กรุงเทพ--2 ก.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
เยอรมนี : ลู่ทางในการนำเทคโนโลยีด้านพลังงานทดแทนมาปรับใช้กับไทย
ในช่วงที่นายปรีชา เลาหะพงศ์ชนะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ด้านเศรษฐกิจประจำภูมิภาคยุโรประหว่างวันที่ 6-8 กรกฎาคม 2548 ที่กรุงเบอร์ลิน ท่านรมช. ปรีชาฯ ได้นำคณะผู้แทนไทยในภาคการวิจัยและพัฒนาจากวิทยาลัยพลังงานทดแทน มหาวิทยาลัยนเรศวร นักธุรกิจและนักการธนาคาร ร่วมเดินทางไปด้วย เพื่อศึกษาดูงานด้านพลังงานทดแทนและแสวงหาความร่วมมือกับสถาบันเทคโนโลยีด้านพลังงานแสงอาทิตย์ (ISET) และบริษัทซึ่งผลิตพลังงานทดแทนรูปแบบต่างๆ ในประเทศเยอรมนี เพื่อหาลู่ทางในการนำเทคโนโลยีด้านพลังงานทดแทนมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับประเทศไทย
จากการศึกษาดูงานพบว่า การผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพจากมูลสัตว์และสิ่งปฏิกูล เพื่อการผลิตกระแสไฟฟ้าในรูปแบบของฟาร์มครบวงจรน่าจะมีศักยภาพสูงที่สุดสำหรับเกษตรกรชาวไทย จึงขอนำการดำเนินงานของบริษัทไบโอแก๊ส นอร์ด GmbH และบริษัท ชโลส อิซค์ฮอฟ บาด แฮร์สเฟล ซึ่งเป็นบริษัททำฟาร์มครบวงจรและผลิตก๊าซชีวภาพจากการหมักผสมระหว่างมูลสัตว์กับเศษหญ้า และนำก๊าซชีวภาพไปผลิตกระแสไฟฟ้า มาเล่าสู่กันฟังเผื่อเกษตรกรไทยจะได้นำไปปรับปรุงเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ในฟาร์มต่อไป
บริษัทไบโอแก๊ส นอร์ด เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์และเทคโนโลยีด้านการผลิตก๊าซชีวภาพจากมูลสัตว์เพื่อผลิตไฟฟ้าโดยใช้มูลสุกรปริมาณ 35 คิวบิกเมตร/วันซึ่งได้จากการทำฟาร์มสุกรขนาด 1500 ตัว รวมทั้งลูกสุกรเกิดใหม่ ผสมกับเศษหญ้าปริมาณ 12 ตัน/วัน และเศษข้าวสาลีปริมาณ 2 พันตัน/วัน ไปหมักแบบผสมในโรงหมักก๊าซชีวภาพที่ปิดอย่างมิดชิด สัดส่วนของการผสมนี้ได้ผ่านการทดลองแล้วเพื่อให้ได้ปริมาณก๊าซสูงสุด ก๊าซชีวภาพที่ได้ในแต่ละวันจะถูกนำไปผลิตกระแสไฟฟ้า 500 กิโลวัตต์ และผลิตพลังงานความร้อนให้กับสุกร 600 กิโลวัตต์ ส่วนที่ได้จากการหมักสามารถนำไปใช้เป็นปุ๋ยธรรมชาติในการปลูกข้าวสาลีเพื่อเลี้ยงสุกร และเป็นส่วนผสมในการผลิตก๊าซชีวภาพต่อไป ไฟฟ้าที่ได้สามารถนำไปใช้ในครัวเรือนหรือส่งเข้าสายส่งของรัฐบาลในราคาที่กำหนดไว้ในกฎหมาย
ส่วนการดำเนินงานของบริษัทชโลส อิซค์ฮอฟ บาด แฮร์สเฟล มีลักษณะคล้ายกับบริษัทไบโอแก๊ส นอร์ด คือเป็นฟาร์มเลี้ยงวัวนมแบบครบวงจร และยังเป็นศูนย์กลางในการทดลองและพัฒนาด้านพลังงานชีวภาพของรัฐเฮสเซน ร่วมกับสถาบัน ISET รวมทั้งให้การอบรมด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแก่เกษตรกรที่สนใจอีกด้วย จากการศึกษาทดลองพบว่า การใช้มูลวัวผสมกับเศษหญ้าในการหมักแบบผสมจะให้ปริมาณก๊าซชีวภาพสูงสุด โดยจากมูลวัว 1,000 ลิตร สามารถผลิตก๊าซได้ 30,000 ลิตรเพื่อนำไปผลิตกระแสไฟฟ้าและผลิตพลังงานความร้อน
ขณะนี้ บริษัทชโลส อิซค์ฮอฟ และสถาบันISET กำลังร่วมกันพัฒนาการผลิตไฟฟ้าโดยใช้เครื่องปั่นไฟขนาดจิ๋วซึ่งมีขีดความสามารถในการผลิตไฟฟ้าสูงถึง 30 กิโลวัตต์และมีความคงทนสูงสามารถใช้งานได้กว่า 8,000 ชั่วโมงโดยไม่มีการซ่อมบำรุง นอกจากนี้ สถาบันฯ ยังทำการศึกษาด้านพลังงานทดแทนอื่นๆ อีก อาทิ พลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์ ปัจจุบัน สถาบัน ISET มีความร่วมมือกับวิทยาลัยพลังงานทดแทนของมหาวิทยาลัยนเรศวรและสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
