บันทึกการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ ๒๑ (สมัยสามัญทั่วไป) วันจันทร์ที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๔๗ ณ ตึกรัฐสภาเริ่มประชุมเวลา ๐๙.๓๕ นาฬิกา เมื่อสมาชิกฯ มาประชุมครบองค์ประชุม นายสุชน ชาลีเครือ ประธานวุฒิสภา และนายสหัส พินทุเสนีย์ รองประธานวุฒิสภาคนที่สอง ขึ้นบัลลังก์ ประธานวุฒิสภาได้กล่าวเปิดประชุม แล้วแจ้งให้ที่ประชุมรับทราบเรื่องคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ ๓๑/๒๕๔๗ ลงวันที่ ๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ เรื่อง ประธานรัฐสภาขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญฯ มาตรา ๒๖๖ กรณีมีปัญหาเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ขององค์กรตามรัฐธรรมนูญฯ ในการตราร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. .... มีความโดยสรุปว่า การที่รัฐสภาได้ให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. .... พร้อมส่งร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อให้นายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธยตามรัฐธรรมนูญฯ มาตรา ๙๓ หากก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ได้ตรวจพบปัญหาข้อความที่ขัดแย้งกันในร่างพระราชบัญญัติ ซึ่งเป็นความไม่สอดคล้องในการดำเนินการให้ถูกต้องตรงตามมติของวุฒิสภาที่ให้คงไว้ตามร่างเดิมของสภาผู้แทนราษฎร เฉพาะมาตรา ๑๘ (๙) และมาตรา ๕๒ รัฐสภาในฐานะที่เป็นองค์กรให้คำแนะนำและยินยอมในการตราร่างพระราชบัญญัติตามรัฐธรรมนูญฯ มาตรา ๙๒ ย่อมจะนำร่างพระราชบัญญัตินั้นกลับคืนมาพิจารณาปรับปรุงให้ถูกต้องสมบูรณ์ตรงตามมติของวุฒิสภาเฉพาะประเด็นที่ไม่สอดคล้องกันตามคำร้องดังกล่าวนั้นเสียก่อนแล้วจึงส่งให้นายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธย ตามรัฐธรรมนูญฯ มาตรา ๙๓ ต่อไปได้ ประธานรัฐสภาได้มีหนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่ สผ ๐๐๐๑/๓๑๓๓ ลงวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๔๗ แจ้งผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมทั้งขอให้วุฒิสภาพิจารณาดำเนินการให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต่อไป ซึ่งประธานวุฒิสภาได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ในการดำเนินการแก้ไขปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. …. ให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้น สมควรดำเนินการโดยทางธุรการของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา จึงมอบหมายให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาตั้งคณะทำงานขึ้นเพื่อพิจารณาแนวทางการแก้ไขปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ในมาตราที่มีความคลาดเคลื่อนไม่สอดคล้องกัน โดยมีเลขาธิการวุฒิสภาเป็นประธานคณะทำงาน และคณะทำงานดังกล่าวได้รายงานผลการพิจารณาดำเนินการแก้ไขปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. …. ตามแนวคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ต่อประธานวุฒิสภาแล้ว ซึ่งมีความเห็นโดยสรุปว่า สมควรดำเนินการแก้ไขมาตรา ๑๗ (๙) (ในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นมาตรา ๑๘ (๙)) และมาตรา ๕๑ (ในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นมาตรา ๕๒) ให้เป็นไปตามร่างเดิมของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้สอดคล้องและเป็นไปตามมติของวุฒิสภา ซึ่งที่ประชุมวุฒิสภาได้รับทราบผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ ๓๑/๒๕๔๗ ลงวันที่ ๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ ต่อมา