กรุงเทพ--25 ส.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลีว่า เมื่อวันที่ 22-24 กรกฎาคม 2548 ที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ร่วมกับสำนักงานต่างๆ ของไทยในกรุงนิวเดลีจัดงานโครงการ Thai Week ขึ้นที่ศูนย์การค้า Ansal Plaza ในกรุงนิวเดลี โดยมีรายละเอียดการจัดงาน ดังนี้
วันที่ 22 กรกฎาคม 2548 นายจีระศักดิ์ ธเนศนันท์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี ได้ร่วมกับนาย B.L. Joshi ผู้ว่าการกรุงนิวเดลี ได้ทำพิธีเปิดงานเทศกาลสัปดาห์ไทยหรือ Thai Week ขึ้น โดยมีคณะทูตานุทุต ข้าราชการระดับสูง บุคคลสำคัญต่างๆ ของอินเดีย นักธุรกิจชั้นนำแทบทุกสาขา ผู้นำเข้าสินค้าอาหารไทย ผู้แทนองค์กรด้านความร่วมมือไทย-อินเดีย และสื่อมวลชนทุกแขนง เข้าร่วมงาน สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จัดงานขึ้นที่ศูนย์กลางการค้า Ansal Plaza ซึ่งเป็นที่สาธารณะ จึงทำให้มีประชาชนชาวอินเดียเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ตลอดการจัดงาน 3 วัน ประมาณ 18,000-20,000 คน
การจัดงานในครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อนำศักยภาพและจุดเด่นของประเทศไทยในทุกด้านทั้งด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และอาหารไทย ไปส่งเสริมประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้นในหมู่ชาวอินเดีย นอกจากนี้ ยังได้เน้นถึงบทบาทของไทยในการเป็น (Kitchen of the World) “ครัวไทยสู่โลก” รวมทั้งการเปิดโอกาสให้ประชาชนชาวอินเดียได้ชิมอาหารไทย ผลไม้ไทย อีกทั้งสัมผัสกับวัฒนธรรมไทยอย่างใกล้ชิด สิ่งเหล่านี้จะช่วยย้ำความสัมพันธ์อันยาวนาน ความเข้าใจและความรู้สึกที่ดีต่อกันระหว่างไทยกับอินเดียให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
กิจกรรมภายในงานครั้งนี้ ได้แก่
1. “ครัวไทยสู่อินเดีย” (Thai Kitchen to India) โดยมีเป้าหมายที่จะขยายความนิยมอาหารไทยไปสู่ตลาดประชาชนชั้นกลางในวัยทำงาน และวัยรุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตและมีกำลังซื้อสูง โดยได้เน้นการแนะนำให้คนอินเดียรู้จักอาหารไทย รสชาติแบบไทยแท้ๆ ที่ปรุงโดยพ่อครัว/แม่ครัวไทย ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จัดให้คณะผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันราชภัฏสวนดุสิตไปสาธิตและเปิดชั้นเรียนอาหารไทยยอดนิยม เช่น แกงเขียวหวาน ผัดไทย ต้มยำกุ้ง ให้คนอินเดียได้ทดลองชิมและปรุงอย่างถูกวิธี รวมทั้ง จัดให้ร้านอาหารไทยในอินเดียที่มีพ่อครัว/แม่ครัวเป็นคนไทยมาร่วมออกร้านในงานด้วย ซึ่งก็ได้รับการต้อนรับจากผู้มาร่วมงานอย่างมาก นอกจากนั้นยังมีผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารไทยจากเมืองไทยและในกรุงนิวเดลีมาร่วมออกร้าน จำนวน 5 ร้าน ผู้ส่งออกสินค้าโอทอปของไทยยังได้รับการติดต่อจาก
นักธุรกิจอินเดียเพื่อสั่งนำเข้าไปจำหน่ายในอินเดียด้วย นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้นำ มังคุด และลำไย ซึ่งเป็นผลไม้ที่อยู่ในรายการ FTA ของไทย-อินเดีย ไปให้ผู้เข้าร่วมงานได้ชิมตลอดงาน และเป็นการช่วยระบายลำไยสู่ตลาดต่างประเทศตามนโยบายของรัฐบาล ผลปรากฏว่าผู้เข้าร่วมงาน ชาวอินเดียนิยมผลไม้ทั้งสองชนิดเป็นอย่างมาก
2. สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ได้ร่วมกันจัดหาผู้ส่งออก สินค้าไทยไปออกร้าน ทั้งสินค้าที่อยู่ในรายการ FTA และสินค้าอื่นๆ ที่มีศักยภาพ จำนวน 30 ร้าน สินค้า ที่ได้รับความสนใจในงานมาก ได้แก่ สินค้าอาหาร สินค้าโอทอป เครื่องตกแต่งบ้าน ดอกไม้ประดิษฐ์ อัญมณีและเครื่องประดับสตรี กระเป๋าถือ/เครื่องหนัง เสื้อผ้าที่ทำจากผ้าทอพื้นเมืองของไทยทั้งผ้าไหม และผ้าฝ้าย เสื้อผ้าสำเร็จรูปสมัยใหม่ สินค้าสปา เครื่องหอม และน้ำหอมดับกลิ่น ปรากฎว่ามีนักธุรกิจ อินเดียหลายรายติดต่อขอนำเข้าหรือขอให้ผลิตสินค้าในนามร้านของฝ่ายอินเดีย ตลอดจนให้ผลิตสินค้า แก่นักออกแบบชาวอินเดีย สินค้าดังกล่าวคือ อาหาร สินค้าโอทอป เครื่องประดับ เครื่องหนัง และเครื่องหอมดับกลิ่น เป็นต้น
3. การส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยตามนโยบาย Asia Tourism Capital โดยเฉพาะการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวอินเดียสู่ไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและการบินไทยก็ได้ให้ความร่วมมือ อย่างดียิ่งในการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวในรูปแบบการออกร้านการให้บริการข้อมูลการท่องเที่ยว แพคเกจการบิน เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้เข้าร่วมงานเดินทางไปท่องเที่ยวยังประเทศไทยโดยการบินไทยได้สนับสนุนรางวัลตั๋วเครื่องบินแก่ผู้มาซื้อสินค้าในงานและอาหารไทย 3 รางวัล รางวัลละ 2 ที่นั่ง ไปกรุงเทพฯ จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดกระบี่ ส่วนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยก็ได้จัดหารางวัลและที่พัก นอกจากนี้ ภายในงานยังจัดให้มีซุ้มนวดแผนไทย โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันราชภัฏสวนดุสิตด้วย
4. มีการแสดงนาฏศิลป์ไทย เพื่อเป็นการเน้นย้ำความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมอันยาวนานระหว่างไทยกับอินเดีย โดยใช้สื่อทางวัฒนธรรมไทยในการกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีโดยรวมในลักษณะการทูตวัฒนธรรม (Cultural Diplomacy) โดยการนำคณะนาฏศิลปจากกรมศิลปากรไปแสดงในงาน ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวอินเดียเป็นอย่างมาก
การจัดในครั้งนี้ นับว่าประสบความสำเร็จ อาหารไทยและสินค้าไทยเป็นที่สนใจและรู้จักของชาวอินเดียและชาวต่างชาติที่มาร่วมงานมากขึ้น ผู้เข้าร่วมงานได้แสดงความชื่นชมต่อการจัดงานในครั้งนี้และเห็นว่า สถานเอกอัครราชทูตฯ ควรจัดงานในลักษณะนี้อีกทุกๆ ปี เพื่อจะได้สัมผัสกับสินค้าคุณภาพและศิลปวัฒนธรรมอันงดงามของไทยอีก และในแง่ของการขยายผลในด้านความนิยม ตลาดอาหารไทย ผลไม้ไทย นับได้ว่างานนี้ได้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ที่ได้ตั้งไว้ คือ คนชั้นกลางระดับบน วัยทำงาน และวัยรุ่น ซึ่งเป็นคนกลุ่มใหญ่ที่สุดที่เข้าชมงาน สถานเอกอัครราชทูตฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการครัวไทยสู่อินเดีย (Thai Kitchen to India) จะไปสู่การขยายร้านอาหารไทยและบุกเบิกตลาดอาหารและผลิตภัณฑ์ในการประกอบอาหารไทยในตลาดอินเดียในอนาคต
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-
กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลีว่า เมื่อวันที่ 22-24 กรกฎาคม 2548 ที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ร่วมกับสำนักงานต่างๆ ของไทยในกรุงนิวเดลีจัดงานโครงการ Thai Week ขึ้นที่ศูนย์การค้า Ansal Plaza ในกรุงนิวเดลี โดยมีรายละเอียดการจัดงาน ดังนี้
วันที่ 22 กรกฎาคม 2548 นายจีระศักดิ์ ธเนศนันท์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี ได้ร่วมกับนาย B.L. Joshi ผู้ว่าการกรุงนิวเดลี ได้ทำพิธีเปิดงานเทศกาลสัปดาห์ไทยหรือ Thai Week ขึ้น โดยมีคณะทูตานุทุต ข้าราชการระดับสูง บุคคลสำคัญต่างๆ ของอินเดีย นักธุรกิจชั้นนำแทบทุกสาขา ผู้นำเข้าสินค้าอาหารไทย ผู้แทนองค์กรด้านความร่วมมือไทย-อินเดีย และสื่อมวลชนทุกแขนง เข้าร่วมงาน สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จัดงานขึ้นที่ศูนย์กลางการค้า Ansal Plaza ซึ่งเป็นที่สาธารณะ จึงทำให้มีประชาชนชาวอินเดียเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ตลอดการจัดงาน 3 วัน ประมาณ 18,000-20,000 คน
การจัดงานในครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อนำศักยภาพและจุดเด่นของประเทศไทยในทุกด้านทั้งด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และอาหารไทย ไปส่งเสริมประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้นในหมู่ชาวอินเดีย นอกจากนี้ ยังได้เน้นถึงบทบาทของไทยในการเป็น (Kitchen of the World) “ครัวไทยสู่โลก” รวมทั้งการเปิดโอกาสให้ประชาชนชาวอินเดียได้ชิมอาหารไทย ผลไม้ไทย อีกทั้งสัมผัสกับวัฒนธรรมไทยอย่างใกล้ชิด สิ่งเหล่านี้จะช่วยย้ำความสัมพันธ์อันยาวนาน ความเข้าใจและความรู้สึกที่ดีต่อกันระหว่างไทยกับอินเดียให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
กิจกรรมภายในงานครั้งนี้ ได้แก่
1. “ครัวไทยสู่อินเดีย” (Thai Kitchen to India) โดยมีเป้าหมายที่จะขยายความนิยมอาหารไทยไปสู่ตลาดประชาชนชั้นกลางในวัยทำงาน และวัยรุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตและมีกำลังซื้อสูง โดยได้เน้นการแนะนำให้คนอินเดียรู้จักอาหารไทย รสชาติแบบไทยแท้ๆ ที่ปรุงโดยพ่อครัว/แม่ครัวไทย ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จัดให้คณะผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันราชภัฏสวนดุสิตไปสาธิตและเปิดชั้นเรียนอาหารไทยยอดนิยม เช่น แกงเขียวหวาน ผัดไทย ต้มยำกุ้ง ให้คนอินเดียได้ทดลองชิมและปรุงอย่างถูกวิธี รวมทั้ง จัดให้ร้านอาหารไทยในอินเดียที่มีพ่อครัว/แม่ครัวเป็นคนไทยมาร่วมออกร้านในงานด้วย ซึ่งก็ได้รับการต้อนรับจากผู้มาร่วมงานอย่างมาก นอกจากนั้นยังมีผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารไทยจากเมืองไทยและในกรุงนิวเดลีมาร่วมออกร้าน จำนวน 5 ร้าน ผู้ส่งออกสินค้าโอทอปของไทยยังได้รับการติดต่อจาก
นักธุรกิจอินเดียเพื่อสั่งนำเข้าไปจำหน่ายในอินเดียด้วย นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้นำ มังคุด และลำไย ซึ่งเป็นผลไม้ที่อยู่ในรายการ FTA ของไทย-อินเดีย ไปให้ผู้เข้าร่วมงานได้ชิมตลอดงาน และเป็นการช่วยระบายลำไยสู่ตลาดต่างประเทศตามนโยบายของรัฐบาล ผลปรากฏว่าผู้เข้าร่วมงาน ชาวอินเดียนิยมผลไม้ทั้งสองชนิดเป็นอย่างมาก
2. สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ได้ร่วมกันจัดหาผู้ส่งออก สินค้าไทยไปออกร้าน ทั้งสินค้าที่อยู่ในรายการ FTA และสินค้าอื่นๆ ที่มีศักยภาพ จำนวน 30 ร้าน สินค้า ที่ได้รับความสนใจในงานมาก ได้แก่ สินค้าอาหาร สินค้าโอทอป เครื่องตกแต่งบ้าน ดอกไม้ประดิษฐ์ อัญมณีและเครื่องประดับสตรี กระเป๋าถือ/เครื่องหนัง เสื้อผ้าที่ทำจากผ้าทอพื้นเมืองของไทยทั้งผ้าไหม และผ้าฝ้าย เสื้อผ้าสำเร็จรูปสมัยใหม่ สินค้าสปา เครื่องหอม และน้ำหอมดับกลิ่น ปรากฎว่ามีนักธุรกิจ อินเดียหลายรายติดต่อขอนำเข้าหรือขอให้ผลิตสินค้าในนามร้านของฝ่ายอินเดีย ตลอดจนให้ผลิตสินค้า แก่นักออกแบบชาวอินเดีย สินค้าดังกล่าวคือ อาหาร สินค้าโอทอป เครื่องประดับ เครื่องหนัง และเครื่องหอมดับกลิ่น เป็นต้น
3. การส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยตามนโยบาย Asia Tourism Capital โดยเฉพาะการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวอินเดียสู่ไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและการบินไทยก็ได้ให้ความร่วมมือ อย่างดียิ่งในการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวในรูปแบบการออกร้านการให้บริการข้อมูลการท่องเที่ยว แพคเกจการบิน เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้เข้าร่วมงานเดินทางไปท่องเที่ยวยังประเทศไทยโดยการบินไทยได้สนับสนุนรางวัลตั๋วเครื่องบินแก่ผู้มาซื้อสินค้าในงานและอาหารไทย 3 รางวัล รางวัลละ 2 ที่นั่ง ไปกรุงเทพฯ จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดกระบี่ ส่วนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยก็ได้จัดหารางวัลและที่พัก นอกจากนี้ ภายในงานยังจัดให้มีซุ้มนวดแผนไทย โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันราชภัฏสวนดุสิตด้วย
4. มีการแสดงนาฏศิลป์ไทย เพื่อเป็นการเน้นย้ำความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมอันยาวนานระหว่างไทยกับอินเดีย โดยใช้สื่อทางวัฒนธรรมไทยในการกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีโดยรวมในลักษณะการทูตวัฒนธรรม (Cultural Diplomacy) โดยการนำคณะนาฏศิลปจากกรมศิลปากรไปแสดงในงาน ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวอินเดียเป็นอย่างมาก
การจัดในครั้งนี้ นับว่าประสบความสำเร็จ อาหารไทยและสินค้าไทยเป็นที่สนใจและรู้จักของชาวอินเดียและชาวต่างชาติที่มาร่วมงานมากขึ้น ผู้เข้าร่วมงานได้แสดงความชื่นชมต่อการจัดงานในครั้งนี้และเห็นว่า สถานเอกอัครราชทูตฯ ควรจัดงานในลักษณะนี้อีกทุกๆ ปี เพื่อจะได้สัมผัสกับสินค้าคุณภาพและศิลปวัฒนธรรมอันงดงามของไทยอีก และในแง่ของการขยายผลในด้านความนิยม ตลาดอาหารไทย ผลไม้ไทย นับได้ว่างานนี้ได้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ที่ได้ตั้งไว้ คือ คนชั้นกลางระดับบน วัยทำงาน และวัยรุ่น ซึ่งเป็นคนกลุ่มใหญ่ที่สุดที่เข้าชมงาน สถานเอกอัครราชทูตฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการครัวไทยสู่อินเดีย (Thai Kitchen to India) จะไปสู่การขยายร้านอาหารไทยและบุกเบิกตลาดอาหารและผลิตภัณฑ์ในการประกอบอาหารไทยในตลาดอินเดียในอนาคต
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-