดาห์ลดลงจำนวน 11,500 คน โดยอยู่ที่ระดับ 393,500 คน นับเป็นครั้งแรกใน
รอบ 6 สัปดาห์ที่ลดลงต่ำกว่าระดับ 400,000 คน ซึ่งนักวิเคราะห์เห็นว่าตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่อยู่เหนือ
ระดับ 400,000 คนนั้น เป็นสัญญาณว่าตลาดแรงงานเริ่มชะลอตัว ในขณะที่ถ้าตัวเลขต่ำกว่าระดับดังกล่าวจะเป็นสัญญาณว่า
ตลาดแรงงานเริ่มมีการปรับตัวดีขึ้น (รอยเตอร์)
2. อัตราดอกเบี้ยจำนองระยะ 15 ปี และ 30 ปี ของ สรอ.เพิ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รายงานจากวอชิงตัน เมื่อ 9
ต.ค.46 Freddie Mac เปิดเผยว่า จากการฟื้นตัวดีขึ้นของตลาดแรงงานใน สรอ.เมื่อสัปดาห์ก่อนที่ ก.แรงงานรายงานนั้น ส่ง
ผลให้อัตราดอกเบี้ยจำนองระยะ 30 ปีในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 10 ต.ค.46 เฉลี่ยอยู่ที่ระดับร้อยละ 5.95 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5.77
ในสัปดาห์ก่อนหน้า หลังจากที่ลดลงต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ และลดลงต่ำที่สุดที่ระดับร้อยละ 5.67 เมื่อสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 18 ก.ค.46
ส่วนอัตราดอกเบี้ยจำนองระยะ 15 ปี เฉลี่ยอยู่ที่ระดับร้อยละ 5.26 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5.10 ในสัปดาห์ก่อน ขณะที่อัตราดอกเบี้ย
1 ปีที่สามารถปรับได้ (AMR) มีทิศทางที่แตกต่างจากอัตราดอกเบี้ยประเภทอื่น คือ ลดลงเหลือร้อยละ 3.69 จากร้อยละ 3.72
ในสัปดาห์ก่อน ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยฯ ช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ทั้งอัตราดอกเบี้ยระยะ 30 ปี ระยะ 15 ปี และ ARM เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ
ร้อยละ 5.98 5.34 และ 4.23 ตามลำดับ ส่วนค่าธรรมเนียมในการกู้ยืมเฉลี่ยอยู่ที่ระดับร้อยละ 0.6 สำหรับการจำนองทั้ง 3
ประเภท ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อน (รอยเตอร์)
3. ธนาคารกลางอังกฤษจะยังคงอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร (repo rate) ในระดับร้อยละ 3.5 ต่อไป รายงาน
จากลอนดอน เมื่อ 9 ต.ค.46 ธนาคารกลางอังกฤษจะยังคงอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรไว้ในระดับร้อยละ 3.5 ซึ่งเป็นระดับต่ำ
สุดในรอบ 48 ปีต่อไป ซึ่งก็ไปตามการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ หลังจากที่เมื่อเดือน ก.ค.46 ธนาคารกลางได้ปรับลดไป
ร้อยละ 0.25 เพื่อกระตุ้นภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่ชะลอตัว โดยตั้งแต่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ข้อมูลทางเศรษฐกิจโดยทั่วไปชี้ให้
เห็นว่าเศรษฐกิจแข็งแกร่งขึ้น แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขภาคอุตสาหกรรมการผลิตที่ประกาศใน
สัปดาห์นี้ที่ยังคงหดตัว ส่งผลให้ความคาดหวังที่จะเห็นอัตราดอกเบี้ยขยับสูงขึ้นในระยะสั้นนั้นเป็นไปได้ยากขึ้น (รอยเตอร์)
4. ผลผลิตอุตสาหกรรมของเยอรมนีในเดือน ส.ค.46 ลดลงร้อยละ 2.5 เทียบต่อเดือน รายงานจากเบอร์ลิน เมื่อ 9
ต.ค.46 ก.เศรษฐกิจและแรงงาน เปิดเผยว่า ผลผลิตอุตสาหกรรม (ตัวเลขหลังปรับฤดูกาล) ของเยอรมนีในเดือน ส.ค.46 ซึ่ง
รวมผลผลิตโรงงาน พลังงาน และการก่อสร้าง ลดลงร้อยละ 2.5 เทียบกับที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.8 ในเดือน ก.ค.46 และเป็นการ
ลดลงเกินความคาดหมายของนักเศรษฐศาสตร์ซึ่งคาดว่าจะลดลงร้อยละ 1.3 ขณะที่เมื่อเทียบต่อปีลดลงร้อยละ 1.9 ทั้งนี้ การที่ผล
ผลิตอุตสาหกรรมลดลงดังกล่าว เป็นผลจากการที่ชาวเยอรมนีส่วนใหญ่เดินทางท่องเที่ยวเนื่องจากเป็นเดือนที่มีวันหยุดตรงกัน (รอย
เตอร์)
5. เดือน ส.ค.46 ญี่ปุ่นเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.6 เทียบต่อปี รายงานจากโตเกียว เมื่อ 9 ต.ค.46
ก.คลังญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นในเดือน ส.ค.46 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.6 เป็นจำนวน 1.4428 ล้าน