ประธานวุฒิสภาได้ปรึกษาที่ประชุมเพื่อขอนำเรื่อง การขยายเวลาการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ รวม ๔ ฉบับ ให้ที่ประชุมพิจารณา ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบ ประธานวุฒิสภาจึงเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาเรื่องดังกล่าว ตามลำดับ ดังนี้๑. ขอขยายเวลาการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติวิชาชีพกายภาพบำบัด พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ออกไปเป็นกรณีพิเศษ อีก ๓๐ วัน นับแต่วันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๔๗ ตามรัฐธรรมนูญฯ มาตรา ๑๗๔ ซึ่งที่ประชุมมีมติให้ขยายเวลาได้ทั้ง ๓ ฉบับ๒. คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการเฉลี่ยความเสียหายทั่วไปจากภยันตรายในการเดินเรือ พ.ศ. .... ขอขยายเวลาการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวออกไปเป็นกรณีพิเศษ อีก ๓๐ วัน นับแต่วันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๔๗ ตามรัฐธรรมนูญฯ มาตรา ๑๗๔ ซึ่งที่ประชุมมีมติให้ขยายเวลาได้ตามที่คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ร้องขอ จากนั้น ประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภาคนที่สอง ได้ผลัดเปลี่ยนกันทำหน้าที่ประธานของที่ประชุม โดยประธานของที่ประชุมได้ปรึกษาที่ประชุมเพื่อขอเลื่อนกระทู้ถามลำดับที่ ๖ ขึ้นมาพิจารณาต่อจากกระทู้ถามลำดับที่ ๑ ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบ ประธานของที่ประชุมจึงเสนอให้ที่ประชุมพิจารณากระทู้ถาม ตามลำดับ ดังนี้ ๑. กระทู้ถามด่วน เรื่อง ปัญหาความแห้งแล้งและการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคในชนบททั่วประเทศไทย ของนายบุญทัน ดอกไธสง ถามนายกรัฐมนตรี ๒. กระทู้ถามด่วน เรื่อง การพัฒนาการชลประทานในระบบท่อ ของนายอุบล เอื้อศรี ถามนายกรัฐมนตรี ในการพิจารณากระทู้ถามลำดับที่ ๑ และลำดับที่ ๒ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ตอบกระทู้ถามทั้ง ๒ กระทู้ดังกล่าว ๓. กระทู้ถามด่วน เรื่อง ปัญหาการสอบคัดเลือกและแต่งตั้งตำแหน่งผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการสำนักงานพื้นที่การศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ของนายผ่อง เล่งอี้ ถามนายกรัฐมนตรี ๔. กระทู้ถามด่วน เรื่อง ปัญหาในการแบ่งเขตพื้นที่การศึกษา ของนายวิทยา มะเสนาถามนายกรัฐมนตรี ๕. กระทู้ถามด่วน เรื่อง นโยบายด้านการศึกษาของรัฐบาลและการปฏิรูปการศึกษา ของนายวิบูลย์ แช่มชื่น ถามนายกรัฐมนตรี ๖. กระทู้ถามด่วน เรื่อง ปัญหาในการบริหารการปฏิรูปการศึกษา ของนายคำพันธ์ ป้องปาน ถามนายกรัฐมนตรี ในการพิจารณากระทู้ถามลำดับที่ ๓ ถึงลำดับที่ ๖ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ตอบกระทู้ถามทั้ง ๔ กระทู้ดังกล่าว ต่อจากนั้น ประธานของที่ประชุมได้เสนอให้ที่ประชุมพิจารณาเรื่องด่วน คือ ตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติและความประพฤติของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติตามมาตรา ๑๓๕ ประกอบมาตรา ๓๐๒ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญฯ ซึ่งที่ประชุมมีมติให้ตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติฯ จำนวน ๑๑ คน ประกอบด้วย๑. นายประสิทธิ์ พิทูรกิจจา ๒. นายไสว พราหมณี๓. นางอรัญญา สุจนิล ๔. ร้อยตรี อำนวย ไทยานนท์๕. นายสันติ์ เทพมณี ๖. พลตำรวจตรี สนาม คงเมือง๗. นายนภินทร ศรีสรรพางค์ ๘. นายณรงค์ นุ่นทอง๙. นายทองใบ ทองเปาด์ ๑๐. พันตำรวจเอก ไพจิตร ศรีคงคา๑๑. พลเอก วัฒนา สรรพานิช หลังจากนั้น ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้เลื่อนการพิจารณาเรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้วลำดับที่ ๔.