“อภิรักษ์” นำทีมบริหารชุดใหญ่ ประกาศ”ปฏิญญากรุงเทพฯของเรา” โชว์ความพร้อมเข้าทำงานรับใช้พี่น้องชาวกรุงเทพฯ ทันที หากได้รับเลือกตั้ง วอนขอ “หนึ่งเสียงของท่านเป็นพลังเปลี่ยนกรุงเทพฯ” ย้ำทุกนโยบายที่ประกาศไว้ถือเป็นสัญญาประชาคม เน้นบริหารกรุงเทพฯอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และกล้าให้ตรวจสอบ
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 26 สิงหาคมนี้ ที่ห้องประชุมใหญ่ พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) หมายเลข 1 ได้นำทีมงานบริหารกทม.เปิดแถลงข่าวประกาศความพร้อมสูงสุดเพื่อเข้าบริหารงานกทม. รับใช้พี่น้องชาวกรุงเทพฯ หากได้รับการเลือกตั้งในอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคมนี้
ทั้งนี้มีผู้เข้าร่วมแถลงข่าวประกอบด้วย ทีมงานรองผู้ว่าฯกทม. 4 ท่านคือ ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ ฝ่ายการโยธาและจราจร, ดร.วัลลภ สุวรรณดี ฝ่ายการศึกษา, ศาสตราจารย์เกียรติคุณ พญ.เพ็ญศรี พิชัยสนิธ ฝ่ายสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม และนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ฝ่ายการคลัง รวมทั้งทีมที่ปรึกษา คือ ศาสตราจารย์ดร.ตรึงใจ บูรณสมภพ, ศาสตราภิชาน ไกรฤทธิ์ บุณยเกียรติ, ดร.สุขพัฒน์ ทองเพ็ง, ดร.ผุสดี ตามไท, นายพรวุฒิ สารสิน, นางทิชา ณ นคร และ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์
นายอภิรักษ์ แถลงว่า หากได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯกทม.ในวันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคมนี้ ขอให้คำมั่นสัญญากับพี่น้องประชาชนด้วย “ปฏิญญากรุงเทพฯของเรา” ซึ่งถือเป็นสัญญาประชาคมตลอด 4 ปีในการทำหน้าที่ ดังต่อไปนี้
1.ผมและทีมงานจะเร่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าของพี่น้องชาวกรุงเทพฯให้คลี่คลายอย่างรวดเร็ว
2.ผมและทีมงานจะทุ่มเทใช้ประสบการณ์และความสามารถ เพื่อเปลี่ยนแปลงกรุงเทพฯให้ดีขึ้นทุกด้าน ตามนโยบายที่ประกาศไว้
3.ทุกแผนงาน ทุกโครงการ จะดำเนินการอย่างเปิดเผย โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ และประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องชาวกรุงเทพฯอย่างแท้จริง
4.ผมและทีมงานจะบริหารจัดการกรุงเทพฯโดยเน้นการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชนทุกระดับอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้ามาร่วมกันสร้างสรรค์เมืองหลวงของเราให้เป็นเมืองที่น่าอยู่อย่างยั่งยืน
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ตลอดเวลา 8 เดือนหลังจากที่ได้อาสาชาวกรุงเทพฯขอเข้ามาทำหน้าที่ผู้ว่าฯกทม.เป็นคนแรก ได้ทุ่มเทเรียนรู้ปัญหาของกรุงเทพฯอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง พร้อมกับจัดตั้งทีมงานนโยบายด้านต่างๆเข้ามารับผิดชอบ นำเสนอแนวทางแก้ไขอย่างเป็นระบบ บัดนี้แนวนโยบายต่างๆที่ได้ผ่านการศึกษา วิเคราะห์ มาอย่างละเอียด สามารถนำเสนอเป็นโครงการอย่างเป็นรูปธรรมและได้ประกาศเป็นสัญญาประชาคมกับชาวกรุงเทพฯไว้อย่างหนักแน่นแล้ว
