ปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกต่างตื่นตัวและหันมาให้ความสนใจมากขึ้นกับการขจัดปัญหาและอุปสรรคทางการค้า
ระหว่างกันจะเห็นได้จากความพยายามในการจัดตั้งเขตการค้าเสรี (Free Trade Area: FTA) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อ
ให้การซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศทำได้อย่างเสรีโดยปราศจากอุปสรรคทางการค้า สำหรับประเทศไทยปัจจุบัน
มีการเจรจาจัดตั้งเขตการค้าเสรีกับ 8 ประเทศ ได้แก่ บาห์เรน จีน อินเดีย เปรู ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น
นิวซีแลนด์ และอีก 1 กลุ่มประเทศ คือ BIMST-EC โดยการเจรจาเพื่อลดภาษีสินค้าและบริการระหว่างกัน ควบคู่ไปกับ
การเจรจาในประเด็นเกี่ยวกับการผ่อนปรนมาตรการที่มิใช่ภาษีในลักษณะต่างๆ
ในส่วนของมาตรการที่มิใช่ภาษีซึ่งพบเห็นได้ทั่วไป ได้แก่ มาตรการด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช
(Sanitary and Phytosanitary Measures: SPS) อุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า (Technical Barriers
to Trade: TBT) มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-Dumping Measure: AD) มาตรการตอบโต้การอุดหนุน
(Countervailing Measure) รวมทั้งมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม เป็นต้น โดยเฉพาะมาตรการด้านสุขอนามัยและ
สุขอนามัยพืชเป็นมาตรการที่ประเทศคู่ค้าสำคัญส่วนใหญ่มักนำมาใช้ด้วยเหตุผลของการคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภค
เป็นสำคัญ ประกอบกับปัจจุบันสถานการณ์โลกมีความไม่แน่นอนสูงและปัญหาการก่อการร้ายข้ามชาติทวีความรุนแรงขึ้น
ส่งผลให้ทุกประเทศต่างวิตกกังวลเกี่ยวกับการปนเปื้อนของสารพิษในสินค้าอาหารและความปลอดภัยของสินค้าอุปโภค
บริโภคที่นำเข้า
มาตรการที่มิใช่ภาษีที่ประเทศคู่ค้าสำคัญที่อยู่ระหว่างการเจรจาจัดตั้งเขตการค้าเสรีกับไทยนำมาใช้กับ
สินค้าส่งออกของไทยมีดังนี้
ประเทศ สินค้า มาตรการ
จีน ข้าว อุปกรณ์รถยนต์ เหล็ก ผลิตภัณฑ์พลาสติก และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากฝ้าย มาตรการควบคุมการนำเข้า เช่น ผู้นำเข้าต้องเป็นธุรกิจที่ได้รับอนุมัติจากรัฐบาลจีน
ผักและผลไม้ ตะพาบน้ำ อาหารทะเลและอาหารทะเลกระป๋อง มาตรการด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช เช่น ข้อกำหนดเกี่ยวกับการปนเปื้อนของจุลินทรีย์
ออสเตรเลีย อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผักและผลไม้ ดอกกล้วยไม้ ไก่ต้มสุก มาตรการด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช เช่น ข้อกำหนดเกี่ยวกับแมลงศัตรูพืช
ท่อเหล็ก PVC น้ำสับปะรดเข้มข้นและสับปะรดกระป๋อง มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและมาตรการตอบโต้การอุดหนุน
ชั้นวางของทำด้วยเหล็กชนิดถอดประกอบ
สหรัฐอเมริกา อาหารทะเลและอาหารทะเลกระป๋อง ผักและผลไม้ มาตรการด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช เช่น ข้อกำหนดเกี่ยวกับแมลงศัตรูพืช และการปนเปื้อนของจุลินทรีย์
กุ้งแช่เย็นแช่แข็ง ปลาทูน่ากระป๋อง มาตรการด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ข้อกำหนดเพื่อการอนุรักษ์เต่าทะเลและป่าชายเลน
คอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ กฎระเบียบเกี่ยวกับมาตรฐานสินค้า
Furfuryl Alcohol สับปะรดกระป๋อง ท่อเหล็ก เหล็กแผ่นรีดร้อน มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและมาตรการตอบโต้การอุดหนุน
ลวดเหล็กแรงดึงสูง ถุงพลาสติกชนิดใช้หิ้ว
อัญมณีและเครื่องประดับ ของเล่น อุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า
เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาเกี่ยวกับมาตรการที่มิใช่ภาษีที่ไทยกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน นอกจากจะใช้เวทีการค้า
ระหว่างประเทศเพื่อหยิบยกประเด็นขึ้นหารือ และกำหนดมาตรฐานด้านคุณภาพและความปลอดภัยให้มีบรรทัดฐาน
เป็นที่ยอมรับร่วมกันแล้ว ในส่วนของภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องของไทยจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการตรวจสอบ
สินค้าก่อนการส่งออกและปราบปรามสินค้าด้อยมาตรฐานอย่างจริงจัง เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประเทศคู่ค้า ตลอดจน
เร่งปรับปรุงกระบวนการผลิตและดำเนินการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการ
แข่งขันในตลาดโลก รวมทั้งให้ความสำคัญกับการเผยแพร่ข้อมูลแก่ผู้ส่งออกในเรื่องกฎระเบียบเกี่ยวกับมาตรฐานสินค้า
ให้มีความชัดเจนและต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ส่งออกไทยสามารถปรับเปลี่ยนการผลิตให้สอดคล้องกับมาตรฐานตามที่ประเทศ
ผู้นำเข้ากำหนด