เยอรมนี : ลู่ทางในการนำเทคโนโลยีด้านพลังงานทดแทนมาปรับใช้กับไทย
ในช่วงที่นายปรีชา เลาหะพงศ์ชนะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ด้านเศรษฐกิจประจำภูมิภาคยุโรประหว่างวันที่ 6-8 กรกฎาคม 2548 ที่กรุงเบอร์ลิน ท่านรมช. ปรีชาฯ ได้นำคณะผู้แทนไทยในภาคการวิจัยและพัฒนาจากวิทยาลัยพลังงานทดแทน มหาวิทยาลัยนเรศวร นักธุรกิจและนักการธนาคาร ร่วมเดินทางไปด้วย เพื่อศึกษาดูงานด้านพลังงานทดแทนและแสวงหาความร่วมมือกับสถาบันเทคโนโลยีด้านพลังงานแสงอาทิตย์ (ISET) และบริษัทซึ่งผลิตพลังงานทดแทนรูปแบบต่างๆ ในประเทศเยอรมนี เพื่อหาลู่ทางในการนำเทคโนโลยีด้านพลังงานทดแทนมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับประเทศไทย
จากการศึกษาดูงานพบว่า การผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพจากมูลสัตว์และสิ่งปฏิกูล เพื่อการผลิตกระแสไฟฟ้าในรูปแบบของฟาร์มครบวงจรน่าจะมีศักยภาพสูงที่สุดสำหรับเกษตรกรชาวไทย จึงขอนำการดำเนินงานของบริษัทไบโอแก๊ส นอร์ด GmbH และบริษัท ชโลส อิซค์ฮอฟ บาด แฮร์สเฟล ซึ่งเป็นบริษัททำฟาร์มครบวงจรและผลิตก๊าซชีวภาพจากการหมักผสมระหว่างมูลสัตว์กับเศษหญ้า และนำก๊าซชีวภาพไปผลิตกระแสไฟฟ้า มาเล่าสู่กันฟังเผื่อเกษตรกรไทยจะได้นำไปปรับปรุงเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ในฟาร์มต่อไป
บริษัทไบโอแก๊ส นอร์ด เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์และเทคโนโลยีด้านการผลิตก๊าซชีวภาพจากมูลสัตว์เพื่อผลิตไฟฟ้าโดยใช้มูลสุกรปริมาณ 35 คิวบิกเมตร/วันซึ่งได้จากการทำฟาร์มสุกรขนาด 1500 ตัว รวมทั้งลูกสุกรเกิดใหม่ ผสมกับเศษหญ้าปริมาณ 12 ตัน/วัน และเศษข้าวสาลีปริมาณ 2 พันตัน/วัน ไปหมักแบบผสมในโรงหมักก๊าซชีวภาพที่ปิดอย่างมิดชิด สัดส่วนของการผสมนี้ได้ผ่านการทดลองแล้วเพื่อให้ได้ปริมาณก๊าซสูงสุด ก๊าซชีวภาพที่ได้ในแต่ละวันจะถูกนำไปผลิตกระแสไฟฟ้า 500 กิโลวัตต์ และผลิตพลังงานความร้อนให้กับสุกร 600 กิโลวัตต์ ส่วนที่ได้จากการหมักสามารถนำไปใช้เป็นปุ๋ยธรรมชาติในการปลูกข้าวสาลีเพื่อเลี้ยงสุกร และเป็นส่วนผสมในการผลิตก๊าซชีวภาพต่อไป ไฟฟ้าที่ได้สามารถนำไปใช้ในครัวเรือนหรือส่งเข้าสายส่งของรัฐบาลในราคาที่กำหนดไว้ในกฎหมาย
ส่วนการดำเนินงานของบริษัทชโลส อิซค์ฮอฟ บาด แฮร์สเฟล มีลักษณะคล้ายกับบริษัทไบโอแก๊ส นอร์ด คือเป็นฟาร์มเลี้ยงวัวนมแบบครบวงจร และยังเป็นศูนย์กลางในการทดลองและพัฒนาด้านพลังงานชีวภาพของรัฐเฮสเซน ร่วมกับสถาบัน ISET รวมทั้งให้การอบรมด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแก่เกษตรกรที่สนใจอีกด้วย จากการศึกษาทดลองพบว่า การใช้มูลวัวผสมกับเศษหญ้าในการหมักแบบผสมจะให้ปริมาณก๊าซชีวภาพสูงสุด โดยจากมูลวัว 1,000 ลิตร สามารถผลิตก๊าซได้ 30,000 ลิตรเพื่อนำไปผลิตกระแสไฟฟ้าและผลิตพลังงานความร้อน
ขณะนี้ บริษัทชโลส อิซค์ฮอฟ และสถาบันISET กำลังร่วมกันพัฒนาการผลิตไฟฟ้าโดยใช้เครื่องปั่นไฟขนาดจิ๋วซึ่งมีขีดความสามารถในการผลิตไฟฟ้าสูงถึง 30 กิโลวัตต์และมีความคงทนสูงสามารถใช้งานได้กว่า 8,000 ชั่วโมงโดยไม่มีการซ่อมบำรุง นอกจากนี้ สถาบันฯ ยังทำการศึกษาด้านพลังงานทดแทนอื่นๆ อีก อาทิ พลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์ ปัจจุบัน สถาบัน ISET มีความร่วมมือกับวิทยาลัยพลังงานทดแทนของมหาวิทยาลัยนเรศวรและสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-