กรุงเทพ--13 ส.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
ด้วยเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2547 นาย Abdulla Hassan Al Saif รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังบาห์เรน ได้เข้าพบ ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ ต่างประเทศ ที่กระทรวงการต่างประเทศ ภายหลังการพบหารือดังกล่าว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ดังนี้
1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังบาห์เรนได้มาพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยได้แสดงความปรารถนาที่จะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับบาห์เรนให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ทั้งนี้ นาย Abdulla Hassan Al Saif ดำรงตำแหน่งเป็น หัวหน้าคณะเจรจาเรื่อง FTA ระหว่างบาห์เรน-สหรัฐฯ ด้วย ซึ่งจะมีการลงนามระหว่างกัน ในปลายเดือนกันยายน ศกนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจึงแสดงความประสงค์ที่จะให้หัวหน้าคณะเจรจาเรื่อง FTA ของไทยได้มีโอกาสพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังบาห์เรนด้วย เพื่อจะได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันและกันอันจะเป็นประโยชน์ ต่อทั้งสองประเทศ
2. ดร. สุรเกียรติ์ฯ ย้ำว่า บาห์เรนได้ช่วยเหลือไทยในการเจรจากับประเทศ ซาอุดิอาระเบียมาโดยตลอด จึงได้แสดงความขอบคุณฝ่ายบาห์เรนที่ได้ช่วยอธิบายสิ่งต่างๆ ให้กับทางซาอุดิอาระเบียจนความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดิอาระเบียในขณะนี้ดีขึ้น โดยล่าสุดเจ้าชาย Saud Al Faisal Bin Abdull Aziz Al Saud รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศซาอุดิอาระเบีย ก็ได้มีหนังสือตอบขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่ได้เชิญให้มาเยือนไทย โดยเห็นด้วยแล้วในหลักการที่จะเยือนไทย ส่วนเวลาที่เหมาะสมนั้นจะหารือกันต่อไป ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่เจ้าชายองค์สำคัญของซาอุดิอาระเบียได้ตอบรับในหลักการที่จะเยือนไทย หลังจากที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เดินทางเยือนซาอุดิอาระเบียเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการเยือนอย่างเป็นทางการของ ระดับรัฐมนตรีของไทยครั้งแรกในรอบ 10 ปี
3. นอกจากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังบาห์เรนได้แสดงความประสงค์ให้บริษัทก่อสร้างไทยเข้าไปประมูลและรับงานต่างๆ ในบาห์เรนให้มากยิ่งขึ้น เนื่องจากยังมีงานการก่อสร้างอีกมากมายในบาห์เรน และทางบาห์เรนก็พร้อมที่จะให้ คำแนะนำและให้การสนับสนุนบริษัทต่างๆ ของไทย ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ ต่างประเทศได้เรียนว่ามีสมาคมนักธุรกิจมุสลิมของไทยสนใจจะไปลงทุนเปิดศูนย์กระจาย สินค้าที่บาห์เรนไปยังกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (GCC) ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังบาห์เรนก็แสดงความยินดี โดยหากนักธุรกิจไทยไปบาห์เรนเมื่อใดก็ยินดี ให้เข้าพบได้ตลอดเวลา 4. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังบาห์เรนแสดงความกระตือรือร้นยิ่งในการผลักดันความร่วมมือในกรอบ ACD รวมทั้งให้การสนับสนุนเรื่อง Asia Bond เป็นอย่างมาก
5. ประการสุดท้าย รัฐมนตรีว่าการะกระทรวงการคลังบาห์เรนได้แสดงความพร้อมที่จะเข้ามาช่วยเหลือประเทศไทยในการจัดหลักสูตรเรียนภาษาอาหรับหากมีการตั้งมหาวิทยาลัยระหว่างไทยกับกับมหาวิทยาลัย Al-Azhar ของอียิปต์ขึ้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย ซึ่งเรื่องนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เคยหารือกับอธิการบดีของมหาวิทยาลัย Al-Azhar แล้ว ทั้งนี้ บาห์เรนมีความเชี่ยวชาญเรื่องหลักสูตรทางภาษาศาสตร์ เพราะฉะนั้น หากจะมีการเรียนภาษาควรให้บาห์เรนเข้ามามีส่วนร่วมด้วย ซึ่งบาห์เรนก็มีความยินดี โดยอาจจะส่งคนเข้ามาช่วยสอนหรือช่วยจัดหลักสูตรให้ ทั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นความสัมพันธ์ที่เป็นพิเศษระหว่างไทยกับบาห์เรน
