กรุงเทพ--23 ก.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวานนี้ (22 กรกฎาคม 2547) นาย Hans van den Broek ผู้แทนพิเศษของประธาน สหภาพยุโรปได้เข้าพบ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อหารือเรื่องอาเซม และภายหลังการหารือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน สรุปได้ดังนี้
1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งแก่ผู้แทนพิเศษของประธาน สหภาพยุโรปเกี่ยวกับการขยายสมาชิกของอาเซมว่า จุดยืนของไทยเหมือนกับจุดยืนของสมาชิก อาเซียน 7 ประเทศ และ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ กล่าวคือ สมาชิกอาเซียน 3 ประเทศ คือ พม่า ลาว และกัมพูชา จะต้องได้รับการเห็นชอบที่จะเข้าเป็นสมาชิกของอาเซมพร้อมกับอีก 10 ประเทศ ที่เป็นสมาชิกใหม่ของสหภาพยุโรปเช่นเดียวกัน ส่วนประเด็นว่าผู้ใดจะเป็นผู้แทนของฝ่ายพม่าที่จะเข้าร่วมประชุมอาเซมนั้นเป็นเรื่องที่จะต้องให้เกียรติแก่พม่า โดยให้เป็นการตัดสินใจของฝ่ายพม่าเองว่าจะเป็นผู้แทนระดับใด ไทยเชื่อว่าคงจะมีความเข้าใจกันได้ระหว่างยุโรปกับเอเชียในเรื่องนี้ ซึ่งขณะนี้การเจรจาการทูตระหว่างเอเชียกับยุโรปกำลังดำเนินอยู่
2. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งให้ผู้แทนพิเศษของประธานสหภาพยุโรปทราบถึงผลการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนที่กรุงจาการ์ตา และอาเซียนได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเวียดนามไปเจรจากับสหภาพยุโรป โดยฝ่ายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเห็นว่าถ้าใช้การเจรจาทางการทูตเงียบๆ (Quiet diplomacy) ไปอีกระยะหนึ่ง จะมีทางออกในเรื่องนี้และเป็นที่ยอมรับได้ทั้งกับยุโรปและเอเชีย
3. การประชุมผู้นำอาเซมเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะจะมีการพิจารณากันถึงหุ้นส่วน ทางเศรษฐกิจระหว่างเอเชียกับยุโรป ไทยจึงไม่ต้องการให้เรื่องการขยายสมาชิกภาพเป็นสิ่งที่กระทบ กับการประชุมผู้นำอาเซม ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องพันธบัตรยุโรปและพันธบัตรเอเชียที่ต้อง เชื่อมโยงกัน การเปลี่ยนอาเซมจากเวทีของการเสวนาไปสู่เวทีของความร่วมมือ ซึ่งเมื่อมีเวทีของ เอเชีย-แปซิฟิกแล้วก็จะต้องมีเวทีของเอเชีย-ยุโรปที่แน่นแฟ้นขึ้นเช่นเดียวกัน
4. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งให้ทราบเรื่องสถานการณ์ในพม่า ว่า จุดยืนของไทยยังเหมือนเดิมคือ พยายามช่วยสนับสนุนและผลักดันให้มีการปล่อยนางอองซาน ซู จี และสนับสนุนให้รัฐบาลพม่ากับพรรค NLD มีท่าทียืดหยุ่นต่อกันมากขึ้น เพื่อให้พรรค NLD สามารถเข้าไปร่วมในกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญได้ แต่ในขณะเดียวกันไทยก็เห็นว่าพัฒนาการ ในพม่าก็คืบหน้าไปพอสมควร โดยชนกลุ่มน้อยกลุ่มต่างๆ ได้มีการหารือกันเกี่ยวกับการแบ่งสรร อำนาจ (power sharing) กันแล้ว และในสัปดาห์หน้า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีก็จะมี โอกาสพบกับนายกรัฐมนตรีขิ่น ยุ้นของพม่าในการประชุมผู้นำ BIMST-EC และรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการต่างประเทศก็จะพบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของพม่า ซึ่งคงจะ ได้รับทราบความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องพัฒนาการในพม่าเพิ่มเติม
5. ผู้แทนพิเศษของประธานสหภาพยุโรปได้แสดงความเห็นด้วยกับประเทศไทย ในการจัดประชุม Bangkok Process ครั้งที่ 2 ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็ได้แจ้ง ให้ทราบว่า เลขาธิการสหประชาชาติและหลายประเทศก็ได้เสนอให้จัดเช่นเดียวกัน ซึ่งไทยจะแจ้ง ให้พม่าทราบ และหากพม่าจะเข้าร่วมประชุมฯ ไทยก็จะจัดการประชุมดังกล่าวขึ้น
