พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร วัน จันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 124 /2548 คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่วันที่ 17-23 ตุลาตม 2548 ในช่วงวันที่ 17-20 ต.ค. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนปกคลุมภาคเหนือและ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือทำให้มีอากาศเย็น ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกจะมีฝนฟ้าคะนองทางตอนล่างของภาคในระหว่างบ่ายถึงค่ำ ส่วนภาคใต้มีร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องฝนพาดผ่านตอนล่างของภาคจะมีฝนหนาแน่นตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงไป ในช่วงวันที่ 21-23 ต.ค. ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้อุณหภูมิลดลง 2-4 องศา ส่วนร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านภาคใต้ตอนล่างจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนัก หลายพื้นที่ ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 21-23 ต.ค. อุณหภูมิในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส เกษตรกร ในบริเวณดังกล่าวควรดูแลสุขภาพของคนในครอบครัวและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง ส่วนภาคใต้จะมีฝนตกเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่จังหวัด สุราษฎร์ธานีลงไปอาจเกิดสภาวะน้ำท่วมในที่ราบลุ่ม เกษตรกรในพื้นที่เสี่ยงภัยควรระวังและป้องกันความเสียหายจากสภาวะ ดังกล่าว ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่างๆในระยะ7วันข้างหน้ามีดังนี้ เหนือ ลักษณอากาศ # อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า ส่วนบริเวณยอดดอยอากาศหนาว โดยมีฝนบางแห่ง 10% ของพื้นที่ทางตอนล่างของภาค ในช่วงวันที่ 22-23 ต.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ผลกระทบต่อการเกษตร # เนื่องจากในช่วงวันที่ 22-23 ต.ค. จะมีอุณหภูมิลดลง 2-3 องศา เกษตรกรควรดูแลรักษาสุขภาพตนเองให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจด้วย นอกจากนี้ควรวางแผนการใช้น้ำอย่างประหยัดเพื่อจะได้มีน้ำใช้อย่างเพียงพอตลอดฤดูแล้ง ตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะอากาศ # อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่ง 10% ของพื้นที่ทางตอนล่างของภาค ในช่วงวันที่ 21-23 ต.ค. อุณหภูมิลดลง 2-4 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ผลกระทบต่อการเกษตร # ในช่วงวันที่ 21-23 ต.ค. จะมีอุณหภูมิลดลง 2-4 องศา ทำให้มีอากาศเย็นลงร่างกายอาจปรับตัวไม่ทัน เกษตรกรควรดูแล สุขภาพของครอบครัวและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง นอกจากนี้ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรให้อาหารน้อยลงเนื่องจากเมื่ออุณหภูมิลดลงสัตว์น้ำจะกินอาหารได้น้อยลง อาหารที่เหลืออาจจะทำให้น้ำเน่าเสีย รวมทั้งควรวางแผนการใช้น้ำให้เหมาะสม กลาง ลักษณะอากาศ # อากาศเย็นทางตอนบนของภาค ส่วนทางตอนล่างของภาคมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ 20% ของพื้นที่ ในระหว่างบ่าย ถึงค่ำ ในช่วงวันที่ 21-23 ต.ค. อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ผลกระทบต่อการเกษตร #เนื่องจากระยะนี้บริเวณภาคกลางตอนล่างยังคงมีฝน เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่ เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคแอนแทรกโนสในชมพู่และฝรั่ง นอกจากนี้ควรรักษาสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้ แข็งแรง เนื่องจากอากาศเริ่มเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ฤดูหนาว ตะวันออก ลักษณะอากาศ # มีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40% ของพื้นที่ ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 21-23 ต.ค. มีฝนลดลง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ผลกระทบต่อการเกษตร # ฝนที่ตกในระยะนี้ทำให้อากาศชื้น ชาวสวนควรระวังการระบาดของโรคที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรครากเน่าและ โคนเน่า และโรคแอนแทรกโนส นอกจากนี้ควรเก็บกักน้ำเอาไว้ใช้ในช่วงที่มีฝนน้อยด้วย ใต้ ลักษณะอากาศ #ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป 60-70% ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ตั้งแต่สุราษฎร์ธานีลงไป ในช่วงวันที่ 21-23 ต.ค. มีฝนเกือบทั่วไป 80% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. # ฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 22-23 ต.ค. มีฝนเกือบทั่วไป 70% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ผลกระทบต่อการเกษตร # ช่วงนี้จะมีฝนตกชุก ซึ่งอาจทำให้พื้นที่การเกษตรซึ่งเป็นที่ลุ่มเกิดสภาวะน้ำท่วมขังได้ เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่การเกษตร เพื่อป้องกันโรครากเน่าและโคนเน่าในไม้ผล สำหรับไม้ผลที่เก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้ว ชาวสวนควรตัดแต่งกิ่งให้โปร่ง แสงแดดส่องได้ถึงโคนต้น เพื่อช่วยลดการเจริญเติบโตของโรคและศัตรูพืช สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74-สส-