ที่รัฐสภา วันที่ ๖ มกราคม ๒๕๔๗ เวลา ๑๒.๑๕ นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้นล่าง อาคารรัฐสภา ๑
นายแพทย์เปรมศักดิ์ เพียยุระ ประธานคณะกรรมาธิการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวกรณีคนงานถูกหลอกลวงไปทำงานที่ต่างประเทศ
นายแพทย์เปรมศักดิ์ กล่าวถึงกรณีที่ได้รับการร้องเรียนจากนายสุรศักดิ์ อ่อนทุม ซึ่งถูกนางภานุมาศ สุวรรณฤทธิ์
ชักชวนให้เดินทางไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น โดยเสียค่าใช้จ่ายคนละ ๔๕๐,๐๐๐ บาท และขอเก็บก่อนการเดินทางเป็นเงิน ๒๕๐,๐๐๐ บาท
ส่วนที่เหลือให้จ่ายเมื่อได้ทำงานเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับแจ้งกำหนดการเดินทางประมาณวันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๔๖ แต่จนถึงปัจจุบัน
นายสุรศักดิ์ และเพื่อน ๆ ยังไม่ได้เดินทางไปทำงานตามที่ได้ตกลงไว้แต่อย่างใด อีกทั้งยังไม่สามารถติดตามทวงเงินคืนจาก
นางภานุมาศได้ ซึ่งนายสุรศักดิ์ ได้นำเรื่องเข้าร้องเรียนที่กระทรวงแรงงานและได้เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธร จังหวัดนนทบุรี
ตั้งแต่วันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๔๖ แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่ทราบความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด
ดังนั้นเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่แรงงานไทย และเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา
สังคมและความยากจนของประชาชนในเรื่องปัญหา หนี้สินภาคประชาชนและปัญหาแรงงานถูกหลอกลวงไปทำงานต่างประเทศ
ซึ่งนับเป็นหนึ่งในนโยบายการปราบปรามผู้มีอิทธิพลของรัฐบาล ทางคณะกรรมาธิการการแรงงานจึงได้ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี
เพื่อให้ดำเนินการพิจารณาหาแนวทางในการช่วยเหลือ และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งติดตามหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษต่อไป
---------------------------------------------
นายแพทย์เปรมศักดิ์ เพียยุระ ประธานคณะกรรมาธิการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวกรณีคนงานถูกหลอกลวงไปทำงานที่ต่างประเทศ
นายแพทย์เปรมศักดิ์ กล่าวถึงกรณีที่ได้รับการร้องเรียนจากนายสุรศักดิ์ อ่อนทุม ซึ่งถูกนางภานุมาศ สุวรรณฤทธิ์
ชักชวนให้เดินทางไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น โดยเสียค่าใช้จ่ายคนละ ๔๕๐,๐๐๐ บาท และขอเก็บก่อนการเดินทางเป็นเงิน ๒๕๐,๐๐๐ บาท
ส่วนที่เหลือให้จ่ายเมื่อได้ทำงานเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับแจ้งกำหนดการเดินทางประมาณวันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๔๖ แต่จนถึงปัจจุบัน
นายสุรศักดิ์ และเพื่อน ๆ ยังไม่ได้เดินทางไปทำงานตามที่ได้ตกลงไว้แต่อย่างใด อีกทั้งยังไม่สามารถติดตามทวงเงินคืนจาก
นางภานุมาศได้ ซึ่งนายสุรศักดิ์ ได้นำเรื่องเข้าร้องเรียนที่กระทรวงแรงงานและได้เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธร จังหวัดนนทบุรี
ตั้งแต่วันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๔๖ แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่ทราบความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด
ดังนั้นเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่แรงงานไทย และเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา
สังคมและความยากจนของประชาชนในเรื่องปัญหา หนี้สินภาคประชาชนและปัญหาแรงงานถูกหลอกลวงไปทำงานต่างประเทศ
ซึ่งนับเป็นหนึ่งในนโยบายการปราบปรามผู้มีอิทธิพลของรัฐบาล ทางคณะกรรมาธิการการแรงงานจึงได้ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี
เพื่อให้ดำเนินการพิจารณาหาแนวทางในการช่วยเหลือ และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งติดตามหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษต่อไป
---------------------------------------------