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-
ด้วยเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2547 นาย Abdulla Hassan Al Saif รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังบาห์เรน ได้เข้าพบ ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ ต่างประเทศ ที่กระทรวงการต่างประเทศ ภายหลังการพบหารือดังกล่าว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ดังนี้
1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังบาห์เรนได้มาพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยได้แสดงความปรารถนาที่จะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับบาห์เรนให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ทั้งนี้ นาย Abdulla Hassan Al Saif ดำรงตำแหน่งเป็น หัวหน้าคณะเจรจาเรื่อง FTA ระหว่างบาห์เรน-สหรัฐฯ ด้วย ซึ่งจะมีการลงนามระหว่างกัน ในปลายเดือนกันยายน ศกนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจึงแสดงความประสงค์ที่จะให้หัวหน้าคณะเจรจาเรื่อง FTA ของไทยได้มีโอกาสพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังบาห์เรนด้วย เพื่อจะได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันและกันอันจะเป็นประโยชน์ ต่อทั้งสองประเทศ
2. ดร. สุรเกียรติ์ฯ ย้ำว่า บาห์เรนได้ช่วยเหลือไทยในการเจรจากับประเทศ ซาอุดิอาระเบียมาโดยตลอด จึงได้แสดงความขอบคุณฝ่ายบาห์เรนที่ได้ช่วยอธิบายสิ่งต่างๆ ให้กับทางซาอุดิอาระเบียจนความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดิอาระเบียในขณะนี้ดีขึ้น โดยล่าสุดเจ้าชาย Saud Al Faisal Bin Abdull Aziz Al Saud รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศซาอุดิอาระเบีย ก็ได้มีหนังสือตอบขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่ได้เชิญให้มาเยือนไทย โดยเห็นด้วยแล้วในหลักการที่จะเยือนไทย ส่วนเวลาที่เหมาะสมนั้นจะหารือกันต่อไป ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่เจ้าชายองค์สำคัญของซาอุดิอาระเบียได้ตอบรับในหลักการที่จะเยือนไทย หลังจากที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เดินทางเยือนซาอุดิอาระเบียเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการเยือนอย่างเป็นทางการของ ระดับรัฐมนตรีของไทยครั้งแรกในรอบ 10 ปี
3. นอกจากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังบาห์เรนได้แสดงความประสงค์ให้บริษัทก่อสร้างไทยเข้าไปประมูลและรับงานต่างๆ ในบาห์เรนให้มากยิ่งขึ้น เนื่องจากยังมีงานการก่อสร้างอีกมากมายในบาห์เรน และทางบาห์เรนก็พร้อมที่จะให้ คำแนะนำและให้การสนับสนุนบริษัทต่างๆ ของไทย ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ ต่างประเทศได้เรียนว่ามีสมาคมนักธุรกิจมุสลิมของไทยสนใจจะไปลงทุนเปิดศูนย์กระจาย สินค้าที่บาห์เรนไปยังกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (GCC) ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังบาห์เรนก็แสดงความยินดี โดยหากนักธุรกิจไทยไปบาห์เรนเมื่อใดก็ยินดี ให้เข้าพบได้ตลอดเวลา 4. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังบาห์เรนแสดงความกระตือรือร้นยิ่งในการผลักดันความร่วมมือในกรอบ ACD รวมทั้งให้การสนับสนุนเรื่อง Asia Bond เป็นอย่างมาก
5. ประการสุดท้าย รัฐมนตรีว่าการะกระทรวงการคลังบาห์เรนได้แสดงความพร้อมที่จะเข้ามาช่วยเหลือประเทศไทยในการจัดหลักสูตรเรียนภาษาอาหรับหากมีการตั้งมหาวิทยาลัยระหว่างไทยกับกับมหาวิทยาลัย Al-Azhar ของอียิปต์ขึ้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย ซึ่งเรื่องนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เคยหารือกับอธิการบดีของมหาวิทยาลัย Al-Azhar แล้ว ทั้งนี้ บาห์เรนมีความเชี่ยวชาญเรื่องหลักสูตรทางภาษาศาสตร์ เพราะฉะนั้น หากจะมีการเรียนภาษาควรให้บาห์เรนเข้ามามีส่วนร่วมด้วย ซึ่งบาห์เรนก็มีความยินดี โดยอาจจะส่งคนเข้ามาช่วยสอนหรือช่วยจัดหลักสูตรให้ ทั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นความสัมพันธ์ที่เป็นพิเศษระหว่างไทยกับบาห์เรน
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-