ล้านเยน (13.17 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ.) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการเพิ่มขึ้นสูงกว่าการคาดหมายของนัก
เศรษฐศาสตร์ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 24 ขณะที่ยอดเกินดุลการค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.3 เป็นจำนวน 954.1 พัน ล.เยน โดย
การส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.7 เป็นจำนวน 4.1021 ล้านล้านเยน และการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.2 เป็นจำนวน 3.1480 ล้าน
ล้านเยน ซึ่งการส่งออกที่เพิ่มขึ้นสนับสนุนความหวังที่ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะฟื้นตัวจากภาวะซบเซาในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม
การที่เงินเยนแข็งค่าขึ้นในช่วงเดือน ก.ย.46 อาจเป็นอุปสรรคต่อฟื้นตัวของการส่งออก (รอยเตอร์)
6. เงินให้กู้ยืมของธนาคารพาณิชย์ในญี่ปุ่นในเดือน ก.ย.46 ลดลงร้อยละ 5.0 เทียบต่อปี รายงานจากโตเกียว เมื่อ
10 ต.ค.46 ธนาคารกลางญี่ปุ่น เปิดเผยว่า เงินให้กู้ยืมของธนาคารพาณิชย์ในญี่ปุ่นในเดือน ก.ย.46 ลดลงร้อยละ 5.0 เทียบต่อปี
ซึ่งลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 69 และจำนวนเงินให้กู้ยืมทั้งหมดของ 3 ธนาคารหลักในญี่ปุ่น (รวมถึง city banks) มีจำนวนทั้งสิ้น
399.69 ล้านล้านเยน (3.66 ล้านล้านดอลลาร์ สรอ.) ในเดือน ก.ย.46 และหากรวม shinkin banks หรือ สหกรณ์ออม
ทรัพย์ จะมีจำนวนเงินให้กู้ยืมลดลงร้อยละ 4.4 ที่ระดับ 461.74 ล้านล้านเยน สำหรับเงินให้กู้ยืมของธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ
ในญี่ปุ่นมีจำนวน 6.36 ล้านล้านเยน หรือลดลงร้อยละ 14.9 เทียบต่อปี (รอยเตอร์)
7. เศรษฐกิจสิงคโปร์เริ่มฟื้นตัวในไตรมาสที่ 3 ปี 46 รายงานจากสิงคโปร์ เมื่อ 10 ต.ค.46 เศรษฐกิจสิงคโปร์ใน
ไตรมาสที่ 3 ปี 46 ขยายตัวเร็วสุดนับตั้งแต่ปี 40 หลังจากหดตัวมากสุดในไตรมาสก่อนหน้าจากการระบาดของโรคไข้หวัด SARS
โดยขยายตัวร้อยละ 15 เมื่อเทียบต่อปี และร้อยละ 1.0 เมื่อนับตั้งแต่ต้นปี แต่ยังต่ำกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้จากผลสำรวจความ
เห็นของนักเศรษฐศาสตร์โดยรอยเตอร์ว่าจะขยายตัวร้อยละ 16 เมื่อเทียบต่อปี และร้อยละ 1.4 เมื่อนับตั้งแต่ต้นปี โดยผลผลิต
อุตสาหกรรมขยายตัวสูงสุดร้อยละ 2.5 นับตั้งแต่ต้นปี และขยายตัวร้อยละ 17.8 ในเดือน ส.ค.46 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
โดยเกือบทั้งหมดมาจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมยาซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 15 ของผลผลิตอุตสาหกรรมทั้งหมด แต่จากการที่
อุตสาหกรรมยามีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เศรษฐกิจมีความเปราะบางและเกรงว่าการขยายตัวอาจไม่ยั่งยืน รัฐบาล
สิงคโปร์ได้ปรับลดการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 46 เหลือร้อยละ 0 ถึง 1.0 จากที่คาดไว้ก่อนหน้าว่าจะขยายตัวร้อยละ 0.5 ถึง
2.5 (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 10/10/46 9/10/46 27/12/45 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 39.264 43.24 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 39.0977/39.3838 42.9993/43.3039 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 1.25 1.8750-1.9375 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 573.63/27.75 356.48/3.27 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 6,900/7,000 7,000/7,100 7,000/7,100 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 28.07 26.63 27.65 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับเพิ่ม 30 ส.ต./ลิตร เมื่อ 8 ต.ค.46 16.09/13.59 16.09/13.59 16.19/14.29 ปตท.
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-