สรุปการประชุมสภาผู้แทนราษฎรการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ฉบับที่ ๒๕

ข่าวการเมือง Tuesday May 25, 2004 15:29 —รัฐสภา

ฉบับที่ ๒๕ 
สรุปการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
การอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล
วันศุกร์ที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๔๗
เวลา ๑๑.๓๐ - ๑๒.๓๐ นาฬิกา
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา รองนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
- กรณีที่ถูกกล่าวหาว่าขาดคุณธรรมจริยธรรมนั้น รองนายกรัฐมนตรีชี้แจงว่าการมีคุณธรรมจริยธรรมหรือไม่นั้น
สังคมจะเป็นผู้ตัดสินเอง ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมเป็นคณะกรรมการบริหารองค์กรสันนิบาตมุสลิมโลก เป็นเวลา ๓ ปีแล้ว ซึ่ง
จะมีการคัดเลือกบุคคลที่เห็นว่าน่าเชื่อถือและยึดมั่นในหลักธรรมทางศาสนาเพียง
๒๕ คนจากทั่วโลกเท่านั้น
- กรณีที่ถูกกล่าวหาว่าสนับสนุนผู้มีอิทธิพล ทำให้ไม่สามารถปราบปรามผู้มีอิทธิพลได้นั้นไม่เป็นความจริง อาทิกรณี โกต๊ก
รองนายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งให้จับกุมถึง ๒ ครั้ง และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงกำกับดูแลอย่างเข้มงวด โดยไม่มีการ
ละเว้นว่าจะเป็นใครก็ตาม อีกทั้งกรณีการสร้างถนนในพื้นที่จังหวัดภาคใต้
รองนายกรัฐมนตรียืนยันว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องต่อผลประโยชน์ใด ๆ
- กรณีการปล้นปืนที่จังหวัดนราธิวาสนั้น ขอยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่เคย
สนับสนุนผู้กระทำผิด ข้อกล่าวหาข้างต้นนั้นเป็นเพียงการซัดทอดของผู้ต้องหา
เท่านั้น
- กรณีการอุ้มฆ่าและการหายตัวไปของนายสมชายนั้น รองนายกรัฐมนตรีได้สั่งการ
ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีและหาข้อเท็จจริงให้ได้ พร้อมทั้งให้ความ
ช่วยเหลือต่อครอบครัวดังกล่าวด้วย
- กรณีมัสยิดกรือเซะ ซึ่งเป็นมัสยิดเก่าแก่ที่จดทะเบียนเป็นโบราณสถานและเป็นที่
หลบซ่อนของคนร้ายนั้น รองนายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงว่า ได้มีคำสั่งให้ดำเนินการ
จับกุมผู้ร้ายไม่ว่าจะอยู่ในสถานที่ใดก็ตาม แต่หากมีการต่อสู้ขัดขืนนั้นก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่
- ตอบข้อกล่าวหาเรื่องที่ได้เดินทางไปพบผู้ก่อการร้ายที่ประเทศอียิปต์นั้น
รองนายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า ในขณะนั้นตนดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทน
ราษฎร และได้มีการเดินทางไปศึกษาดูงานที่ประเทศนั้นจริง โดยมีเจ้าหน้าที่
ของรัฐจากหน่วยงานอื่น ๆ ร่วมเดินทางไปด้วยเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยให้ผู้ก่อการร้าย
กลับมาเป็นผู้ร่วมชาติไทย ไม่ได้เป็นการนัดหมายผู้ก่อการร้ายตามที่ถูกกล่าวหา
รองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวสรุปในช่วงท้ายว่า ไม่ได้ขาดคุณธรรมและจริยธรรมตามที่
ได้ถูกกล่าวหาและไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลต่าง ๆ รวมทั้งธุรกิจผิดกฎหมายใด ๆ เลย
นายตรีพล เจาะจิตต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจ นายวัฒนา เมืองสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในประเด็นดังนี้
๑. เกิดความผิดพลาดบ่อยครั้งในการบริหารราชการของกระทรวงพาณิชย์
๒. ไร้ประสิทธิภาพในการบริหาร โครงการหลายโครงการ
๓. ขาดความยุติธรรมและไร้ซึ่งคุณธรรม
๔. มุ่งผลประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้องมากกว่าผลประโยชน์ของประเทศชาติ
โดยได้อภิปรายแยกเป็นประเด็นดังต่อไปนี้
- ในด้านของข้อผิดพลาดในการบริหารราชการกระทรวงพาณิชย์นั้น มีการรับจำนำ
สินค้าเกษตรในราคาที่สูง แต่สุดท้ายกลับทุบราคาให้ต่ำลง เช่น โครงการรับจำนำ
ลำไย เมื่อปี ๒๕๔๕ ซึ่งได้จำนำไว้ในราคาสูง แต่ไม่สามารถจำหน่ายได้ จึงขายไป
ในราคาที่ตกต่ำมากเพียงกิโลกรัมละ ๒ บาทเท่านั้น โดยอ้างว่ามีลำไยดีเพียง
๖๐ % และลำไยไม่ดีมี ๔๐% จึงได้ขายในราคาดังกล่าว ทั้งนี้ได้มีนักวิชาการ
เกษตร เข้าไปตรวจสอบพบว่ามีลำไยไม่ดีเฉลี่ยแล้วเพียง ๒๓ % เท่านั้น ทำให้เกิด
ความเสียหายต่อประเทศชาติ อีกทั้งในโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งขณะนั้นรัฐมนตรี
ว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ก็ได้เข้าไป
แทรกแซงในการซื้อขายทำให้ผลประโยชน์อันพึงได้ถึง ๑๐๐ ล้านบาท เหลือเพียง
๑๐ ล้านบาทเท่านั้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