แท็ก
สหรัฐ
นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยภาวะส่งออกข้าวในเดือน
กรกฎาคม 2547 ว่า สามารถส่งออกข้าวได้เป็นประวัติการณ์ทั้งปริมาณและมูลค่า โดยส่งออกได้สูงถึง 0.997
ล้านตัน มูลค่า 270 ล้านเหรียญสหรัฐฯ(10,881 ล้านบาท) โดยปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อย
ละ 5 และ 6 และสูงกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 46 และ 73 ตามลำดับ ชนิดข้าวส่งออกในช่วงนี้
ส่วนใหญ่เป็นข้าวขาวและข้าวนึ่ง โดยตลาดส่งออกที่สำคัญได้แก่ ไนจีเรีย อิหร่าน เซเนกัล
อิรัก ฟิลิปปินส์ แอฟริกาใต้ อังโกลา กานา ไอเวอรี่โคสต์
จีน สหรัฐฯ
ในช่วงมกราคม-กรกฎาคม 2547 สามารถส่งออกข้าวได้แล้วประมาณ 5.63 ล้านตันมูลค่า 1,512
ล้านเหรียญสหรัฐฯ( 59,818 ล้านบาท) ปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 43 และ
65 ตามลำดับ โดยข้าวที่ส่งออกดังกล่าวเป็นข้าวหอมมะลิไทยจำนวน 1.23 ล้านตัน มูลค่า 500 ล้านเหรียญ
สหรัฐฯ(19,970 ล้านบาท) หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 22 และ 33 ของปริมาณและมูลค่าการส่งออกทั้งหมด
ตามลำดับ
ราคาข้าวส่งออกของไทยในเดือนกรกฎาคม 2547 ได้ปรับตัวสูงขึ้นจากเดือนก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผล
จากการที่คณะกรรมการนโยบายข้าว(กนข.) ได้ประกาศราคารับจำนำข้าวเปลือกเพิ่มขึ้น โดยข้าวเปลือก
นาปรังปี 2547 เพิ่มขึ้นในอัตราตันละ 650 บาท ส่วนข้าวเปลือกนาปี ปี 2547/48 เพิ่มขึ้นตันละ 1,000 บาท
ผู้ซื้อต่างประเทศเกรงว่าราคาข้าวจะปรับสูงขึ้นไปมาก จึงได้สั่งซื้อเพิ่มเติมพร้อมทั้งเร่งส่งเรือเข้ามารับ
มอบข้าวมากขึ้น ส่งผลให้ราคาข้าวส่งออกในเดือนกรกฎาคม 2547 ได้ปรับตัวสูงขึ้นทุกชนิดโดยข้าวหอมมะลิ
ไทย 100 % ชั้น 2 มีราคาเฉลี่ยส่งออกตันละ 438 เหรียญสหรัฐฯ และข้าวขาว 100 % ชั้น 2 มี
ราคาเฉลี่ยส่งออกตันละ 238 เหรียญสหรัฐ สำหรับราคาข้าวเปลือกหอมมะลิมีราคาเฉลี่ยตันละ 7,710 บาท
และข้าวเปลือกเจ้านาปรังความชื้นไม่เกิน 15 % มีราคาเฉลี่ยตันละ 5,420 บาท
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงแนวโน้มการส่งออกข้าวในเดือนสิงหาคม 2547
ว่า จากการที่แหล่งอุปทานข้าวสำคัญยังค่อนข้างมีข้อจำกัดในด้านปริมาณข้าวเหลือส่งออก ทำให้ประเทศผู้นำ
เข้าข้าวต้องพึ่งพาแหล่งข้าวจากไทยเป็นหลัก และยังมีคำสั่งซื้อเข้ามาก การส่งออกเดือนสิงหาคม 2547
คาดว่าจะยังคงมีปริมาณใกล้เคียงกับเดือนที่ผ่านมา และในปี 2547 การส่งออกข้าวโดยรวมคาดว่าจะมี
ปริมาณไม่น้อยกว่า 9 ล้านตัน มูลค่า 2,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
อนึ่งผลจากการที่กรมการค้าต่างประเทศได้จัดคณะผู้แทนร่วมภาครัฐและเอกชนเดินทางไปเจรจา
ขยายตลาดข้าวและประชาสัมพันธ์ข้าวหอมมะลิไทย ณ นครลอสแอนเจลีส และเมืองไมอามี่ การดำเนิน
การดังกล่าวได้รับการตอบรับจากผู้นำเข้าข้าวเป็นอย่างดี โดยได้มีการพบปะผู้ซื้อข้าวรายใหม่ๆและขณะนี้ยังมีผู้
ส่งออกข้าวของไทยหลายรายอยู่ระหว่างเจรจาตกลงซื้อขาย นอกจากนี้จะมีคณะผู้แทนการค้าร่วมภาครัฐและ
เอกชน นำโดยผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เดินทางไปมณฑลเจ้อเจียงเพื่อเจรจาขยายตลาดและจัด
กิจกรรมประชาสัมพันธ์ข้าวหอมมะลิไทยและผลไม้ไทย ที่เมืองเวิ้นโจวและเมืองหนิงโปในระหว่างวันที่ 13-16
สิงหาคม ศกนี้