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-
เมื่อวานนี้ (22 กรกฎาคม 2547) นาย Hans van den Broek ผู้แทนพิเศษของประธาน สหภาพยุโรปได้เข้าพบ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อหารือเรื่องอาเซม และภายหลังการหารือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน สรุปได้ดังนี้
1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งแก่ผู้แทนพิเศษของประธาน สหภาพยุโรปเกี่ยวกับการขยายสมาชิกของอาเซมว่า จุดยืนของไทยเหมือนกับจุดยืนของสมาชิก อาเซียน 7 ประเทศ และ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ กล่าวคือ สมาชิกอาเซียน 3 ประเทศ คือ พม่า ลาว และกัมพูชา จะต้องได้รับการเห็นชอบที่จะเข้าเป็นสมาชิกของอาเซมพร้อมกับอีก 10 ประเทศ ที่เป็นสมาชิกใหม่ของสหภาพยุโรปเช่นเดียวกัน ส่วนประเด็นว่าผู้ใดจะเป็นผู้แทนของฝ่ายพม่าที่จะเข้าร่วมประชุมอาเซมนั้นเป็นเรื่องที่จะต้องให้เกียรติแก่พม่า โดยให้เป็นการตัดสินใจของฝ่ายพม่าเองว่าจะเป็นผู้แทนระดับใด ไทยเชื่อว่าคงจะมีความเข้าใจกันได้ระหว่างยุโรปกับเอเชียในเรื่องนี้ ซึ่งขณะนี้การเจรจาการทูตระหว่างเอเชียกับยุโรปกำลังดำเนินอยู่
2. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งให้ผู้แทนพิเศษของประธานสหภาพยุโรปทราบถึงผลการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนที่กรุงจาการ์ตา และอาเซียนได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเวียดนามไปเจรจากับสหภาพยุโรป โดยฝ่ายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเห็นว่าถ้าใช้การเจรจาทางการทูตเงียบๆ (Quiet diplomacy) ไปอีกระยะหนึ่ง จะมีทางออกในเรื่องนี้และเป็นที่ยอมรับได้ทั้งกับยุโรปและเอเชีย
3. การประชุมผู้นำอาเซมเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะจะมีการพิจารณากันถึงหุ้นส่วน ทางเศรษฐกิจระหว่างเอเชียกับยุโรป ไทยจึงไม่ต้องการให้เรื่องการขยายสมาชิกภาพเป็นสิ่งที่กระทบ กับการประชุมผู้นำอาเซม ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องพันธบัตรยุโรปและพันธบัตรเอเชียที่ต้อง เชื่อมโยงกัน การเปลี่ยนอาเซมจากเวทีของการเสวนาไปสู่เวทีของความร่วมมือ ซึ่งเมื่อมีเวทีของ เอเชีย-แปซิฟิกแล้วก็จะต้องมีเวทีของเอเชีย-ยุโรปที่แน่นแฟ้นขึ้นเช่นเดียวกัน
4. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งให้ทราบเรื่องสถานการณ์ในพม่า ว่า จุดยืนของไทยยังเหมือนเดิมคือ พยายามช่วยสนับสนุนและผลักดันให้มีการปล่อยนางอองซาน ซู จี และสนับสนุนให้รัฐบาลพม่ากับพรรค NLD มีท่าทียืดหยุ่นต่อกันมากขึ้น เพื่อให้พรรค NLD สามารถเข้าไปร่วมในกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญได้ แต่ในขณะเดียวกันไทยก็เห็นว่าพัฒนาการ ในพม่าก็คืบหน้าไปพอสมควร โดยชนกลุ่มน้อยกลุ่มต่างๆ ได้มีการหารือกันเกี่ยวกับการแบ่งสรร อำนาจ (power sharing) กันแล้ว และในสัปดาห์หน้า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีก็จะมี โอกาสพบกับนายกรัฐมนตรีขิ่น ยุ้นของพม่าในการประชุมผู้นำ BIMST-EC และรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการต่างประเทศก็จะพบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของพม่า ซึ่งคงจะ ได้รับทราบความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องพัฒนาการในพม่าเพิ่มเติม
5. ผู้แทนพิเศษของประธานสหภาพยุโรปได้แสดงความเห็นด้วยกับประเทศไทย ในการจัดประชุม Bangkok Process ครั้งที่ 2 ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็ได้แจ้ง ให้ทราบว่า เลขาธิการสหประชาชาติและหลายประเทศก็ได้เสนอให้จัดเช่นเดียวกัน ซึ่งไทยจะแจ้ง ให้พม่าทราบ และหากพม่าจะเข้าร่วมประชุมฯ ไทยก็จะจัดการประชุมดังกล่าวขึ้น
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-