ฉบับที่ ๑๐ สรุปการประชุมสภาผู้แทนราษฎร การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘ วันพุธที่ ๑ กันยายน ๒๕๔๗ เวลา ๑๘.๓๐ - ๑๙.๓๐ นาฬิกา นายสุวรรณ กู้สุจริต สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ขอเสนอปรับลดงบประมาณของสำนักนายกรัฐมนตรีจำนวนร้อยละ ๑๐ โดยได้อภิปรายเกี่ยวกับงบประมาณของสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ดังนี้สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ตั้งงบประมาณในปี ๒๕๔๘ จำนวน ๔๐๙,๒๔๑,๐๐๐ บาท (สี่ร้อย เก้าล้านสองแสนสี่หมื่นหนึ่งพันบาท) ซึ่งสูงกว่าในปี ๒๕๔๗ จำนวน ๗๖ ล้านบาท จากวิสัยทัศน์ของสำนักข่าวกรองแห่งชาติจะเห็นว่ามีการปฏิบัติงานด้านการข่าวอย่างดีเยี่ยม สามารถแก้ปัญหาและแจ้งเตือนประชาชนในเหตุร้ายต่าง ๆ ได้ทันท่วงที แต่ในรอบปีที่ผ่านมาการปฏิบัติงานของสำนักข่าวกรองล้มเหลว ทำให้สถานการณ์ทางภาคใต้รุนแรงขึ้น มีคนบาดเจ็บและล้มตายเป็นจำนวนมาก จึงอยากทราบว่า สำนักข่าวกรอง มีการส่งสัญญาณและแจ้งเตือนประชาชนได้ทันเวลาหรือไม่ จึงเห็นได้ว่าการปฏิบัติงานข่าวของสำนักข่าวกรองแห่งชาติในภาคใต้ล้มเหลว จึงขอปรับลดงบประมาณในส่วนของสำนักข่าวกรองแห่งชาติ จำนวนร้อยละ ๑๐ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกรรมาธิการที่ขอสงวนความเห็น ได้อภิปรายในส่วนของสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนี้ ๑. จากการที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ โดยมีผู้ติดตามไปเป็นจำนวนมากเพื่อรักษาความปลอดภัย จึงมีการใช้เงินงบประมาณเป็นจำนวนมาก เป็นการสมควรหรือไม่ ๒. การเดินทางไปจับกุมและตรวจค้นบ้านที่ต้องสงสัยว่าค้ายาบ้าที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อยากทราบว่า เรื่องนี้ได้ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว ได้เอาเงินงบประมาณไปชดใช้หรือยัง และมีคนไปดูแลผู้เสียหายหรือไม่ รวมทั้งอยากให้ตรวจสอบข้อมูลที่ได้รับจากตู้ ปณ. นายกรัฐมนตรี ว่าถูกต้องหรือไม่ ก่อนที่จะดำเนินการใด ๆ ๓. การจับแท็กซี่ หรือมาเฟีย ที่สถานีขนส่งหมอชิตแล้วผิดพลาด เพราะแท็กซี่มีใบอนุญาตที่ถูกต้อง จึงอยากทราบว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไร- ๒ - ๔. กรมประชาสัมพันธ์ กรณีการเปิดช่องโทรทัศน์ ๑๑/๑ และ ๑๑/๒ มีความจำเป็นอย่างไรประเทศชาติได้ประโยชน์หรือไม่ และได้ค่าสัมปทานเท่าไร เพราะถ้าได้ค่าสัมปทานคุ้มค่า งบประมาณของกรมประชาสัมพันธ์ก็สมควรตัดออกอีก นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ ขออภิปรายในมาตรา ๕ สำนักนายกรัฐมนตรี ที่ตั้งงบประมาณ ไว้ ๙,๕๓๐,๔๒๔,๑๐๐ บาท (เก้าพันห้าร้อยสามสิบล้านสี่แสนสองหมื่นสี่พันหนึ่งร้อยบาท) ขอแปรญัตติปรับลดงบประมาณ๒,๒๗๓,๐๑๑,๙๘๕ บาท (สองพันสองร้อยเจ็ดสิบสามล้านหนึ่งหมื่นหนึ่งพันเก้าร้อยแปดสิบห้าบาท) โดยจะขออภิปรายแต่ละสำนักงานดังนี้ ๑. สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จำนวน ๓๙๖,๖๙๕,๘๐๐ บาท (สามร้อยเก้าสิบหกล้านหกแสนเก้าหมื่นห้าพันแปดร้อยบาท) ปรับลด ๕๙,๕๐๔,๓๗๐ บาท ( ห้าสิบเก้าล้านห้าแสนสี่พันสามร้อยเจ็ดสิบบาท) เนื่องจากการตั้งงบประมาณในหมวดเงินเดือนของลูกจ้างชั่วคราวมีการตั้งงบเพิ่มขึ้นถึง ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ทำไมจึงมีการจ้างลูกจ้างชั่วคราวในช่วงใกล้เลือกตั้ง