--กรมการค้าต่างประเทศ สิงหาคม 2547--
-สส-
กรกฎาคม 2547 ว่า สามารถส่งออกข้าวได้เป็นประวัติการณ์ทั้งปริมาณและมูลค่า โดยส่งออกได้สูงถึง 0.997
ล้านตัน มูลค่า 270 ล้านเหรียญสหรัฐฯ(10,881 ล้านบาท) โดยปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อย
ละ 5 และ 6 และสูงกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 46 และ 73 ตามลำดับ ชนิดข้าวส่งออกในช่วงนี้
ส่วนใหญ่เป็นข้าวขาวและข้าวนึ่ง โดยตลาดส่งออกที่สำคัญได้แก่ ไนจีเรีย อิหร่าน เซเนกัล
อิรัก ฟิลิปปินส์ แอฟริกาใต้ อังโกลา กานา ไอเวอรี่โคสต์
จีน สหรัฐฯ
ในช่วงมกราคม-กรกฎาคม 2547 สามารถส่งออกข้าวได้แล้วประมาณ 5.63 ล้านตันมูลค่า 1,512
ล้านเหรียญสหรัฐฯ( 59,818 ล้านบาท) ปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 43 และ
65 ตามลำดับ โดยข้าวที่ส่งออกดังกล่าวเป็นข้าวหอมมะลิไทยจำนวน 1.23 ล้านตัน มูลค่า 500 ล้านเหรียญ
สหรัฐฯ(19,970 ล้านบาท) หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 22 และ 33 ของปริมาณและมูลค่าการส่งออกทั้งหมด
ตามลำดับ
ราคาข้าวส่งออกของไทยในเดือนกรกฎาคม 2547 ได้ปรับตัวสูงขึ้นจากเดือนก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผล
จากการที่คณะกรรมการนโยบายข้าว(กนข.) ได้ประกาศราคารับจำนำข้าวเปลือกเพิ่มขึ้น โดยข้าวเปลือก
นาปรังปี 2547 เพิ่มขึ้นในอัตราตันละ 650 บาท ส่วนข้าวเปลือกนาปี ปี 2547/48 เพิ่มขึ้นตันละ 1,000 บาท
ผู้ซื้อต่างประเทศเกรงว่าราคาข้าวจะปรับสูงขึ้นไปมาก จึงได้สั่งซื้อเพิ่มเติมพร้อมทั้งเร่งส่งเรือเข้ามารับ
มอบข้าวมากขึ้น ส่งผลให้ราคาข้าวส่งออกในเดือนกรกฎาคม 2547 ได้ปรับตัวสูงขึ้นทุกชนิดโดยข้าวหอมมะลิ
ไทย 100 % ชั้น 2 มีราคาเฉลี่ยส่งออกตันละ 438 เหรียญสหรัฐฯ และข้าวขาว 100 % ชั้น 2 มี
ราคาเฉลี่ยส่งออกตันละ 238 เหรียญสหรัฐ สำหรับราคาข้าวเปลือกหอมมะลิมีราคาเฉลี่ยตันละ 7,710 บาท
และข้าวเปลือกเจ้านาปรังความชื้นไม่เกิน 15 % มีราคาเฉลี่ยตันละ 5,420 บาท
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงแนวโน้มการส่งออกข้าวในเดือนสิงหาคม 2547
ว่า จากการที่แหล่งอุปทานข้าวสำคัญยังค่อนข้างมีข้อจำกัดในด้านปริมาณข้าวเหลือส่งออก ทำให้ประเทศผู้นำ
เข้าข้าวต้องพึ่งพาแหล่งข้าวจากไทยเป็นหลัก และยังมีคำสั่งซื้อเข้ามาก การส่งออกเดือนสิงหาคม 2547
คาดว่าจะยังคงมีปริมาณใกล้เคียงกับเดือนที่ผ่านมา และในปี 2547 การส่งออกข้าวโดยรวมคาดว่าจะมี
ปริมาณไม่น้อยกว่า 9 ล้านตัน มูลค่า 2,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
อนึ่งผลจากการที่กรมการค้าต่างประเทศได้จัดคณะผู้แทนร่วมภาครัฐและเอกชนเดินทางไปเจรจา
ขยายตลาดข้าวและประชาสัมพันธ์ข้าวหอมมะลิไทย ณ นครลอสแอนเจลีส และเมืองไมอามี่ การดำเนิน
การดังกล่าวได้รับการตอบรับจากผู้นำเข้าข้าวเป็นอย่างดี โดยได้มีการพบปะผู้ซื้อข้าวรายใหม่ๆและขณะนี้ยังมีผู้
ส่งออกข้าวของไทยหลายรายอยู่ระหว่างเจรจาตกลงซื้อขาย นอกจากนี้จะมีคณะผู้แทนการค้าร่วมภาครัฐและ
เอกชน นำโดยผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เดินทางไปมณฑลเจ้อเจียงเพื่อเจรจาขยายตลาดและจัด
กิจกรรมประชาสัมพันธ์ข้าวหอมมะลิไทยและผลไม้ไทย ที่เมืองเวิ้นโจวและเมืองหนิงโปในระหว่างวันที่ 13-16
สิงหาคม ศกนี้
--กรมการค้าต่างประเทศ สิงหาคม 2547--
-สส-