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า นโยบายที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ อาทิ โครงการรถเมล์ด่วนพิเศษ (บีอาร์ที) ที่รอรถแท็กซี่อัจฉริยะ ที่จอดรถอัจฉริยะ ป้ายจราจรอัจฉริยะ โครงการถนนรูปแบบใหม่, การเพิ่มพื้นที่สีเขียวและลานชีวิตใหม่ในวันหยุด, การจัดเก็บขยะไม่ให้ตกค้าง, การดูแลหาบเร่แผงลอยให้เป็นระเบียบที่เน้นให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม, แผนงานแก้ปัญหาน้ำท่วมขังให้ทันเหตุการณ์, การช่วยเหลือเด็ก-ผู้หญิง คนพิการ ผู้ด้อยโอกาสและผู้ประสบปัญหาความรุนแรงในครอบครัว, การจัดตั้งสโมสรกีฬา ศิลปะ และดนตรีทุกเขต, การจัดสร้างหอศิลป์กรุงเทพฯ, โครงการบริการกทม.ครบวงจรในจุดเดียว, การจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมอาชีพครบวงจร, การจัดตั้งศูนย์แนะนำและบริหารเงินออมครอบครัว และกองทุนพัฒนาอาชีพ ทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้เป็นโครงการที่จะดำเนินการทันที ซึ่งจะทำให้กรุงเทพฯของเราเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน
นายอภิรักษ์ เผยอีกว่า สำหรับทีมงานทั้งรองผู้ว่าฯและทีมงานที่ปรึกษาทุกคนที่ให้เกียรติมาร่วมงานกับตน ล้วนแต่เป็นผู้มีความรู้ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆอย่างแท้จริง ตนและทีมงานทั้งหมดพร้อมจะทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจ และความสามารถเพื่อสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตใหม่ให้กับชาวกรุงเทพฯทุกคนตามความมุ่งมั่นให้จงได้ ทั้งนี้จะเน้นการบริหารที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และกล้าให้ตรวจสอบในทุกแผนงาน โดยได้รับเกียรติจาก ดร.สิปปนนท์ เกตุทัต จะมาเป็นประธานสภาติดตามประเมินผลการบริหารจัดการของกทม.ด้วย
“วันนี้ผมยืนยันความพร้อมอีกครั้ง และตั้งความหวังว่า ชาวกรุงเทพฯทุกคน จะร่วมกับผมผลักดันความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคมนี้ ผมขอหนึ่งเสียงของท่าน เพื่อเป็นพลังสำคัญเปลี่ยนกรุงเทพฯครับ” นายอภิรักษ์ กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 26 ส.ค. 2547--จบ--
-ดท-
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 26 สิงหาคมนี้ ที่ห้องประชุมใหญ่ พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) หมายเลข 1 ได้นำทีมงานบริหารกทม.เปิดแถลงข่าวประกาศความพร้อมสูงสุดเพื่อเข้าบริหารงานกทม. รับใช้พี่น้องชาวกรุงเทพฯ หากได้รับการเลือกตั้งในอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคมนี้
ทั้งนี้มีผู้เข้าร่วมแถลงข่าวประกอบด้วย ทีมงานรองผู้ว่าฯกทม. 4 ท่านคือ ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ ฝ่ายการโยธาและจราจร, ดร.วัลลภ สุวรรณดี ฝ่ายการศึกษา, ศาสตราจารย์เกียรติคุณ พญ.เพ็ญศรี พิชัยสนิธ ฝ่ายสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม และนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ฝ่ายการคลัง รวมทั้งทีมที่ปรึกษา คือ ศาสตราจารย์ดร.ตรึงใจ บูรณสมภพ, ศาสตราภิชาน ไกรฤทธิ์ บุณยเกียรติ, ดร.สุขพัฒน์ ทองเพ็ง, ดร.ผุสดี ตามไท, นายพรวุฒิ สารสิน, นางทิชา ณ นคร และ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์
นายอภิรักษ์ แถลงว่า หากได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯกทม.ในวันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคมนี้ ขอให้คำมั่นสัญญากับพี่น้องประชาชนด้วย “ปฏิญญากรุงเทพฯของเรา” ซึ่งถือเป็นสัญญาประชาคมตลอด 4 ปีในการทำหน้าที่ ดังต่อไปนี้
1.ผมและทีมงานจะเร่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าของพี่น้องชาวกรุงเทพฯให้คลี่คลายอย่างรวดเร็ว