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย กรกฎาคม 2547--
-พห-
ระหว่างกันจะเห็นได้จากความพยายามในการจัดตั้งเขตการค้าเสรี (Free Trade Area: FTA) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อ
ให้การซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศทำได้อย่างเสรีโดยปราศจากอุปสรรคทางการค้า สำหรับประเทศไทยปัจจุบัน
มีการเจรจาจัดตั้งเขตการค้าเสรีกับ 8 ประเทศ ได้แก่ บาห์เรน จีน อินเดีย เปรู ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น
นิวซีแลนด์ และอีก 1 กลุ่มประเทศ คือ BIMST-EC โดยการเจรจาเพื่อลดภาษีสินค้าและบริการระหว่างกัน ควบคู่ไปกับ
การเจรจาในประเด็นเกี่ยวกับการผ่อนปรนมาตรการที่มิใช่ภาษีในลักษณะต่างๆ
ในส่วนของมาตรการที่มิใช่ภาษีซึ่งพบเห็นได้ทั่วไป ได้แก่ มาตรการด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช
(Sanitary and Phytosanitary Measures: SPS) อุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า (Technical Barriers
to Trade: TBT) มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-Dumping Measure: AD) มาตรการตอบโต้การอุดหนุน
(Countervailing Measure) รวมทั้งมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม เป็นต้น โดยเฉพาะมาตรการด้านสุขอนามัยและ
สุขอนามัยพืชเป็นมาตรการที่ประเทศคู่ค้าสำคัญส่วนใหญ่มักนำมาใช้ด้วยเหตุผลของการคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภค
เป็นสำคัญ ประกอบกับปัจจุบันสถานการณ์โลกมีความไม่แน่นอนสูงและปัญหาการก่อการร้ายข้ามชาติทวีความรุนแรงขึ้น
ส่งผลให้ทุกประเทศต่างวิตกกังวลเกี่ยวกับการปนเปื้อนของสารพิษในสินค้าอาหารและความปลอดภัยของสินค้าอุปโภค
บริโภคที่นำเข้า
มาตรการที่มิใช่ภาษีที่ประเทศคู่ค้าสำคัญที่อยู่ระหว่างการเจรจาจัดตั้งเขตการค้าเสรีกับไทยนำมาใช้กับ
สินค้าส่งออกของไทยมีดังนี้
ประเทศ สินค้า มาตรการ
จีน ข้าว อุปกรณ์รถยนต์ เหล็ก ผลิตภัณฑ์พลาสติก และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากฝ้าย มาตรการควบคุมการนำเข้า เช่น ผู้นำเข้าต้องเป็นธุรกิจที่ได้รับอนุมัติจากรัฐบาลจีน
ผักและผลไม้ ตะพาบน้ำ อาหารทะเลและอาหารทะเลกระป๋อง มาตรการด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช เช่น ข้อกำหนดเกี่ยวกับการปนเปื้อนของจุลินทรีย์
ออสเตรเลีย อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผักและผลไม้ ดอกกล้วยไม้ ไก่ต้มสุก มาตรการด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช เช่น ข้อกำหนดเกี่ยวกับแมลงศัตรูพืช
ท่อเหล็ก PVC น้ำสับปะรดเข้มข้นและสับปะรดกระป๋อง มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและมาตรการตอบโต้การอุดหนุน
ชั้นวางของทำด้วยเหล็กชนิดถอดประกอบ
สหรัฐอเมริกา อาหารทะเลและอาหารทะเลกระป๋อง ผักและผลไม้ มาตรการด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช เช่น ข้อกำหนดเกี่ยวกับแมลงศัตรูพืช และการปนเปื้อนของจุลินทรีย์
กุ้งแช่เย็นแช่แข็ง ปลาทูน่ากระป๋อง มาตรการด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ข้อกำหนดเพื่อการอนุรักษ์เต่าทะเลและป่าชายเลน
คอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ กฎระเบียบเกี่ยวกับมาตรฐานสินค้า
Furfuryl Alcohol สับปะรดกระป๋อง ท่อเหล็ก เหล็กแผ่นรีดร้อน มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและมาตรการตอบโต้การอุดหนุน
ลวดเหล็กแรงดึงสูง ถุงพลาสติกชนิดใช้หิ้ว
อัญมณีและเครื่องประดับ ของเล่น อุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า
เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาเกี่ยวกับมาตรการที่มิใช่ภาษีที่ไทยกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน นอกจากจะใช้เวทีการค้า
ระหว่างประเทศเพื่อหยิบยกประเด็นขึ้นหารือ และกำหนดมาตรฐานด้านคุณภาพและความปลอดภัยให้มีบรรทัดฐาน
เป็นที่ยอมรับร่วมกันแล้ว ในส่วนของภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องของไทยจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการตรวจสอบ
สินค้าก่อนการส่งออกและปราบปรามสินค้าด้อยมาตรฐานอย่างจริงจัง เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประเทศคู่ค้า ตลอดจน
เร่งปรับปรุงกระบวนการผลิตและดำเนินการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการ
แข่งขันในตลาดโลก รวมทั้งให้ความสำคัญกับการเผยแพร่ข้อมูลแก่ผู้ส่งออกในเรื่องกฎระเบียบเกี่ยวกับมาตรฐานสินค้า
ให้มีความชัดเจนและต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ส่งออกไทยสามารถปรับเปลี่ยนการผลิตให้สอดคล้องกับมาตรฐานตามที่ประเทศ
ผู้นำเข้ากำหนด
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย กรกฎาคม 2547--
-พห-