๑๑ ขึ้นมาพิจารณาก่อน ประธานของที่ประชุมจึงเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาเรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว ตามลำดับ ดังนี้ ๑. รายงานการพิจารณาศึกษาเพื่อปรับปรุงแก้ไขข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา พ.ศ. ๒๕๔๔ ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว เมื่อคณะกรรมาธิการฯ เสนอรายงาน และมีสมาชิกฯ อภิปรายแล้ว ที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา พ.ศ. ๒๕๔๔ จำนวน ๒๙ คน ประกอบด้วย๑. นายเกษม ชัยสิทธิ์ ๒. พลตำรวจเอก สวัสดิ์ อมรวิวัฒน์๓. นายชุมพล ศิลปอาชา ๔. นายเด่น โต๊ะมีนา๕. นายถวิล ไพรสณฑ์ ๖. นายธวัชชัย เมืองนาง๗. นายนิรันดร์ พิทักษ์วัชระ ๘. พลเอก บัณฑิตย์ มลายอริศูนย์๙. นายประเกียรติ นาสิมมา ๑๐. นายประสิทธิ์ พิทูรกิจจา๑๑. นายปราโมทย์ ไพชนม์ ๑๒. นายปรีชา ปิตานนท์๑๓. พันตำรวจเอก ไพจิตร ศรีคงคา ๑๔. พลเอก มนัส อร่ามศรี๑๕. พลเอก วัฒนา สรรพานิช ๑๖. นายวิเชียร เปาอินทร์๑๗. พลตำรวจตรี วีระ อนันตกูล ๑๘. นายสนิท กุลเจริญ๑๙. พันเอก สมคิด ศรีสังคม ๒๐. นายสราวุธ นิยมทรัพย์๒๑. นายสันติ์ เทพมณี ๒๒. นายสุนทร จินดาอินทร์๒๓. นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ๒๔. นายสุรสิทธิ์ ฉัตรชัยเดช๒๕. นายสมบูรณ์ ทองบุราณ ๒๖. นายการุณ ใสงาม๒๗. นายวิสิษฐ์ เตชะธีราวัฒน์ ๒๘. นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์๒๙. นายณรงค์ นุ่นทอง โดยมีกำหนดการปฏิบัติภารกิจภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่วุฒิสภามีมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ชุดนี้ อนึ่ง ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้ส่ง ญัตติ เรื่อง ขอแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา พ.ศ. ๒๕๔๔ ซึ่งพลตำรวจเอก สวัสดิ์ อมรวิวัฒน์ เป็นผู้เสนอ ให้คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ พิจารณาด้วย ๒. รายงานการพิจารณาศึกษาบทบาทและการดำเนินกิจกรรมขององค์กรพัฒนาเอกชน ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว โดยเป็นเรื่องที่เลื่อนมาจากการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ ๒๐ (สมัยสามัญทั่วไป) วันอังคารที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๔๗ เมื่อคณะกรรมาธิการฯ เสนอรายงาน และมีสมาชิกฯ อภิปรายแล้ว ที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบด้วยกับรายงานพร้อมทั้งข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ เพื่อส่งไปยังคณะรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไป ต่อจากนั้น ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้นำเรื่อง ตั้งกรรมาธิการแทนตำแหน่งที่ว่าง รวม ๒ คณะ ให้ที่ประชุมพิจารณา ประธานของที่ประชุมจึงเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาเรื่องดังกล่าวตามลำดับ ดังนี้ ๑. ตั้งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... แทนตำแหน่งที่ว่าง ๑ ตำแหน่ง ซึ่งที่ประชุมมีมติให้ตั้ง นายนิรันดร์ พิทักษ์วัชระ เป็นกรรมาธิการแทน นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ซึ่งขอลาออกจากตำแหน่ง๒. ตั้งกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา แทนตำแหน่งที่ว่าง ๑ ตำแหน่ง ซึ่งที่ประชุมมีมติให้ตั้ง นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ เป็นกรรมาธิการแทน นายชงค์ วงษ์ขันธ์ซึ่งขอลาออกจากตำแหน่ง เลิกประชุมเวลา ๑๘.๑๐ นาฬิกา (นายมนตรี รูปสุวรรณ) เลขาธิการวุฒิสภากลุ่มงานรายงานการประชุมสำนักรายงานการประชุมและชวเลขโทร. ๐ ๒๘๓๑ ๙๑๒๗โทรสาร ๐ ๒๘๓๑ ๙๑๒๓