2.ผมและทีมงานจะทุ่มเทใช้ประสบการณ์และความสามารถ เพื่อเปลี่ยนแปลงกรุงเทพฯให้ดีขึ้นทุกด้าน ตามนโยบายที่ประกาศไว้
3.ทุกแผนงาน ทุกโครงการ จะดำเนินการอย่างเปิดเผย โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ และประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องชาวกรุงเทพฯอย่างแท้จริง
4.ผมและทีมงานจะบริหารจัดการกรุงเทพฯโดยเน้นการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชนทุกระดับอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้ามาร่วมกันสร้างสรรค์เมืองหลวงของเราให้เป็นเมืองที่น่าอยู่อย่างยั่งยืน
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ตลอดเวลา 8 เดือนหลังจากที่ได้อาสาชาวกรุงเทพฯขอเข้ามาทำหน้าที่ผู้ว่าฯกทม.เป็นคนแรก ได้ทุ่มเทเรียนรู้ปัญหาของกรุงเทพฯอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง พร้อมกับจัดตั้งทีมงานนโยบายด้านต่างๆเข้ามารับผิดชอบ นำเสนอแนวทางแก้ไขอย่างเป็นระบบ บัดนี้แนวนโยบายต่างๆที่ได้ผ่านการศึกษา วิเคราะห์ มาอย่างละเอียด สามารถนำเสนอเป็นโครงการอย่างเป็นรูปธรรมและได้ประกาศเป็นสัญญาประชาคมกับชาวกรุงเทพฯไว้อย่างหนักแน่นแล้ว
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า นโยบายที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ อาทิ โครงการรถเมล์ด่วนพิเศษ (บีอาร์ที) ที่รอรถแท็กซี่อัจฉริยะ ที่จอดรถอัจฉริยะ ป้ายจราจรอัจฉริยะ โครงการถนนรูปแบบใหม่, การเพิ่มพื้นที่สีเขียวและลานชีวิตใหม่ในวันหยุด, การจัดเก็บขยะไม่ให้ตกค้าง, การดูแลหาบเร่แผงลอยให้เป็นระเบียบที่เน้นให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม, แผนงานแก้ปัญหาน้ำท่วมขังให้ทันเหตุการณ์, การช่วยเหลือเด็ก-ผู้หญิง คนพิการ ผู้ด้อยโอกาสและผู้ประสบปัญหาความรุนแรงในครอบครัว, การจัดตั้งสโมสรกีฬา ศิลปะ และดนตรีทุกเขต, การจัดสร้างหอศิลป์กรุงเทพฯ, โครงการบริการกทม.ครบวงจรในจุดเดียว, การจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมอาชีพครบวงจร, การจัดตั้งศูนย์แนะนำและบริหารเงินออมครอบครัว และกองทุนพัฒนาอาชีพ ทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้เป็นโครงการที่จะดำเนินการทันที ซึ่งจะทำให้กรุงเทพฯของเราเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน
นายอภิรักษ์ เผยอีกว่า สำหรับทีมงานทั้งรองผู้ว่าฯและทีมงานที่ปรึกษาทุกคนที่ให้เกียรติมาร่วมงานกับตน ล้วนแต่เป็นผู้มีความรู้ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆอย่างแท้จริง ตนและทีมงานทั้งหมดพร้อมจะทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจ และความสามารถเพื่อสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตใหม่ให้กับชาวกรุงเทพฯทุกคนตามความมุ่งมั่นให้จงได้ ทั้งนี้จะเน้นการบริหารที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และกล้าให้ตรวจสอบในทุกแผนงาน โดยได้รับเกียรติจาก ดร.สิปปนนท์ เกตุทัต จะมาเป็นประธานสภาติดตามประเมินผลการบริหารจัดการของกทม.ด้วย
“วันนี้ผมยืนยันความพร้อมอีกครั้ง และตั้งความหวังว่า ชาวกรุงเทพฯทุกคน จะร่วมกับผมผลักดันความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคมนี้ ผมขอหนึ่งเสียงของท่าน เพื่อเป็นพลังสำคัญเปลี่ยนกรุงเทพฯครับ” นายอภิรักษ์ กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 26 ส.ค. 2547--จบ--
-ดท-