สรุปการประชุมสภาผู้แทนราษฎรการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ฉบับที่ ๑๓

ข่าวการเมือง Tuesday May 25, 2004 15:15 —รัฐสภา

ฉบับที่ ๑๓ สรุปการประชุมสภาผู้แทนราษฎร การอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล วันพฤหัสบดีที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๔๗ เวลา ๐๙.๓๐ - ๑๐.๓๐ นาฬิกา การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๑ ปีที่ ๔ ครั้งที่ ๒๙ (สมัยสามัญทั่วไป) เวลา ๐๙.๓๐ นาฬิกา เมื่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครบองค์ประชุม นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม ได้แจ้งต่อที่ประชุมให้พิจารณาเรื่องด่วนญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เป็นวันที่สอง โดยในวันแรกของการประชุมการอภิปรายรัฐมนตรีได้เสร็จสิ้นไปแล้ว ๒ ราย คือ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี สำหรับการประชุมในวันนี้รัฐมนตรีผู้ถูกอภิปรายลำดับแรก คือ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยนายอาคม เอ่งฉ้วน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายการบริหารราชการแผ่นดินอันก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ ในกรณีดังต่อไปนี้ คือ - การขายที่ดินอันเป็นทรัพย์สินของกองทุนฟื้นฟู ที่ได้มาระหว่างปี ๒๕๓๖ - ๒๕๓๙ โดยเฉพาะที่ดินที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับสถานทูตเกาหลีติดถนนเทียมร่วมมิตร เขตห้วยขวาง จำนวน ๑๓ โฉนด รวม ๓๕ ไร่ ๒ งาน ที่มีขั้นตอนการประมูลขายทอดตลาดไม่โปร่งใสใน ๒ ลักษณะ คือ ๑. วิธีการประกวดราคามิได้นำผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ดังที่ได้ประกาศเป็นนโยบายที่จะใช้กับการประกวดราคาขายทรัพย์สินของรัฐ แต่ยังคงใช้ระบบยื่นซองประกวดราคาแบบเดิมที่เคยใช้มาในอดีต ๒. ขั้นตอนการขายที่ดินทำให้รัฐสูญเสียประโยชน์ คือ ๒.๑ การประกวดราคาครั้งที่ ๒ ของที่ดินแปลงนี้ พบว่าพื้นที่ดิน หน้าโฉนดหายไป ๒ ไร่เศษ จาก ๓๕ ไร่ ๒ งาน ทำให้รัฐเสีย รายได้ไปกว่า ๕๘ ล้านบาท เพราะราคาที่ดินประมาณ ตารางวาละ ๕๐,๐๐๐ บาท๒.๒ การเร่งรีบขายที่ดินก่อนการประกาศเปลี่ยนแปลงราคากลาง ของกรมที่ดินเพียง ๒ วัน เพราะจะครบรอบทุก ๕ ปี ที่จะมี การ ประกาศเปลี่ยนแปลงราคากลางที่ดิน ทำให้ขายได้เพียง ๗๗๒ ล้านบาท ซึ่งหากชะลอการขายอีก ๒ วัน รัฐจะได้รับ ประโยชน์และรายได้จากส่วนนี้ โดยเฉพาะจากค่าธรรมเนียม มากขึ้นกว่าเดิม๒.๓ การเพิ่มวงเงินประกันการซื้อซองประกวดราคาถึง ๑๐๐ ล้านบาท ทำให้มีผู้ยื่นซองประกวดราคาได้เพียง ๑ รายเท่านั้น เป็นการ บ่งชี้ถึงความไม่โปร่งใสและเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้อง๒.๔ การละเลยเรื่องการกำกับดูแลการขายที่ดินให้มีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาประโยชน์ของรัฐ จึงเป็นการบ่งชี้ถึงความบกพร่อง ในการบริหารราชการแผ่นดิน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