และในหมวดเงินอุดหนุนทั่วไปมีการตั้งเงินเพิ่มขึ้นจากปี ๒๕๔๗ จำนวน ๗ ล้านบาท เป็น ๘๖ ล้านบาท ซึ่งมีการตั้งหมวดรายจ่ายใหม่ได้แก่ เงินอุดหนุนการเพิ่มขีดความสามารถในการติดตามการปฏิบัติราชการของรองนายกรัฐมนตรี จำนวน ๗๐ ล้านบาท และเงินอุดหนุนการวิจัยการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจำนวน ๙ ล้านบาท การตั้งงบเหล่านี้เป็นการตั้งงบหาเสียงหรือไม่ และเป็นการจ่ายเงินให้กับใคร สำนักงบประมาณจะมีมาตรการติดตามการใช้จ่ายอย่างไร และเอาใบเสร็จมาจากไหน อย่างไรก็ตาม อยากให้ตัดเงินอุดหนุนทั่วไป เพราะตรวจสอบการใช้เงินยาก ๒. กรมประชาสัมพันธ์ มีงบประมาณที่ตั้งไว้ ๑,๐๒๔,๘๓๓,๑๐๐ บาท (หนึ่งพันยี่สิบสี่ล้านแปดแสนสามหมื่นสามพันหนึ่งร้อยบาท) ปรับลดลง ๒๕๖,๒๐๘, ๒๗๕ บาท (สองร้อยห้าสิบหกล้านสองแสนแปดพันสองร้อยเจ็ดสิบห้าบาท) เพราะมีจุดรั่วไหลมาก ๓. สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี งบประมาณที่ตั้งไว้ ๑,๖๗๙,๔๗๘,๖๐๐ บาท (หนึ่งพันหกร้อยเจ็ดสิบเก้าล้านสี่แสนเจ็ดหมื่นแปดพันหกร้อยบาท) ปรับลดลง ๒๕๑,๙๒๑,๗๙๐ บาท (สองร้อยห้าสิบเอ็ดล้านเก้าแสนสองหมื่นหนึ่งพันเจ็ดร้อยเก้าสิบบาท) ค่าใช้จ่ายเฮลิคอปเตอร์ สำหรับผู้บังคับบัญชาชั้นสูงจำนวน ๔๐ ล้านบาทนั้นเป็นการตั้งมา เพื่อซื้อใหม่หรือไม่ อยากทราบว่า คำว่าผู้บังคับบัญชาชั้นสูงต่างจากคำว่าบุคคลสำคัญอย่างไร ๔. สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีมีการตั้งเงินอุดหนุนทั่วไป สำหรับการวิจัย เพื่อใช้เป็นค่าใช้สอยวัสดุและสาธารณูปโภคจำนวน ๒,๑๐๐,๔๐๐ บาท (สองล้านหนึ่งแสนสี่ร้อยบาท) ซึ่งไม่เคยมีการตั้งไว้มาก่อน และการวิจัยนี้เป็นโครงการอะไร ๕. สำนักงบประมาณ ตั้งงบประมาณค่าคุรุภัณฑ์ คอมพิวเตอร์จำนวน ๕๗ ล้านบาท และคุรุภัณฑ์ ขนส่งพาหนะ ๕ ล้านบาท ๒ รายการนี้มีความจำเป็นหรือไม่ ๖. สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เป็นตัวอย่างของหน่วยงานที่ใช้งบประมาณฟุ่มเฟือยที่สุด โดยมีการตั้งงบเงินเดือน ค่าจ้างเพิ่มขึ้น ๑๕ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๒๑ ส่วนค่าตอบแทนใช้สอยและวัสดุ ในปี ๒๕๔๗ ตั้งงบจำนวน ๓๒ ล้านบาท แต่ปีนี้ตั้งไว้ ๗๖ ล้าน การตั้งงบใช้ในการปรับปรุงห้องประชุม ๒ ห้อง จำนวน ๑๒ ล้านบาท จำเป็นหรือไม่ ๗. สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา ทำไมมีงบประมาณเพิ่มขึ้นจากปี ๒๕๔๗ ถึงร้อยละ ๑๐๐ และได้มีการประเมินผลการดำเนินงานของปี ๒๕๔๗ หรือไม่ ๘. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบข้าราชการ ตั้งงบประมาณปีก่อน ๑๙๒ ล้านบาท ในปีนี้๒๔๕ ล้านบาท งบรายจ่ายเงินเดือนค่าจ้างเพิ่มขึ้นถึง ๒๑.๖ ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการเสนอแนะและให้ คำปรึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาระบบราชการมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง ๙. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย- เงินงบประมาณปีละ ๑,๐๐๐ ล้านบาท ผลการวิจัยมีอะไรบ้าง กรรมาธิการได้เคยขอดูผลงานวิจัยบ้างหรือไม่ และงานวิจัยสนับสนุนใครบ้าง- งบการวิจัยปีละ ๑,๐๐๐ ล้านบาท ได้ผลงานวิจัยปีละกี่เรื่อง อยู่ที่ไหน และ ผลงานวิจัยนี้มีประโยชน์แก่ประเทศชาติอย่างไรบ้าง